บันเทิง

ส่องภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนน่าดู?

ส่องภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนน่าดู?

03 ก.พ. 2554

ในปีเสือที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อ ว่าหนังไทยยกขบวนเข้าฉายในโรงมากกว่า 60 เรื่อง มีทั้งเปรี้ยงปร้างกันตั้งแต่เริ่มฉาย หรือป้อแป้กันตั้งแต่เห็นตัวอย่าง และมีไม่น้อยที่หน้าหนังทำท่าจะดี แต่กลับมาแป้กตอนเข้าโรงซะได้

แถมปีที่แล้วจากเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ ทำให้หนังหลายเรื่องได้รับผลกระทบไปพอสมควร เรียกว่าเล่นเอาผู้สร้างต้องลุ้นกันตัวโก่ง ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว ส่วนในปีนี้ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีเรื่องอะไรให้ยลกันล่ะตามเรามา
 
ประเดิมกันที่ ค่ายพระนครฟิลม์ ที่ปีที่แล้วตอบสนองคนดูกลุ่มวัยรุ่นเหมือนทุกๆ ปี เลยไม่เจ็บหนักอย่างที่คิด และคาดว่าปีนี้ก็คงยังคงคอนเซ็ปต์ โปรเจกท์ใหม่ เน้นฮาแตก คละเคล้าด้วยเรื่องสั่นประสาทเหมือนเดิม ดูได้จากภาพยนตร์ที่เพิ่งเข้าฉายไปหมาดๆ  กับ “หอแต๋วแตก แหวกชิมิ” ผลงานการกำกับของพจน์ อานนท์ นอกจากนี้ยังมีหนังไตรภาคอย่าง มือปืนดาวพระศุกร์ ของ ต้อม ยุทธเลิศ ที่กำลังจะมีชื่อใหม่ว่า “เป้ ท่าทราย” แถมยังมีภาพยนตร์สั่นประสาทอิงกระแสอย่าง “ศพเด็ก 2002” และภาพยนตร์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยแบบบ้านๆ อย่าง “เหลือแหล่” ผลงานการกำกับครั้งแรกของโย่ง เชิญยิ้ม นอกจากนี้ยังมี ก้านคอกัด ของโจอี้บอย ปล้นนะยะภาค 2 หลวงพี่เท่งภาค 5 กึ๋ยรีเทิร์น (พี่ปื้ด)ฯลฯ

 ส่วน ค่ายสหมงคลฟิล์ม แม้ปีที่ผ่านมาหนังหลายเรื่องไม่ทำเงินตามเป้า (ในประเทศ) แต่หากดูรายได้จากต่างประเทศแล้วนับว่าดีทีเดียว มาปีนี้ มีภาพยนตร์แนววัยรุ่น ตลกๆ ที่เน้นบู๊กระจายและดูทุนจะหนา เพราะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแลต 2 (3D) ที่ร่วมทุนกับญี่ปุ่น หรือ The Kick ที่ร่วมทุนกับเกาหลี และหากไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาค 3 และ 4 น่าจะเข้าปีนี้ ส่วนหนังที่กำลังจะฉายเร็วๆ นี้อย่าง หลุดสี่หลุด และ เท่งโหน่ง จีวรบิน ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคอหนังไทย แถมยังมีเรื่องอื่นๆ ต่อคิวอีกเพียบไม่ว่าจะเป็น ฮักนะสารคาม ซัมบารา เพื่อนไม่เก่า จั๊กกะแหล่น อันธพาล ฯลฯ

 ในขณะที่ ค่ายจีทีเอช แม้หนังทุกเรื่อง จะไม่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็เรียกได้ว่าไม่เจ็บตัว (และอาจมีกำไรด้วยซ้ำ) ด้วยคอนเซ็ปต์ประจำตัวที่ว่า ขอทำหนังที่เราอยากทำ แต่ก็ยังอุตสาห์สอดแทรกรสนิยมของคนดูเข้าไปด้วย จึงน่าจะการันตีได้ว่าหนังปีนี้ต้องเป็นแบบที่แฟนๆ จีทีเอชอยากดูแน่นอน ประเดิมกันที่ภาพยนตร์เรื่อง “ห่วยขั้นเทพ” หรือ Succeed ที่ได้ เก้า จิรายุ ละอองมณี มาแสดงนำพร้อมๆ กับนักแสดงรุ่นใหม่ใสกิ๊ง ผลงานการกำกับของ เก้ง จิระ มะลิกุล ตามมาติดๆ กับ “ลัดดาแลนด์” เรื่องราวของหมู่บ้านสยองผลงานการกำกับของ จิม โสภณ ศักดาพิสิษฎ์ ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง “ก้อง” สหรัถ สังคปรีชา และ “ป๊อก” ปิยธิดา วรมุสิก มาแสดง ส่วนอีก 2 เรื่องที่เหลือ (หากไม่มีการพลิกโผ) เราจะได้เห็นผลงานการกำกับของ "ย้ง" ทรงยศ สุขมากอนันต์  ...ดูๆ ไปแล้วภาพยนตร์ปีนี้ของจีทีเอชอาจแจ้งเกิดดาราหน้าใหม่ได้อีกหลายคนทีเดียว

หันมาดูที่ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น เป็นอีกค่ายหนึ่งที่ดูเหมือนปีที่ผ่านมารายได้จะเรื่อยๆ มาเรียงๆ อย่างเรื่อง อินทรีแดง ที่ตั้งเป้าเอาไว้สูงก็ล้มไม่เป็นท่า มาปีนี้ทางค่ายจึงมุ่งเน้นหนังวัยรุ่น และระทึกขวัญตามกระแส ประเดิมที่โปรเจคคอมเมดี้ ที่ได้ "แน็ค" ชาลี ไตรรัตน์ จับคู่กับ "อาร์ตี้" ธนฉัตร ตุลยฉัตร มาเป็นบัดดี้มาดกวน ป่วนอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เรื่อง "ฮาศาสตร์" ผลงานการกำกับของ พิ้งและพรชัย เรื่องถัดมาจะเป็นแนวสยองขวัญ ที่ขอเล่นกับความรู้สึกและความกลัวของแต่ละคน

สำหรับค่าย เอ็มเทอร์ตี้ไนน์ (M39) ก็น่าจับตามองไม่น้อย สำหรับปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จท่วมท้นจากเรื่อง สุดเขตสเลดเป็ด หากดูจากท่าที และแนวทางการทำงานแล้ว คาดว่าคงทำหนังหลากแนวที่มุ่งเน้นเอาใจตลาดกันต่อไป ประเดิมที่ “เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก” ของสองผู้กำกับเลือดใหม่ "เค" ไชยณรงค์ แต้มพงษ์ กับ "ฉิก" สกล เตียเจริญ และอาจตามด้วยภาพยนตร์สยองขวัญ สั่นประสาท ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างเคาะบท

ปิดท้ายกับค่าย ฟิล์มอาร์อัส ที่เรียก ว่าอ่วมกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว กับโปรเจคท์ภาพยนตร์เรื่อง “บางกอกกังฟู” ที่มีปัญหาของนักแสดงนำอย่าง “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เข้ามาตั้งแต่ยังไม่ถ่าย ทำให้ต้องเปลี่ยนทั้งตัวนักแสดงนำ และบทภาพยนตร์กันไป นอกจากนี้ยังมีของค่ายอื่นๆ ที่ยังจ่อคิวภาพยนตร์ดีๆ ไม่ว่าจะเป็น บางคนแคร์ แคร์บางคน Baby Arabia ชิปหาย ปัญญากับเรณู รักโง่ๆ ฯลฯ ที่ดาหน้ามาให้เหล่าคนดูเลือกเสพ ...คิดออกหรือยังว่าปีนี้จะดูเรื่องไหนกันดี?