บันเทิง

หลังเทศกาลหนังเมือง “กาญจน์”
ก่อนเทศกาลหนังเมือง “คานส์”

หลังเทศกาลหนังเมือง “กาญจน์” ก่อนเทศกาลหนังเมือง “คานส์”

26 พ.ย. 2553

สุดสัปดาห์ที่แล้ว คนรัก fest และ fair ไม่ต้องลังเลเหมือนสุดสัปดาห์นี้ ทั้งคอนเสิร์ต “บอดี้สแลม” ที่มังคลาฯ, ละครเทวีที่ธรรมศาสตร์และที่น่าสนใจไม่น้อยคือ งานเพลินจิต แฟร์ ที่ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวมาหลายปีแล้ว

 วีกเอนด์ที่แล้ว ไม่ต้องลังเลเพราะมีเทศกาลหนัง “เมืองกาญจน์” เลียนล้อแค่ชื่อกับเมืองคานส์ของฝรั่งเศส ซึ่งจะจัดในเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปี
 
 แต่สำหรับเทศกาลหนังเมืองกาญจน์นั้น แม้ไม่ฟิกซ์ชัดเจนว่าจะจัดเดือนพฤศจิกายน แต่จากความสำเร็จในปีนี้ ตัวงานคงอยู่แถวปลายๆ ปี เพราะเหมาะกับบริบทและเนื้อหาของงานนอกจากชื่อเทศกาลแล้ว ไม่มีอะไรที่ผู้จัด chill FM เจตนาจะทำให้พ้อง เพราะเทศกาลหนังเมืองกาญจน์ มีเสน่ห์โดยตัวมันเองในเวลาที่จัด และสถานที่ที่เลือก

 Chill FM 89 เลือก เฟลิกซ์ รีสอร์ท ริมแม่น้ำแควที่กาญจน์ ห่างจากกรุงเทพราวๆ 130 กิโล เป็นที่จัดงาน
แม้จะขับรถไปต่างจังหวัดหลายครั้งและรู้สึกว่าสะดวกสำหรับจังหวัดใกล้ๆ

 แต่ผมรู้สึกอย่างแรกที่ผู้จัดทำได้ดีคือ ป้ายบอกทางตลอดเมื่อใกล้ถึง (เป็นป้ายสีน้ำเงินรูปลูกศร)ที่จอดรถนั้น แม้ว่าจะไม่ได้มีมากมายมหาศาลแบบงาน big mountain แต่มันก็ไม่น้อยสำหรับคนที่ไปร่วมงาน และจะจอดตรงไหนก็ได้ ก็มีรถสองแถวเล็กมารอรับคุณไปอีกแค่ 300-400 เมตรเพื่อถึงตัวงาน

 ที่เมืองคานส์ ฝรั่งเศสนั้นมีความเป็น film market อยู่ แต่ที่เมืองกาญจน์นั้น chill fm เขาตีความโจทย์ใหม่ ให้งานมีลักษณะของ festival ที่ยืดหยุ่น เหมาะกับคนไทยที่ไปเที่ยว กล่าวคือนอกจากจะมีจอ 3-4 จอแล้ว ยังมี “ชิงช้าสวรรค์”  และองค์ประกอบของ “งานวัด” ที่พวกเราผูกพันมีซุ้มขายของต่างๆนานา และมีพื้นที่ของการขายอาหารการกิน รวมไปถึงขนมโบราณในรูปแบบต่างๆ

 ด้วยความที่การดูหนังนั้น เป็นวัฒนธรรมของการนั่งดูเงียบๆ ไม้ตายอย่างหนึ่งของการจัดงานจึงถูกทำให้เป็นสีสันสีสำคัญนั่นคือมีเวทีของคอนเสิร์ต บนลานที่กว้างที่สุด ผมว่าการที่เขาเอาชิงช้าสวรรค์ มาตั้งอยู่อีกด้านของเวทีคอนเสิร์ตนั้น เป็นการวางที่ทำหน้าที่ต่อกันในเชิงบรรยากาศ

 และไหนๆ ก็จัดงานอยู่ริมแม่น้ำแล้ว เอาแม่น้ำมาทำให้เกิดมิติมากขึ้น ด้วยการจัดฉายหนังสั้นเป็นรอบๆ บนแพที่ล่องออกไปเสียเลย (รู้สึกจอบนแพนี้จะเต็มเร็วที่สุด)หนังในงานผมดูเกือบหมดทุกเรื่องแล้ว พองานเริ่ม จึงพาตัวเองไปนอนบนลานสนามหญ้าที่ฉายหนังเก่าคลาสสิก (เรื่องแรก “กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้” และเรื่องที่สอง “2499 อันธพาลครองเมือง” ซึ่งคนเปลี่ยนฟิล์ม ประกาศว่า เป็นฟิล์มม้วนเดียวที่เหลืออยู่)

 แต่จอที่ฮิตสุดไม่ใช่จอนี้นะครับ มันคือจอที่ฉายหนังสยองขวัญ 4 แพร่ง ที่เจตนาวางอยู่มุมอับ ใกล้บรรยากาศอ้างว้างเพื่อไปกับมู้ดของหนังผีๆ สางๆ คนไทยจะบอกว่ากลัวผียังไง แต่อะไรที่เกี่ยวกับผีๆ สางๆ ขายได้เสมอ (แม้แต่ทีมที่เกี่ยวกับผีแดงๆ อะไรอย่างเนี้ย)

 หลายคนชมเรื่องการบริการห้องน้ำ ผมว่าคงเป็นเพราะทีมงานนั้น จัดงานมาเยอะ พวกเขารู้วิธีการรับมือแบบเก๋าเกมแล้วแน่นอนจากการจัดงาน แม้ตัวงานจะไม่ได้ชุกชุมเอร์เฟคท์ แต่จากการจัดครั้งแรก ปีแรก ถือว่า chill FM จัดได้ดีกว่าที่คิดแล้ว และที่แน่นอนต่อไปอีกระหว่างที่นักข่าว 4-5 คนจากบางนา ตั้งคำถามก็คือ ปีหน้าควรจะมีอีก ไม่น่าจะเลิกจัด และไม่มีเหตุผลที่จะไม่จัดใดๆ ทั้งสิ้น

 ถ้าไม่เห็นแก่ “คนรักหนัง”โปรดช่วยเห็นแก่คนรักหนาวหรือคนรักการ “กุมมือแฟน” ในฤดูหนาวด้วยเถิด

"นันทขว้าง สิรสุนทร"