
มองผ่านเลนส์คม - ที่โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านแก่เด็กๆ ทั้งเผื่อแผ่โอกาสแก่นักเรียนโรงเรียนจะโหนงพิทยาคม และอีกสองโรงเรียนที่ผมจำไม่ได้ รวมนักเรียนเข้าฟังราว 300 คน
ผู้จัดชื่อ ‘กลุ่มรุ่งอรุณ’ เป็นชาวจะนะล้วนๆ เป็นอาจารย์เกษียณอายุ คนขายไข่ คนรับซื้อของเก่า ทำโครงการด้วยใจเอกชนคนคิดดี ช่วยกันถือโครงการไปขายเพื่อนๆ ขอเงินสนับสนุน กำนันตำบลตลิ่งชันเพื่อนร่วมรุ่นช่วยมาก้อนหนึ่ง ทำใจสู้เข้าไปหา บรรจง ช่วยชู นายอำเภอจะนะ คุยทำความเข้าใจกันครู่หนึ่ง นายอำเภอเห็นเป็นประโยชน์แก่เด็กๆ จึงสละเงินส่วนตัวสนับสนุน เงินที่มาสมทบก้อนอื่นๆ ล้วนเป็นเงินสะอาดทุกบาททุกสตางค์ ผู้จัดพยายามเข้าถึงผู้บริหารโรงแยกก๊าซกับโรงไฟฟ้าจะนะ ด้วยเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่มีผลได้เสียต่อชาวจะนะ พวกเขาผิดหวัง
ระดับผู้บริหารโรงไฟฟ้าจะนะไม่ปฏิเสธให้เข้าพบ นั่งคุยกันพักใหญ่ได้รับคำตอบว่าผู้จัดเป็นกลุ่มบุคคล โรงไฟฟ้าจึงไม่อาจให้การสนับสนุน พวกเขากลับออกมาด้วยความผิดหวัง นึกถึงกิจกรรมชนวัวหรือแข่งนกเขาที่โรงไฟฟ้าจัดเม็ดเงินให้ไม่อิดออด ซื้อกระบะใหม่เอี่ยมเป็นของรางวัล มิน่าเล่า...วัวชนกับนกเขาแถวจะนะจึงฉลาดเฉลียวนัก
คนร่ำเรียนทางเครื่องยนต์กลไกบางคนมุมมองแง่มนุษย์อับตันหรือไม่ก็มองเห็นแต่มนุษย์ใกล้ๆ รายรอบตัวเองที่ส่งผลประโยชน์เฉพาะหน้า มีข่าวไฟฟ้าจะนะกำลังจะสร้างโรงที่สอง วัวกับนกเขาต้องฉลาดเป็นสองเท่าแน่เลย
มนตรี ศรียงค์ กวีซีไรต์, วรภ วรภา, กานติ ณ ศรัทธา และหางเครื่องอย่างผมได้ไปพบปะนักเรียนด้วยเงินจำกัดจำเขี่ยของผู้จัดมากน้ำใจ เด็กๆ กับครูอาจารย์มีความสุขที่นานๆ โรงเรียนมีกิจกรรมที่ไม่คาดฝัน ผอ.ชัยณรงค์ เซ่งบุญเล่ง นั่งฟังจนจบ 3 ชั่วโมงไม่ลุกไปไหน ต่างจากหลายโรงเรียนที่ ผอ. มัก ‘ติดประชุม’ และกลับมาทันกินข้าวเสมอ โรงเรียนจะนะฯ กวดขันวิชาการเข้มข้น นักเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้มากกว่าเป้า
พูดจบครูกับเด็กๆ มาขอลายเซ็นเป็นที่ระลึก กวีซีไรต์ กับนักเขียนบ้านนอกยินดีเซ็นแจกอยู่แล้ว ดวงแก้ว กัลยาณ์ ที่ร่วมคณะไปเที่ยว แม้ไม่มีรายชื่อบนเวทีก็มีเด็กๆ น่ารักขอลายเซ็นหลายคน
ผมเซ็นไปราวๆ 50 ครั้ง เขียนข้อคิดตามที่เด็กขอประกอบทุกลายเซ็น ส่วนใหญ่ว่าด้วยคุณค่าของการอ่าน และอ่านอย่างอดทน ในจำนวนนั้นมีเด็กคนหนึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเอง ‘ได้’ บางสิ่งบางอย่างติดอยู่ในใจกลับมา
ผมเซ็นให้เด็กหญิงอายุย่าง 14 คนหนึ่ง เซ็นให้แล้วเธอยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เมื่อเซ็นให้คนอื่นเรียบร้อย เธอถามเบาๆ “คุณลุงคะ หนูขอจับมือคุณลุงสักครั้งได้มั้ย” ผมได้ยินไม่ถนัดจึงถามให้แน่ใจ เด็กหญิงถามย้ำ ผมตอบ “แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ” ผมยื่นมือขวาให้จับ เธอจับแล้วโอบรอบเอวหนาๆ ของผมเสียแน่น บอกว่าดีใจที่ได้พบ แล้วอวยพรให้เธอประสบความสำเร็จ มอบช่อกุหลาบที่ได้รับให้นำกลับบ้าน
จนบัดนี้ ผมยังไม่ลืมแววตาซื่อใสบริสุทธิ์ของเด็กหญิงปณิดา ชั้น ม.1 แห่งโรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์
"จำลอง ฝั่งชลจิตร"