บันเทิง

"อยู่ที่ไหน" เพลงลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน
ของ "โต๋" ศักดิสิทธิ์

"อยู่ที่ไหน" เพลงลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ของ "โต๋" ศักดิสิทธิ์

29 ม.ค. 2554

เป็นนักร้องหนุ่มที่เรียกว่าฝันเป็นจริง สำหรับ "โต๋" ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่ความสามารถทางดนตรีของเขาแฟนๆ ชาวไทยประจักษ์เป็นอย่างดีแล้ว และตอนนี้ "โต๋" ได้บินไปสร้างชื่อเสียงในฐานะนักร้องหนุ่มเลือดไทยให้แฟนๆ ไต้หวันได้เห็น เกือบ 1 ปีเต็มที่นักร้องหนุ่มแ

 "หายไปนานเหมือนกัน คิดถึงแฟนๆ คนไทยทุกคนมาก ที่หายไปเพราะผมต้องไปเรียนภาษาจีน และเตรียมงานที่นั่น ระหว่างอยู่ที่นั่นผมก็คิดถึงแฟนๆ ตอนที่ไปใหม่ๆ ผมส่ง เอฟเวอรี่เดย์ ฉันรักเธอ ให้แฟนๆ ได้ฟัง เพื่อจะได้หายคิดถึงกัน และเพื่อบอกว่าผมไม่เคยคิดที่จะทิ้งแฟนๆ ชาวไทยไปเลยอย่างแน่นอน แล้ววันนี้ผมกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มชุดใหม่ ซิงเกิ้ลใหม่ ชื่อเพลง อยู่ที่ไหน ซึ่งเพิ่งปล่อยไปไม่นาน แฟนคลับที่ได้ฟังก็บอกว่าชอบกัน มันทำให้ผมรู้สึกดี เพราะว่าเราหายไปนาน ตอนแรกกังวลมาก เพราะว่าอัลบั้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะ มีการเต้นเคลื่อนไหวร่างกายด้วย ยิ่งทำให้กลัวว่าแฟนๆ จะว่ายังไงบ้าง แต่แฟนๆ บอกว่าชอบผมก็ปลื้ม (ยิ้ม)" นักร้องหนุ่มเผย ก่อนจะเล่าถึงการทำเพลงนี้ว่า เป็นการทำงานข้ามประเทศกับทีมงานที่อยู่เมืองไทย

 "การทำงานเพลงในอัลบั้มนี้เหมือนทุกๆ อัลบั้มที่ผ่านมา ต่างกันตรงที่ว่าการทำงานนี้เป็นการทำงานข้ามประเทศ เพราะอย่างเพลงนี้แต่งทำนองและเรียบเรียงทั้งหมดที่ไต้หวัน แล้วพอบินกลับมาแล้วเอาเพลงนี้มาให้แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) ผมก็บอกเขาว่าให้เขาแต่งเนื้อให้ผมหน่อย แล้วพักเดียวแสตมป์ก็ส่งเมลกลับมาให้ผม ทำเอาผมตกใจเลย เพราะว่าเร็วมาก เลยเรียกว่าเพลงนี้เป็นเพลงลูกครึ่ง ครึ่งหนึ่งที่ไต้หวัน ครึ่งหนึ่งที่ไทย (หัวเราะ)" ศิลปินคนดังกล่าว

 นักร้องหนุ่มยังเล่าถึงการไปใช้ชีวิตอยู่ที่ไต้หวัน ในเวลาหนึ่งปีว่าทำให้โตขึ้น จากเมื่อก่อนที่ชอบอยู่กับตัวเอง ขี้อาย พูดน้อย แต่พอไปให้อยู่ที่นั่นความเหงาทำให้ตื่นตัวที่อยากจะรู้จักและพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น

 "ปีหนึ่งที่อยู่ที่นั่น ผมไปอยู่คนเดียว มันเหงา ต้องกินข้าวคนเดียว ทำอะไรเองคนเดียว แต่มันทำให้ผมได้มีมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป ผมโตขึ้นในหลายๆ แง่มุมเลย ตอนนี้พอไปไหนมาไหนเจอใครก็จะบอกว่าโต๋ดูโตขึ้น คุยเก่งขึ้น มีความกระตือรื้นร้นมากขึ้น เพราะเมื่อก่อนใครเจอผมก็จะรู้สึกว่าผมเป็นเงียบๆ ขี้อาย พูดน้อย แต่การอยู่ที่นั่นคนเดียว มันทำให้เราอยากเจอ อยากพูดคุยกับคนอื่นๆ และที่สำคัญผมได้เห็นมุมมองที่ไม่เคยมองมาก่อน อย่างการแบกรับความกดดัน ความคาดหวังหลายๆ อย่าง มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากที่ทำให้มันออกมาดีที่สุด ต้องอดทน มีวินัย มันเลยทำให้เรา แกร่งขึ้น โตขึ้น ดูเหมือนเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น" นักร้องหนุ่มสังกัดโซนี่เล่า พร้อมเผยถึงแฟนคลับชาวไต้หวัน ว่าเหมือนแฟนคลับชาวไทย ที่ทั้งน่ารักและหวังดีกับเขา

 ไปอยู่นั่นก็มีแฟนคลับเหมือนอย่างที่เมืองไทย คือเป็นกลุ่มที่เขาชื่นชอบและติดตามผลงานเพลงเหมือนแฟนคลับชาวไทยเลย ศิลปินไทยมีแฟนคลับที่นั่นเยอะเหมือน ผมเองก็มีบ้างแต่ไม่ได้เยอะมาก ได้เจอกัน ได้รู้จักบ้าง แต่ไม่ได้มาก เพราะว่าผมไปอยู่ที่นั่น โดยที่ยังไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอะไร แต่ทุกคนน่ารักมาก ผมต้องขอบคุณที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งที่บางทีผมไม่สามารถสื่ออะไรกลับไปได้มากนัก เพราะเรื่องภาษาผมยังไม่ได้เก่งมาก ถึงจะมีการเรียนจากเมืองไทยไปบ้าง แต่พอไปอยู่ที่นั่นจริงๆ มันไม่เหมือนเลย เราเลยต้องไปปรับตัว ปรับภาษาและปรับวัฒนธรรมกันค่อนข้างเยอะ ไม่สามารถพูดได้เหมือนปกติตอนที่อยู่เมืองไทย" โต๋ปิดท้าย