
4 วัน 6 เรื่องสุดท้าย หนังกลางแปลงริมน้ำ
มิเพียง เทศกาลเบียร์การ์เด้น ตามที่ต่างๆ จะได้รับอานิสงส์ของลมหนาวในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้เท่านั้น แต่งานหนังกลางแปลง ไม่ว่าจะจัดที่ไหน ล้วนถือว่าได้ความแช่มชื่น สดชื่นและรื่นรมย์จากความเย็นที่พัดพามาด้วย
ผมมีข้อสังเกตว่า ในครึ่งเดือนแรกของธันวาคมนั้น หลายเทศกาล fest & fair ยังดูหงอยอยู่บ้าง เพราะไม่มีลมหนาวคอย “เร้า” ความรู้สึก กระทั่งในช่วงสองสัปดาห์นี้เอง ที่พอ winter แบบไทยๆ ทำหน้าที่ของมัน สีของเทศกาลก็ฉูดฉาด ชวนให้ออกไปงานตามเทศกาลต่างๆ
รวมทั้งหนังกลางแปลง 4 วันสุดท้าย 23-26 ธันวาคม ที่ริมน้ำของโรงแรมแม่น้ำ (บทความนี้นสพ.ได้ตีพิมพ์ไปบ้างแล้วของนสพ.ฉบับกรอบบ่ายวันพฤหัสบดี) วันที่ 23 ธันวาคม ถ้าใครจะอ่านทัน ช่วง 1 ทุ่มจะมีหนังคลาสสิก “มนต์รักลูกทุ่ง”(2513) เป็นภาพยนตร์ในดวงใจของคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คนข่าวในชายคาเนชั่นนี่เอง
แต่พอวันรุ่งขึ้นคือ 24 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเข้าคริสต์มาสนั้น มีหนังอินทรีทองและอินทรีแดงเข้าฉายสองเรื่องควบ สองเรื่องนี้ห่างกัน 40 ปี แต่การตีความอะไรนั้น ยังคงเคารพต้นฉบับหมดทุกอย่าง
และสำหรับ “อินทรีทอง” คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก เพราะนี่คือหนังเรื่องสุดท้ายของคุณมิตร ชัยบัญชา
ข้ามไปวันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม มีหลวงตา 3 และหลวงพี่เท่ง ก่อนจะปิดท้ายงานครั้งนี้ด้วย “ข้างหลังภาพ” ของคุณเชิด ทรงศรี
หนังกลางแปลงครั้งนี้มีชื่อว่า movie on the beach และจัดโดย นพ.พิชัย ตั้งสิน กรรมการผู้จัดการโรงแรม "แม่น้ำ รามาดา พลาซ่า"
"ผมชอบตอนที่ตัวเองดูหนังอย่าง "เรือนแพ" ภาพสวย คำพูดไพเราะ และคลาสสิก ยังคิดว่าตอนนี้ถ้าเลือกได้ยังอยากจะกลับไปดูเรือนแพในหนังกลางแปลงอีกครั้ง" คุณหมอหนุ่มเล่าอย่างค่อยเป็นค่อยไป
"ถ้าถามว่าการที่คนไทยยังรักหนังกลางแปลงนั้น มันบอกอะไร ผมคิดว่ามันกำลังสะท้อนสิ่งที่คลาสสิกอย่างหนึ่งคือ
การผูกพันกันระหว่างผู้คนที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกัน หรือการได้ share กันในอดีตจากหนังกลางแปลง เพราะอย่าลืมว่าชาวบ้านหรือคนเรานั้น ไม่ได้ไปงานแบบนี้ด้วยการมุ่งไปที่การดูหนัง เขายังมีกิจกรรมอื่นๆ รอบงาน ทั้งการกิน การละเล่น และสีสันของวัฒนธรรม แน่นอนว่า เทศกาลหนังกลางแปลง movie on the beach ที่โรงแรมแม่น้ำก็จะบรรยากาศแบบนี้ และเราพิเศษตรงที่เป็นหนังกลางแปลงริมน้ำ"
คุณหมอหนุ่มที่ลงมาสนุกกับวัฒนธรรมหนังของอดีต บอกว่า"เรามีพื้นที่สำหรับ 100 กว่าที่ และจะลองดูก่อนว่าถ้ามีการตอบสนอง หรือมีความสนใจที่มากพอของคนทั่วไป ทางโรงแรมแม่น้ำก็จะจัดอย่างต่อเนื่องในปีต่อไป"
เขาอธิบายถึงความตั้งใจ "ตอนแรกเราก็คิดกันหลายอย่างว่า เมื่อมีพื้นที่ริมน้ำแล้ว เราน่าจะทำอะไรดีเกี่ยวกับกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม ก็มีทั้งคนที่เสนอว่าดนตรีหรือถ่ายทอดฟุตบอลมั้ย ผมก็คิดว่าทั้งสองอย่างนี้มันมีคนจัดเยอะแล้ว และมีเจ้าภาพชัดเจนในการจัดงาน แต่หนังกลางแปลงยังมีไม่มาก และนับวันก็ดูจะห่างหายไป เลยตกลงว่าจะฉายหนังกลางแปลงแทน"
และไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมยังหวังลึกๆ ว่าโรงแรมแม่น้ำจัดยังจัดเทศกาลน่ารักแบบนี้ต่อไป เพราะนอกจาก context จะพร้อมแล้ว environment ยังพร้อมมากอีกด้วยขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเลื่อนไหลของเทศกาล และความรื่นรมย์ของความเดือนเคลื่อนผ่านเสือนั้นดุและบอบช้ำบาดเจ็บไปแล้ว ภาวนาว่ากระต่ายน้อยจะไม่ตื่นตูมง่ายและไม่เผลอหลับ จนถูกเต่าแซงในที่สุด
"นันทขว้าง สิรสุนทร"