คุยแบบชิลๆกับ"นัททิว" | คมชัดลึก

พระเอกละคร

@ พูดถึงงานละครเรื่อง "เหนือมนุษย์" กันก่อน กระแสเป็นอย่างไรบ้าง

 ได้รับการตอบรับที่ดี สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะการรอคอยของแฟนคลับ เพราะเรื่องนี้ถ่ายทำนานมาก เราเริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2553 ตอนนี้เกือบน็อกรอบแล้ว ก่อนหน้านี้แฟนคลับก็มีบ่นๆ ว่าเมื่อไหร่จะออก เพราะก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าจะได้ออนหลายรอบ แต่ไม่ได้ฉายสักที จนในที่สุด ก็ได้ฉาย คนดูส่วนหนึ่งมาจากคนที่รอ และอีกส่วนมาจากกลุ่มใหม่ๆ เพราะได้ดูตอนสองตอนแรกแล้วรู้สึก ว่าเนื้อเรื่องของละครสนุกเลยติดตามต่อ รู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นละครยาวเรื่องแรกของผมด้วย ที่ถ่ายทำช้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการถ่ายทำที่ยากกว่าละครทั่วไป เทคนิคเยอะ เอฟเฟกท์เยอะ มีทั้งสลิง ระเบิด เวลาบู๊เราก็ไม่ได้บู๊แบบทั่วๆ ไป ท่าเตะต่อยจะเยอะแล้วท่าต้องสวย ผมเองเวลาถ่ายฉากบู๊ ต้องสลับถ่ายกับสตั๊นท์ เพื่อเก็บภาพให้ท่าสวยขึ้น มันจึงเป็นอะไรที่ยากแล้วก็ละเอียด

@ สำหรับบท เหมันต์ ที่ได้รับเหมือนหรือแตกต่างกับตัว นัททิว มากน้อยแค่ไหน

 ตรงกันข้ามแทบทุกอย่าง (หัวเราะ) ตั้งแต่เรื่องบุคลิก เพราะตัวผมเองเป็นคนคนสบายๆ พูดเก่ง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น แต่เหมันต์ เป็นคนเก็บกดและจะไม่พูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก จะเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ คอยปิดกั้นตัวเองเพื่อให้คนอื่นๆ ไปไกลตัวเรา แถมเป็นละครยาวเรื่องแรกที่ผมได้แสดง ซึ่งก่อนหน้า ที่จะมาเล่นละครเรื่องนี้ ผมเคยเล่นเรื่อง วัยป่วน ก๊วนล่าฝัน มาก่อน ส่วนเรื่องเหนือมนุษย์นั้นต้องเรียกว่าจัดหนักมาก เพราะเป็นละครหลังข่าวแถมยังเป็นวันศุกร์ - อาทิตย์ ก็จะถ่ายกันเหนื่อยมาก

@ พอละครออกมาแล้วฟิตแบ็กดีอย่างนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

 รู้สึกหายเหนื่อยทันที (ยิ้ม) ตอนแรกที่ถ่าย ผมคิดเลยว่านี่เหรอละครหลังข่าวช่อง 7 ขนาดเราถ่ายเป็นสต็อกยังเหนื่อยขนาดนี้ ต้องบอกก่อนเลย ว่าตั้งแต่ทำงานเป็นเอเอฟ เป็นนักร้อง ผมไม่เคยทำงานเช้าวันหนึ่งไปจนเช้าอีกวันหนึ่งเลย รู้สึกว่าหนักมาก แต่พอละครออกมา ได้เห็นผลงานละครตัวเอง ได้เห็นฟีดแบ็กจากเหล่าแฟนคลับที่ทวิตมา รู้สึกหายเหนื่อยที่คนดูชอบ แล้วตัวละครของผมนั้น มีหลายคนให้ความสนใจ เวลาไปไหน ก็มีคนรู้จักเรามากขึ้นด้วย เมื่อก่อนอาจจะรู้แค่ว่าเราเป็นเอเอฟแค่นั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นนัททิว แต่ตอนนี้คนรู้จักมากขึ้น ว่าเป็นนัททิวที่รับบทเป็นเหมันต์ อย่างวันนั้นไปถ่ายละครทับทิม (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) จะมีชาวบ้านมายืนดูแล้วตะโกนเรียกว่าพี่เหมันต์ พี่แก้วรุ้ง ขอถ่ายรูปหน่อย ซึ่งเราได้ฟังก็รู้สึกดีใจ

@ พอเป็นนักแสดงฐานแฟนคลับก็มากขึ้น

 ใช่ จากเดิมที่มีแต่กลุ่มวัยรุ่น ตอนนี้ยังมีพี่ ป้า น้า อา ที่ได้ดูละครก็รู้จักเรามากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ เขาจะรู้สึกเหมือนเราเป็นฮีโร่ในการ์ตูน บอกตรงๆ ว่าเหนื่อย แต่ก็ยังอยากจะทำงานด้านแสดงต่อไป ถ้ามีโอกาสเรื่องต่อไป ก็อยากเล่นอีก ซึ่งตอนนี้ก็มีละครอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังถ่ายทำอยู่คือเรื่องเสน่ห์บางกอก ซึ่งเรื่องนี้จะตรงกันข้ามกับละครเรื่องเหนือมนุษย์ จะติดคอมเมดี้หน่อยๆ แล้วบทที่ผมแสดงจะเล่นเป็นเพื่อนของพระเอกอีกทีหนึ่ง

@ งานนักแสดงแตกต่างกับการเป็นนักร้องมากไหม

 แตกต่างเยอะมากเลย จริงๆ แล้วมันมีส่วนที่คล้ายบ้าง แต่สำหรับผมแล้วส่วนที่ต่างมันเยอะกว่า เพราะผมเองได้ทำงานมาทั้งสองอย่าง จะรู้ว่ามันต่างกันอย่างไร เวลาที่ผมร้องเพลง ผมไม่ต้องรับบทเป็นใคร สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่บนเวที แต่พอเป็นละครปุ๊บมันไม่ใช่ตัวเรา แม้จะรับบทผ่านตัวนัททิว แต่เราก็ต้องเป็นคนอื่นซึ่งไม่ใช่ตัวเรา นอกจากบทบาทแล้ว ลักษณะการทำงานก็ต่างกัน อย่างเวลาร้องเพลงเราไม่ต้องขึ้นกับอะไรเยอะขนาดนี้  อย่างแรกคือการรอคอย คือเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตหรือร้องเพลงเราไม่ต้องรอนาน พอถึงเวลาก็ร้องเพลงเล่นคอนเสิร์ตได้เลย แต่พอเป็นนักแสดงต้องเข้ากองถ่าย เวลารอเข้าฉากมันนานมาก
 
@ ต้องเล่นกับทับทิม เป็นอย่างไรบ้าง

 มีเข้าฉากด้วยกันเยอะ นอกจากแสดงแล้วยังมีเลิฟซีนบ้าง จริงๆ แล้วผมว่าเปลี่ยนชื่อละครเรื่องนี้เป็น เลิฟซีน น่าจะเหมาะกว่า ไม่ต้องเป็นเหนือมนุษย์หรอก (หัวเราะ) เลิฟซีนเยอะมาก คือคู่ของผมจะเป็นเอะอะก็จะกอดกัน หอมแก้มกันตลอด ถือว่าให้กำไรกับผู้ชมแล้วก็ให้กำไรกันเองด้วย (หัวเราะ) แต่เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นมีใครแซวให้เป็นแฟนกันนอกจอ แต่เขาจะใช้คำว่าอยากให้เรื่องหน้าเราได้โคจรมาเจอกันอีก

@ ถูกเนื้อต้องตัวเยอะขนาดนี้มีหวั่นไหวบ้างหรือเปล่า เพราะมีข่าวว่า นัททิวตามจีบทับทิมอยู่
 
 ห๊า! จริงเหรอ (ทำเสียงแปลกใจ) ไม่ถึงกับจีบเราเป็นแค่พี่น้องในการทำงานมากกว่า (เสียงเขินๆ) ช่วงแรกๆ ที่ต้องเล่นเลิฟซีนไม่ได้หวั่นไหวนะ แต่เราตื่นเต้นมากกว่า เพราะเราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน พอมาเจอปุ๊บ ก็ต้องมาเจอฉากแบบนี้ จะตื่นเต้นบ้าง ก่อนเล่นก็ต้องขอโทษเขาล่วงหน้า ซึ่งทับทิมก็เข้าใจ ว่ามันเป็นการแสดง ส่วนการแสดงของผม ถ้าถามว่าผมให้คะแนนตัวเองแค่ไหนขอตอบเลย ว่าเรื่องการแสดงผมยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ผมเป็นคนยอมรับความจริงอยู่แล้ว ว่าเรายังต้องพัฒนาต่อไป

ว่าด้วยเรื่องงานเพลง
 
@ ผลงานเพลงตอนนี้เป็นอย่างไร

 ตอนนี้ใกล้ออกซิงเกิ้ลแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำอัลบั้มเดี่ยว ซึ่งผมไม่เคยทำงานอั้ลบั้มเดี่ยวเลย เร็วๆ จะมีมีซิงเกิ้ลออกมาช่วงเดือนนี้แน่นอน ชื่อเพลงว่า "ต่อให้เธอจะลืม" ส่วนอัลบั้มจะตามมาช่วงเดือนเมษายน นี้ชื่ออัลบั้มว่า นัททิว เดอะ แพสชั่น คอนเซ็ปต์ก็ตามชื่อ คำว่าแพสชั่นมีความหมาย ว่าเป็นรักที่ลุ่มหลง คลั่งไคล้ ในอัลบั้มนี้ จะสื่อสิ่งที่เรารักและหลงไหล แล้วสื่อถึงสิ่งที่แฟนคลับหลงใหลในตัวเรา ซึ่งในอัลบั้ม จะมีทั้งเพลงแล้วก็โฟโต้บุ๊กด้วย ผมว่าทุกคนน่าจะชอบ เห็นภาพหลายภาพในเล่มผมชอบมาก เพราะเราไปถ่ายที่เกาหลี นอกจากถ่ายโฟโต้บุ๊กแล้ว เรายังไปถ่ายเอ็มวีด้วย เรียกว่าไปครั้งเดียวเอาให้คุ้ม วันแรกที่ไปถึงติดลบ 10 องศา แต่ขอบอกว่าวิวสวยมาก วิธีการทำงานเราถ่ายแฟชั่นก่อน พอตากล้องได้ภาพแล้ว เราก็จะต้องถ่ายเอ็มวีต่อ เหนื่อยมากแต่คุ้ม คิดว่าตัวเอ็มวีเต็มๆ น่าจะได้ดูกันช่วงเดือนมีนาคม

@ อัลบั้มนี้มีเสน่ห์ตรงไหน

 อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกที่ผมบอกได้เต็มปากว่าผมเองไฟแรงมาก ตื่นเต้นมาก แล้วทุกกระบวนการพิถีพิถันมาก นอกจากนี้ยังมีเพลงและภาพที่เวลาฟังเพลงแล้วมีภาพดู มีอะไรที่พิเศษๆ ของนัททิวเก็บไว้

@ มีข่าวว่ากำลังจะมีคอนเสิร์ตกับกลุ่มเอเอฟ

  ใช่ กำลังจะมีคอนเสิร์ตชื่อว่า เอเอฟ คอมเมดี้ โชว์ มัส โก ออน (AF COMEDY SHOW MUST GO ON) ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่เอเอฟทำร่วมกับโต๊ะกลม แล้วก็เวิร์คพอยท์ โดยที่คอนเสิร์ตนี้ บางคนงงว่าเป็นคอนเสิร์ตหรือละครเวที จริงๆ แล้วเป็นคอนเสิร์ตซ้อนละคร ซึ่งจะเป็นคอนเสิร์ตที่มีเรื่องราว มีมุกตลก ซึ่งจะแสดงวันที่ 19 มี.ค. ที่ธันเดอร์โดม มี 2 รอบ คือรอบบ่ายแล้วก็รอบหนึ่งทุ่ม นับเป็นโชว์รูปแบบใหม่ เอเอฟจัดเต็ม ส่วนเพลงก็เยอะมาก ความน่าสนใจน่าจะเป็นการที่เราพยายามจะพรีเซ็นต์ความสมบูรณ์แบบให้คนดูเห็น แต่ในคอนเสิร์ตครั้งนี้เราจะนำเสนอความผิดพลาด แต่ไม่ได้นำเสนอในด้านซีเรียสแต่จะเสนอในความฮามากกว่า

ข่าวของนัททิว

@ รู้สึกอย่างไรที่พอมาเป็นนักร้อง - นักแสดง แล้วต้องควบคู่กับการเป็นข่าวฉาว

 กับข่าวฉาวนี่เรียกว่าชินยิ่งกว่าตื่นมาแล้วต้องแปรงฟันตอนเช้าเสียอีก ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ควบคู่กับคนในวงการ เพราะทุกคนต้องเจอ ขนาดผมเองตั้งแต่ก้าวเข้าบ้านเอเอฟ ตอนนั้นผมยังไม่มีชื่อเสียงยังเป็นข่าว  ตอนแรกที่เจอข่าวก็งงๆ ยังสงสัยว่าทำไมต้องมีข่าวแบบนี้ แต่พอคิดไปคิดมา รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนามสกุลเอย เรื่องเส้นสายเอย เรื่องหน้าตาเอย หลังๆ เจอเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวทะเลาะกับคนโน้น กิ๊กกับคนนั้น ภาพหลุดอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งข่าวที่จริงก็มีบ้างซึ่งผมจะตอบได้เลย แต่ที่ผ่านๆ มากลับเป็นข่าวที่เราต้องตั้งคำถามกับตัวเองทุกครั้ง ว่าข่าวนี้มันมาได้อย่างไร (หัวเราะ)

@ มีข่าวกับรอน (ภัทรภณ โตอุ่น) ว่าไม่ถูกกัน เรื่องจริงเป็นอย่างไร

 ตอนแรกที่ได้ยินข่าวนี้ ก็งงไปเหมือนกันว่าข่าวนี้มาได้อย่างไร เพราะกับเพื่อนๆ เอเอฟ 5 ทุกคน เราก็ไม่เคยมีปัญหากับใครทุกคนก็แฮปปี้กันหมด แต่ผมไม่เคยถามสื่อว่าคุณคิดอย่างไร ถึงได้สร้างประเด็นนี้ขึ้นมา เราก็คิดเอง ว่าอาจเป็นเพราะช่วงที่เราออกโปรเจค วันทรูทรีโซนล ผมเคยอยู่ในโปรเจคนั้นกับเพื่อนๆ เผอิญช่วงนั้นเพิ่งเซ็นสัญญากับช่อง 7 แล้ว ได้งานละครเรื่อง วัยป่วนฯ แล้วก็มีละครเรื่องเหนือมนุษย์เข้ามาด้วย ทำให้เวลาเพื่อนๆ ไปโปรโมทงานเราไม่ได้ไปเพราะติดถ่ายละคร ซึ่งมีช่วงหนึ่งซึ่งเพื่อนไปทำงานกัน 3 คน ตอนนั้นเลยตัดสินใจขอถอนตัวออกจากโปรเจกท์ เพราะเราเองก็เกรงใจเพื่อนๆ มันอาจเป็นเพราะประเด็นนี้ก็ได้ ที่ทำให้คนนำไปโยงกันเองว่าการที่นัททิวออกจากโปรเจคเพราะนัททิวทะเลาะกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งในวง ซึ่งส่วนใหญ่คิดว่าเป็นรอน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เหตุผลเป็นเพราะเรื่องงาน ทุกวันนี้เวลาเราไปงานเราก็เจอรอน ก็ยังคุยกัน กินข้าวด้วยกันเป็นปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ผมว่ามันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่คิดกันไปเองมากกว่า

@ นอกจากข่าวทะเลาะกับรอนแล้วยังมีข่าวว่ากิ๊กกับรอนด้วย

 ใช่ (หัวเราะ) ข่าวกิ๊กกันนั้นมีมาก่อนที่ผมจะทะเลาะกับรอนเสียอีก ผมว่าอาจเป็นเพราะเขาไม่สามารถจับผมคู่กับรอนได้ เลยจับเรามาทะเลาะกันหรือเปล่า ผมไม่เข้าใจกับสิ่งที่คนถาม คิดได้ยังไง จากคนที่เคยเป็นกิ๊ก กันกลายเป็นมาทะเลาะกันนั้น มันทำให้ผมคิดได้ ว่าข่าวที่เกิดขึ้นมันเป็นการสอนคนดูได้ไหม ว่าการที่จะเสพหรือรับสื่อ จะต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม รับฟัง ขนาดไหน บางทีสื่อเวลารายงานเยอะๆ มันกลายเป็นว่าข่าวมันไปขัดกันเอง คนดูควรคิดไหม ว่าทำไมข่าวถึงขัดกัน ยังยืนยันนะว่าผมแมนทั้งแท่ง และยังชอบผู้หญิงอยู่ แต่ตอนนี้ยังโสดสนิทเท่านั้น

หัวใจยังไร้เจ้าของ

@ แล้วสเปกสาวๆ ของนัททิวเป็นแบบไหน

 ถ้าถามสเปกก็มี แต่มันเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ สเปกของผมคือความประทับใจครั้งแรกมากกว่า คือเราเจอเขาแล้วเรารู้สึกว่าเขาน่ารัก และเราควรเข้าไปคุยกับเขา จริงๆ แล้วผมจะชอบผู้หญิงผมยาว แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ผมสั้น แต่มีบุคลิกที่น่าสนใจเราก็สามารถเข้าไปคุยได้เหมือนกัน

@ เคยเจอหรือยัง

 เคยเจอเป็นเพื่อน ที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นเป็นปี 1 ผมเพิ่งเข้า แล้วเจอเขาเป็นครั้งแรก เป็นผู้หญิงผมยาว ผิวขาว ใส่แว่นกรอบหนาๆ สีขาว เป็นคนที่แว่นลอยมาก่อนหน้า เราก็รู้สึกว่าเขาดูดี (ทำหน้าเขินๆ) ผมถึงได้บอก ว่ามันเปลี่ยนไปได้ บางคนเราก็ประทับใจจากการแต่งตัว ผู้หญิงส่วนมากอาจคิดว่าต้องนุ่งสั้นผู้ชายถึงสนใจ แต่ผมเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บอกได้ว่าไม่จริง อย่างผมเห็นผู้หญิงใส่กระโปรงยาวลายดอกไม้ผมว่าเขาน่ารัก

@ เข้าวงการมานานได้เจอคนที่ใกล้เคียงกับคำว่าแฟนหรือยัง

 ยัง ต้องบอกเลยว่ายิ่งเข้ามาในวงการบันเทิงคนที่ผ่านเข้ามาถึงเราล้วนแต่ผิวเผิน เพราะการทำงานในแต่ละวันของเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วผมเองต้องมีบทบาทหลายอย่าง ทั้งร้องเพลง ทั้งงานแสดง งานอีเว้นท์ เดินแบบ ถ่ายแบบ ซึ่งเจอคนเยอะก็จริง แต่คนที่เราเจอกลับอยู่กับเราไม่นาน คือเจอแล้วก็ผ่านไป ก็เลยคิดว่าเรายังไม่เจอคนที่ใช่

@ ด้วยนามสกุล ด้วยความที่เป็นคนในวงการบันเทิง ยากไหมสำหรับการจะคบใครสักคน

 ผมบอกตรงๆ ว่าการที่เป็นคนในวงการบันเทิง มันทำให้คบคนยากขึ้นจริงๆ และผมก็คิดเหมือนกันนะ ว่าคงไม่ได้มีแต่ผมที่คิดแบบนี้ เพราะการที่เราจะตัดสินใจคบใครเป็นแฟน เราจะคบคนอย่างไร เพราะเราเป็นคนสาธารณะที่คนให้ความสนใจ ต้องคิด และการที่เราจะมีใครสักคน มันต้องใช่แล้วเขาต้องเป็นคนที่ผมต้องเดินด้วยกันตลอดทาง เพราะมันดูดีกว่า การที่ผมเดินซ้ายควงผู้หญิงคนหนึ่ง ขวาเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ดังนั้นถ้ายังไม่เจอ ถ้ายังไม่ใช่ มันก็ยังไม่ใช่

@ กับแฟนคลับเราดูแลเขาอย่างไร

 ผมว่าแฟนคลับดูแลผมมากกว่าที่ผมจะดูแลเขานะ (หัวเราะ) เพราะเขาจะคอยให้กำลังใจเราตั้งแต่ตอนที่อยู่ในบ้านเอเอฟแล้ว พอมีผลงานเขาก็ติดตามผลงานเรามาตลอด แรกๆ ที่มีแฟนคลับก็รู้สึกงงมาก ไม่รู้จะจัดการอย่างไร เพราะจู่ๆ วันหนึ่งก็ให้ของเราก็คิดเหมือนกันว่าจะใส่ยา ใส่อะไรหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ถ้าหน้าคุ้นๆ ให้ของก็โอเค จริงๆ แล้วการมีแฟนคลับ มันทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นก็จริง แต่เราก็ต้องมีความชัดเจนเหมือนกัน ถ้าเราทำตัวสบายๆ ดีไม่ดีเราอาจจะไปกระทบกระเทือนจิตใจแฟนคลับบางคนได้ สิ่งที่เราจะตอบแทนเขาได้ น่าจะเป็นผลงานเรื่องละคร เพลง ซึ่งเราควรทำให้เต็มที่ ให้ผลงานออกมาดีที่สุด เพราะสุดท้ายคนที่เสพงาน ก็คือพวกเขา ผมอยากให้เขาปลื้มใจ และภูมิใจสามารถพูดกับใครๆ ได้เต็มปากว่าชอบเราจริงๆ

เขาคนนี้ชื่อ ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม (นัททิว)

เกิดวันที่ 5 มิถุนายน 2532

การศึกษา กำลังศึกษาอยู่ชั้น ปี 4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 
ผลงานที่ผ่านมา ละครเรื่องจำเลยกามเทพ วัยป่วน ก๊วนล่าฝันภาพยนตร์คอนเสิร์ต 3 มิติ (3D) ล่า ฝ่า ฝัน “CONFESSION OF THE WINNERS” ภาพยนตร์เพลงเฉลิมพระเกียรติ เรื่อง "แผ่นดินของเรา" (ปัจจุบันเป็นศิลปินในสังกัด TRUE FANTASIA และนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7)
ผลงานปัจจุบัน ละครเรื่อง เหนือมนุษย์ เสน่ห์บางกอก และกำลังจะออกอัลบั้มเดี่ยว Natthew The Passion พร้อม Photo Book (ประมาณ เม.ย.54)

เรื่อง : ดวงใจ สอาดจิตต์
ภาพ : เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล