
วลีเด็ดเพลงโดน!
หรือวลีแปลกๆ ที่วัยรุ่นหรือคนทั่วไป ใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีอยู่มากมาย และยังมีการคิดคำใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ และเมื่อมีการใช้คำคำนั้นบ่อยๆ ก็จะทำให้คุ้นหูกับผู้ที่ได้ยิน และจดจำคำคำนั้นได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคำที่เราคุ้นกลายมาเป็นชื่อเพลง
ก็ยิ่งทำให้เพลงเพลงนั้นเป็นที่สนใจ และติดหูคนฟังได้เร็วขึ้นเช่นกัน ที่ผ่านมามีเพลงไทยหลายเพลงที่เลือกเอาคำฮิต หรือศัพท์วัยรุ่นมาตั้งเป็นชื่อเพลง ซึ่งส่วนใหญ่เพลงเพลงนั้นก็จะกลายเป็นเพลงฮิตได้ในไม่ช้า หรือถ้าไม่ฮิต ไม่ดัง อย่างน้อยก็จะพอมีคนรู้จักบ้าง
เริ่มต้นเพลงแรกด้วยศัพท์ฮิตในปัจจุบันนี้อย่างคำว่า "เบา เบา" คำนี้ในความหมายของผู้ที่ใช้พูดกัน จะสื่อให้ผู้ที่ถูกพูดถึงรู้ว่า ควรทำสิ่งต่างๆ ที่ทำอยู่ให้น้อยลง ทำให้พอดีๆ อย่ามากเกินไป แต่ตอนนี้ คำนี้ได้กลายเป็นเพลงฮิตของวง Singular จากซิงเกิ้ลของสองหนุ่มนักร้องหน้าใหม่อย่าง “ซิน” ทศพร อาชวานันทกุล และ“นัท” โชติวุฒิ บุญญสิทธิ์ ที่เมื่อเพลงนี้เปิดตัวได้ไม่นานก็ทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของชาร์ตหลายชาร์ต ส่งผลให้นักร้องเลือดใหม่สองคนนี้ขึ้นแท่นเป็นศิลปินดังเลยทีเดียว ในความหมายของเพลง เบา เบา นั้น จะพูดถึงคู่รักที่ค่อยๆ รักกันไปเรื่อยๆ แบบสบายๆ ไม่รีบร้อน ซึ่งความหมายอาจต่างกับกรณีที่เป็นคำพูดแต่ถึงอย่างไร คำว่า เบา เบา ก็กลายเป็นคำฮิตติดปากของใครหลายๆ คนแน่นอน
อีกเพลงเป็นเพลงจากบอยแบนด์ฝั่งอาร์เอส วงซีควินท์ ชื่อเพลง "อย่าได้แคร์" แม้ว่าจะยังไม่ฮิตถึงขั้นขึ้นอันดับหนึ่ง แต่เพลงนี้ก็เป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คน คำว่า อย่าได้แคร์ มีความหมายว่า อย่าไปกังวล หรือไม่คิดมาก พอมาอยู่ในเพลง ทำให้ความหมายในเพลงบอกถึงคู่รักที่กำลังจะเลิกกันว่าอย่าได้แคร์ที่จะทำร้ายกันด้วยการเลิกรา
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้ว มีศัพท์อยู่คำหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่ใจของผู้พูด หรือแสดง ความลังเล คำนั้นคือคำว่า "มั้ง" คำนี้ในช่วงนั้น เป็นที่นิยมพูดกันเพราะเพียงคำคำเดียวสามารถอธิบายให้คนฟังเข้าใจได้ ซึ่งคำนี้ก็ยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อคำนี้กลายเป็นชื่อเพลง ก็ทำให้เพลงเป็นที่รู้จักในเวลาไม่นาน เพลงนี้ถ่ายทอดโดยหนุ่มที่มีลีลาการดีดเปียโนได้เก่งขั้นเทพ อย่าง "โต๋" ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เพลง มั้ง ของโต๋ เป็นเพลงสนุกๆ ที่ผสมผสานเสียงของเปียโนเข้ากับเครื่องดนตรีแนวร็อกอย่างกลอง และกีตาร์ ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ส่งผลให้เพลง มั้ง กลายเป็นเพลงที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ ก็ต้องได้ยินได้ฟังกัน อีกทั้งเพลงนี้ก็ยังสามารถอยู่ในชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งได้หลายสัปดาห์อีกด้วย สำหรับความหมายของเพลง มั้ง ในฉบับของหนุ่มโต๋ จะหมายถึง ชายหนุ่มที่เหมือนยังเขินอายที่จะบอกรักผู้หญิง ก็เลยใช้คำว่ามั้งลงท้าย เพื่อบอกแก้เขิน
มาที่ฝั่งของเพลงลูกทุ่งกันบ้าง ที่ในปัจจุบันก็สร้างนักร้องหน้าใหม่ๆ ออกสู่สายตาประชาชนอย่างต่อเนื่อง มีเพลงฮิต เพลงดังๆ อยู่ก็หลายเพลง แต่ถ้าจะให้นึกถึงเพลงลูกทุ่งที่สนุกด้วย และคุ้นหูด้วย เพลงแรกที่นึกถึงคงจะหนีไม่พ้นเพลงของ 3 สาว โบว์ชมพู ศรีทองท้วม เพลินศิลป์ เกตุแก้ว และ เบญจวรรณ โภคทรัพย์ วงบลูเบอร์รี่ จากค่ายอาร์สยามอย่างเพลง ชิมิชิมิ ที่เรียกได้ว่า ฮิตมาก ฟังกันตั้งแต่รุ่นเด็กถึงรุ่นคุณตาคุณยาย แทบยังร้องตามกันได้อีกด้วย คำว่าชิมิชิมิ มาจากคำว่า ใช่ไหมๆ แต่เมื่อเรานำมาแปลงเสียงก็เลยกลายเป็น ชิมิชิมิ เพลงเพลงนี้เป็นที่นิยมที่จะใช้เปิดตามงานต่างๆ กันบ้าง หลายคนใช่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เป็นเพลงนี้ ฮิตมากจนแทบจะกลายเป็น ชิมิฟีเวอร์ กระทั่งวัยรุ่นที่ไม่ค่อยนิยมฟังเพลงลูกทุ่งก็ยังรู้จังเพลงนี้เลย
เพลงลูกทุ่งอีกเพลงที่ไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ เพราะในตอนนั้นดังมาก อยู่ชาร์ตเพลงอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานเป็นเดือนๆ ดังข้ามปีเลยทีเดียว เพลงนี้ไม่ได้ใช้คำฮิตมาใช้เป็นชื่อเพลง แต่ชื่อเพลงกลับกลายเป็นประโยคเด็ดที่คนใช้พูดกัน เพลงนั้นคือเพลงของลูกทุ่งสาว ตั๊กแตน ชลดา ชื่อเพลง "ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้" ต้องยอมรับเลยว่าเพลงนี้ติดหูคนฟังเพลงเป็นอย่างมากเช่นกัน แถมยังมีคนเอาเพลงนี้ไปแปลงเป็นเพลงอื่นๆ อีกด้วย อย่างเช่นเพลง ไม่ใช่แฟน ทำแทนได้เปล่า ของ อู๊ด เป็นต่อ
เพลงฟังเมื่อไหร่ก็สร้างความสุขให้แก่ชีวิตได้ ฟังวันละนิดจิตแจ่มใสนะเออ...