
แฟนเก่าแดนเปิดใจไม่ตั้งใจสาดให้เจ็บ
แฟนเก่า "แดน" ดนัย ร่ำไห้เปิดใจ ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใคร แค่อยากดื่มโซดาไฟผสมน้ำยาล้างห้องน้ำประชดรัก หลังแยกทางกันได้ 4 เดือน เผยจากนี้ไปคงแยกกันเด็ดขาดแต่ก็ยังรักตลอดไป
ความคืบหน้ากรณีนายดนัย สมุทรโคจร หรือแดน ดาราละครช่อง 7 พร้อมกับเพื่อนสาวชาวสหรัฐอเมริกา ถูก น.ส.แพรวพันธุ์ สมพงษ์มิตร หรือก้อย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟนของนายดนัย บุกเข้าไปอาละวาดถึงห้องนอนก่อนใช้โซดาไฟสาดใส่นายดนัยและเพื่อนสาวจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 181/2 หมู่บ้านพลัส ซิตี้ปาร์ค ซอยนวลจันทร์ 32 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. เมื่อบ่ายวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน น.ส.แพรวพันธุ์ พร้อมด้วยนายสุวิชชา แสนอวน เพื่อนสนิท เปิดแถลงข่าวที่หน้าร้านตำแหลกในห้างสรรพสินค้าปัญญาวิลเลจ ถ.ปัญญาอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่แถลงข่าว น.ส.แพรวพันธุ์มีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้ตลอดเวลา
น.ส.แพรวพันธุ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีเจตนาทำร้ายให้ใครได้รับบาดเจ็บ และไม่ต้องการให้แดนเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะตนรักแดนมาก และยังคงรักตลอดไปไม่เคยเปลี่ยน ตนคบหาอยู่กับแดนที่บ้านหลังเกิดเหตุมานานกว่า 5 ปีแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่คู่รักจะมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง ซึ่งระยะหลังเริ่มห่างกันได้ประมาณ 4 เดือน แต่ก็ยังคงไปมาหาสู่กันตลอด
น.ส.แพรวพันธุ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตั้งใจไปหาแดนเพื่อขอคืนดี เพราะที่ตนห่างจากคนรักทำให้รู้สึกทรมานใจ เป็นทุกข์มากเพราะตนรักมาก เมื่อใดที่รู้สึกห่างเหินตนก็เสียใจทุกข์ใจจนอยากจะตายให้ได้ จึงเตรียมโซดาไฟผสมกับน้ำยาล้างห้องน้ำไปด้วยหวังที่จะประชดรักด้วยการกินโซดาไฟให้ตายไปต่อหน้าแดน แต่วันนั้นแดนล็อกประตูบ้านจึงใช้ก้อนหินทุบกระจกประตูเข้าไป ทำให้กระจกบาดมือต้องเย็บ 20 เข็ม
"ก้อยขึ้นไปถึงห้องนอนของแดน ก็เห็นแฟนของตัวเองอยู่กับหญิงอื่นที่ใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ก้อยตกใจจึงพรวดพราดเข้าไปในห้องนอน ก้อยร้องไห้เสียใจ และขอคุยกับผู้หญิงคนนั้นกอดกันร้องไห้ในห้องน้ำ ก้อยคิดได้อย่างเดียวคือต้องตายให้ได้ จึงไปคว้าเอาขวดน้ำโซดาไฟผสมน้ำยาล้างห้องน้ำที่เตรียมมาดื่มฆ่าตัวตายต่อหน้าแดน แต่แดนไม่ยอมให้ทำจึงเกิดการยื้อแย่งทำให้น้ำกระฉอกไปโดนหน้าแดนและหลังของผู้หญิงคนนั้นได้รับบาดเจ็บ" น.ส.แพรวพันธุ์ กล่าว
น.ส.แพรวพันธุ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องได้ติดต่อไปยังผู้จัดการส่วนตัวของแดน และเขาบอกว่าไม่ต้องมาไม่มีอะไร ไม่ได้เอาเรื่อง ขอให้จบเพียงเท่านี้ ตอนนี้ตนก็เชื่อว่าแดนคงไม่กลับมาแล้ว คงไม่คืนดีและคงไม่ได้คุยกับตนอีกแล้ว คงต้องเลิกขาดกันไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างไรตนก็ยังรักแดนอยู่ เพราะตลอดระยะเวลา 5 ปีที่คบหาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา ถึงแม้จะไม่ได้หมั้นหมายหรือแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันก็ตาม แต่ก็เป็นสามีภรรยากันโดยพฤตินัยอยู่แล้ว
"ในส่วนเรื่องคดี ถึงแดนจะว่าไม่เอาเรื่อง แต่ได้มีการแจ้งความเอาไว้ หากตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ก้อยก็พร้อม ไม่เคยคิดจะหนี หากตำรวจมีหมายเรียกมา ก็พร้อมที่จะไปทุกเมื่อ ตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจอย่างเดียว ถ้าจะแจ้งว่าทำร้ายร่างกายนั้นก็ขอปฏิเสธเพราะไม่ใช่อย่างนั้น น้ำนั่นก็ไม่ใช่น้ำกรด และไม่มีฤทธิ์รุนแรงอะไร หากเขาไม่เอาเรื่อง ตำรวจให้ยอมความกันได้ ก้อยเองก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเรื่อง ก็อยากจะจบๆ กันไป ที่อยากพูดวันนี้ก็เพราะอยากอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ เนื่องจากตามข่าวที่นำเสนอไปมีเพียงฝ่ายเดียว และดูเหมือนว่าเหตุการณ์มันดูจะรุนแรงเกินความเป็นจริง เมื่อได้พูดความจริงออกไปแล้วก็ทำให้ก้อยรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ถามว่าเสียใจไหมมันก็เสียใจอยู่แล้ว เสียใจจนอยากจะตายให้ได้" น.ส.แพรวพันธุ์ กล่าวทั้งที่ร้องไห้
พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ต้องสอบผู้เสียหายให้ชัดเจน รวมถึงพยานหลักฐาน โดยเฉพาะน้ำสารเคมีที่ขณะนี้ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจ เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่รอผลตรวจสารดังกล่าวว่ามีฤทธิ์รุนแรงแค่ไหน จึงจะได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกคู่กรณีได้ แต่เท่าที่ทราบ ผู้ก่อเหตุก็ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีและอาจจะสามารถเรียกผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำได้ภายในสัปดาห์หน้า และต้องดูว่าหลังการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วจะสามารรถแจ้งได้กี่ข้อหา



