ครูลพ บุรีรัตน์แนะวิธี เมื่อถูกกล่าวหาว่า"ขโมยเพลง"
กรณีนักร้องแนวกันตรึมเมืองสุรินทร์ฟ้องสองนักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังค่ายแกรมมี่โกล์ด ครูสลา คุณวุฒิ ละเมิดลิขสิทธิ์ลอกเลียนผลงานเพลง กระทงหลงทาง จดหมายผิดซอง และล้างจานในงานแต่ง ส่วน วสุ ห้าวหาญ เพลงทบ. 2 ลูกอีสาน และคืนใจให้กัน รวมถึงแจ้งความเอาผิดทั้งคู่ร
ที่ผ่านมา ในวงการเพลงลูกทุ่ง ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ.2548 วิเชียร คำเจริญ หรือ ครูลพ บุรีรัตน์ ที่โด่งดังสุดๆ ในยุคของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ทำให้กลายเป็นต้นแบบของเพลงลูกทุ่งแนวใหม่ในขณะนั้น ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ได้พูดคุยกับครูลพถึงแนวทางการปฏิบัติตัวของนักแต่งเพลงว่า มีการระวังตัวอย่างไรและทำอย่างไรเมื่อต้องเจอกับข้อกล่าวหา "ขโมยความคิด"
"ขนาดมีคนส่งเพลงมาทางไปรษณีย์ให้ผมตรวจว่าถูกต้องไหม ผมก็ไม่ดู ผมส่งคืนทันที มีบางครั้งไปงานก็เอาเพลงมาให้ดู ครูก็รับไว้ แต่ก็แกล้งลืมวางไว้ที่โต๊ะนั้นแหละ ไม่อยากดูมันเสียนะถ้าไปดูของเขา ผมไม่เอาเลย คนเราความคิดเหมือนกันได้ ถ้าเราไปดูเพลงคนอื่นแล้วเขียนออกมาตรงกับเขา เขาจะพูดได้ว่าเราเอาเพลงของเขามา ครูไพบูลย์ บุตรขัน สั่งมาว่าห้ามแก้เพลงคนอื่น ห้ามติเพลงคนอื่น ไม่ถามอย่าบอก ผมเคยติเพื่อนทีหนึ่งโกรธผม 3 เดือน จากนั้นมาผมไม่ยุ่งกับใครอีกเลย ผมจะไม่ดูเพลงของใคร คิดไว้ถ้าจะดูก็ต่อเมื่อผมเลิกแต่งเพลงขาย ผมจะเปิดสอนแต่งเพลงเมื่อนั่นค่อยดูเพลงคนอื่นจะดีกว่า"
ครูลพ บุรีรัตน์ กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติในการเป็นนักแต่งเพลงที่เขายึดแบบอย่างมาจากครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่ล่วงลับไปแล้ว และยังบอกถึงมารยาทของนักแต่งเพลงที่อยากฝากให้นักแต่งรุ่นใหม่ได้ยึดไว้เป็นแบบอย่างว่า
"ก่อนหน้านี้เรื่องทำนองแบบนี้ครูสลาก็เคยเจอมาแล้วกับเพลง "ยาใจคนจน" มาโดนอีก ส่วนใหญ่การทำงานของค่ายเพลงมาตรฐานหรือค่ายใหญ่ๆ เขาจะไม่ค่อยดูเพลงให้ใคร นอกจากเพลงที่เขาเขียนขึ้นมาเองเท่านั้น เขามีระบบวิธีคิดที่มีขั้นตอน และโดยมารยาทนักแต่งเพลงก็ไม่ควรเอาความคิดของคนอื่นมาทำ มันไม่ภูมิใจ บางครั้งเมื่อเราไม่ดูเพลงให้ใคร ก็กลายเป็นว่าเหมือนเราเป็นคนใจดำก็ต้องทำใจ ครูเคยเจอคนรู้จักเอาเพลงมาให้เราช่วยขาย เราก็ช่วยเสร็จแล้วก็ใส่ชื่อมันไป แต่เพลงนั้นค่ายไม่เชียร์ มันเอาไปพูดว่าเราเอาเพลงมันไปว่าเราอีก ขนาดเราไม่ได้ไปดูเพลงมันนะ เราโตมาขนาดนี้เราจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร คนเป็นนักแต่งเพลงต้องรู้ว่าจะวางตัวอย่างไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเจอกรณีกล่าวหาว่าเอาเพลงคนอื่นมาควรปฏิบัติอย่างไร ครูเพลงคนดังกล่าวว่า
"ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า ต่างคนต่างทำเพลงจะดังไม่ดังไม่มีอะไรแน่นอน เพลงที่ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ เนื้อก็ไม่ดังก็มีเยอะ เพลงที่แต่งมาผิดๆ ถูกๆ ยังดังได้ก็มีมันมีสิทธิ์ดังได้ อย่าไปยุ่ง ตอนที่ครูโดนครูก็เฉยๆ ครูไม่ตอบโต้ คนคนนั้นถูกผิดดีชั่วย่อมรู้แก่ใจตัวเองใช่หรือไม่ ถ้าจะเจริญก้าวหน้าต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ"