ค่ำคืนวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2553 คนลาวต่างจับจ้องอยู่หน้าจอทีวีดาวเทียมช่องลาวสตาร์ เพื่อรับชมการประกวด "นางสาวลาว 2010" ณ คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมดอนจันพาเลซ นครหลวงเวียงจันทน์
24 สาวงามที่เข้าประกวดในรอบสุดท้าย ได้ผ่านรอบคัดเลือกมาจาก 4 ภาค 4 เวที คือ นครหลวงเวียงจันทน์ สะหวันนะเขต จำปาสัก และ หลวงพระบาง
ระหว่างที่เก็บตัวรอการประกวดรอบสุดท้าย ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้โหวตเลือก "นางสาวขวัญใจประชาชน" ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ลาวโทรคม
พัฒนาการประกวดนางสาวลาวนั้นมาจากการประกวด "นางสาวอาภรณ์ลาว" ซึ่งริเริ่มโดยสหพันธ์แม่หญิงลาว ที่เน้นเรื่องการแต่งกายแบบ "เอกลักษณ์ลาว" ไม่ใช่การโชว์เนื้อหนังมังสา
จริงๆ แล้ว ผู้จัดการประกวดนางสาวอาภรณ์ลาว คือ บริษัท เคแอนด์ซี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการประกวดนางสาวลาวเป็นครั้งแรกของดินแดนจำปา เมื่อปีที่แล้วเช่นกัน
บังเอิญว่าปีที่แล้ว ลาวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม จึงร่วมมือกับเคแอนด์ซี เปลี่ยนการประกวดนางสาวอาภรณ์ลาว เป็นนางสาวลาว
นางสาวลาวคนแรกคือ ไพลินดา พิลาวัน นักศึกษาวิทยาลัยลัดตะนะ หรืออาร์แบคลาว เป็นตัวแทนสาวงามจากนครหลวงเวียงจันทน์
สำหรับการประกวดสาวงามแห่งล้านช้างปีที่ 2 เปิดเวทีด้วย "ชุดแต่งกายลาวโบราณ" และที่แตกต่างจากครั้งแรกคือ 24 นางสาว ต้องแต่งกายด้วยชุดกีฬามาเดินโชว์ให้คณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาความเป็น "หญิงสุขภาพดี" ด้วย
เคยมีสื่อมวลชนลาวถามผู้จัดการประกวดว่า นางสาวลาวจะก้าวสู่การประกวดในเวทีนานาชาติหรือไม่? ก็ได้รับคำตอบว่า "เมื่อมีความพร้อม" ซึ่งไม่รู้ว่าอีกกี่สิบปี
ลาวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ต่างจากเวียดนาม แม้จะมีระบอบการเมืองเหมือนกัน อย่างที่เวียดนาม สาวๆ นุ่งบิกินีโชว์หุ่นอะร้าอร่ามบนเวทีประกวดประชันความงามกันแล้ว
แต่ภาพที่เห็นในเวทีประกวดมิสเวิลด์ คงจะไม่เกิดในลาวแน่ เพราะวัฒนธรรมต่างกัน สาวลาวยังถูกปลูกฝังให้ยึดถือวัฒนธรรมประเพณีการแต่งกายแบบลาวเดิม
ดังจะเห็นได้จากรอบ 10 คนสุดท้าย ผู้จัดการประกวดได้เลือกซองคำถามให้สาวลาวที่เข้ารอบเป็นคนตอบ ซึ่งหัวข้อคำถามส่วนมากจะพุ่งเป้าไปที่วัฒนธรรมการแต่งกายของวัยรุ่นลาวยุคใหม่
นี่เป็นกลยุทธ์การสื่อสารแบบง่ายๆ ที่รัฐบาลต้องการสื่อสารไปถึงวัยรุ่นลาวให้ตระหนักถึงการนุ่งถือแบบเอกลักษณ์ลาว
ฉากจบของเวทีนางสาวลาวคือการประกาศผลให้หมายเลข M4 มาไลทิบ สีสะหะนาก จากแขวงบ่อแก้ว ได้เป็นนางสาวลาวคนใหม่
เธอได้รับมงกุฎเพชร มูลค่า 20 ล้านกีบ สายสะพาย เงินสด 50 ล้านกีบ รถเก๋งมูลค่า 165 ล้านกีบ และอื่นๆ (อัตราแลกเปลี่ยน 1 กีบ : 270-280 บาท)
ว่ากันว่า นางสาวลาวคนนี้เป็นม้ามืด มาแรงแซงตัวเต็งในโค้งสุดท้าย และที่สำคัญ บ้านเกิดของเธออยู่ตรงข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ยินดีกับสาวห้วยทราย บ่อแก้ว..ยินดีกับนางสาวลาว 2010!!
แคน สาริกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง