บันเทิง

ฮือฮาจับ"กนก"แปลงโฉมสวมผี"สึนามิ"

ฮือฮาจับ"กนก"แปลงโฉมสวมผี"สึนามิ"

02 เม.ย. 2552

วาไรตี้ข่าว "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" วันที่ 2 ทำฮือฮา จับพิธีกรอารมณ์ดี" กนก " พิธีกรอารมณ์ดีแปลงโฉมเลียนคดี "สวมผีสึนามิ" ตร.เผยลูกสส.ดังจนมุมเพราะลายนิ้วมือเป็นเหตุ หลังหนีมาหลายปี "หมอเทพ"ชี้ยังไม่เคยพบคนศัลยกรรมลายนิ้วมือ ยอมรับทำได้ แต่ต้องผ่าออกแ

(2เม.ย.) เปิดรายการเป็นวันที่ 2 แล้ว  สำหรับรายการวาไรตี้ข่าว  "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" ทางโมเดิร์นไนท์ทีวี  ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างคนข่าวคุณภาพจากค่าย อสมท และเนชั่นฯ  ดำเนินรายการโดย  นายสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการเครือเนชั่น นายกนก รัตน์วงศ์สกุล น.ส.จอมขวัญ หลาวเพ็ชร และนายสุวิช สุทธิประภา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง

 ไฮไลต์ของรายการที่ดูจะแปลกตาและน่าสนใจไม่น้อย  นั่นก็คือ การหยิบเอาคดีนางกันกนิษฐ์ ชิ้นศิริ บุตรสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีตสส.เพชรบุรี ซึ่งจัดฉากเสียชีวิตจากเหตุสึนามิ เพื่อหนีหนี้กว่า 3,000พันล้านบาทมาพูดคุยในรายการ ชนิดหลากแง่ หลายมุมอีกครั้ง
 ท่ามกลางการสร้างสีสันให้พิธีกรบางคนทดลองแปลงโฉม จนเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะหลายคนแทบจำเค้าไม่ได้ว่า นั่นเป็นพิธีกรคนดังของเขา 

รายการ  "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" ช่วงแรก นายสุทธิชัย หยุ่น เปิดรายการด้วยการถกเรื่องการประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษขึ้นมาพูดคุยกัน จากนั้น  นายกวี จงกิจถาวร ผช.บรรณาธิการเครือเนชั่น รานงานสดจากที่ประชุมจี 20 จากประเทศอังกฤษ

นายสุทธิชัย ถามว่าอยากให้ประเมินว่า ขณะนี้ผู้นำประเทศที่เข้าร่วมประชุมจี 20 มองนายกของไทยอย่างไรบ้าง  นายกวี กล่าวว่า ผู้นำไทยได้สร้างความประทับใจให้ผุ้นำออสเตรเลียและประธานธนาคารโลกได้เป็นอย่างดี โดยคืนนี้จะมีงานเลี้ยงรับรองที่พระราชวังบักกิ้งแฮม ส่วนวันที่ 3 เมษายน จะประชุมใหญ่ ก็จะได้พบผุ้นำประเทศต่างๆอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย 

 เมื่อถามว่า โอกาสที่นายอภิสิทธิ์ปราศรัยแล้ว จะได้รับคำชื่นชมจากประเทศใหญ่จะมีโอกาสเห็นภาพนี้หรือไม่ นายกวีมองว่า นายกรัฐมนตรีของไทยเก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว  หากนายกพูดถึงอาเซียนแล้วเชื่อว่าผู้นำส่วนใหญ่ต้องมีคนฟังอย่างแน่นอน  ล่าสุดช่วงเช้าให้สัมภาษณ์บีบีซี ก็พูดคุยกันราว 30 นาที ยอมรับว่านายกไทยตอบได้ดีมาก สอบผ่านอย่างดี  ตอบตรงทุกประเด็น ทั้งเรื่องปัญหาชาวโรฮิงญา  เรื่องการเมือวงไทยในช่วงนี้  

 ในส่วนของช่วงที่ 2  มีการขยายปมคดีนางกันกนิษฐ์ ซึ่งศัลยกรรมสวมชื่อจากเหตุสึนามิ  โดยให้นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรทดลองแปลงโฉมใหม่ทำหน้าที่พิธีกรช่วงดังกล่าว โดยได้ใส่หนวด  สวมแว่นตาหนาเตอะ จนทำให้บุคลิคหน้าตาเปลี่ยนไประดับหนึ่ง

จากนั้น มีการนำเสนอสกู๊ปคดีนี้ เพื่อให้ผู้ฟังทราบที่มาที่ไปคดีนี้พอหอมปากหอมคอ
  น่าสังเกตุว่า ช่วงดังกล่าว มีการนำผุ้ที่เคยทำศัลยกรรมส่วนต่างๆในร่างกาย  โดยเฉพาะสาวประเทศ 2 ที่ทำศัลยกรรมแล้วเข้าร่วมรับฟังรายการและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมจำนวนหลายคนด้วย

สำหรับแขกรับเชิญที่ร่วมถกประเด็นร้อนดังกล่าว ประกอบด้วย  พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาศ รองผบก.ป. และนพ.เทพ   เวชวิศิษฐ์  เจ้าของ ประตูน้ำ โลลีคลีนิค คลีนิคศัลยกกรรมอันเลื่องชื่อ

พ.ต.อ.สุพิศาล เล่าว่า ความสำเร็จของการไขปมคดีนี้ว่า ในส่วนของนางกันกนิษฐ์นั้น   ขณะนี้เรามีหลักฐานมัดแน่นหมดแล้ว แต่รายต่อไปก็คือ นายชาญชัย ชิ้นศิริ สามี ถือเป็นตัวจักรสำคัญ โดยเฉพาะการแจ้งตายของภรรยา ซึ่งมีการปลอมสวมชื่อ 18 คน ทั้งหมดมีตัวตนจริงทั้งหมด แต่คนเหล่านี้จะมีหลักฐานเด็ดที่ตรวจสอบได้ชัดเจนจนจำนน ก็คือ การตรวจสอบลายนิ้วมือช่วงไปทำบัตรใหม่ จึงเกาะติดคดีจนรู้ชื่อว่า เป็นนางกันกนษิฐ์ตัวจริง จนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด  

น.พ.เทพ กล่าวเสริมถึงการศัลยกรรมเพื่อหนีคดีว่า  การทำศัลยกรรมนั้น โดยทั่วไปหากหน้าตาเก่าไม่ดี ก็สามารถทำให้ดูดีขึ้นได้ แต่ปัญหาที่อยากเตือน ก็คือว่า เวลาเราทำผิดแล้วมาปลอมหน้า บอกได้เลยว่า อย่าทำเลย เพราะทำอย่างไรเขาก็ตามจับได้  แต่ถ้าจะให้จำไม่ได้เลย  ก็ต้องเปลี่ยน 3 จุด คือ  ผ่าตัดตา จมูก และคาง  โดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนกรามโครงหน้าจะเปลี่ยนไปหมด แต่ต้องค่อยๆ ทำ หากทำ 3 จุดนี้แล้ว แมั้แต่พ่อแม่ก็จำไม่ได้

เมื่อถามว่า แสดงว่าสรีระของมนุษย์ที่เปลี่ยนไม่ได้ก็คือ ลายนิ้วมือใช่หรือไม่  นพ.เทพ ชี้ว่า ทำได้อย่างเดียวก็คือ ตัดลายนิ้วมือทิ้ง นั่นก็คือ จะต้องตัดลายนิ้วมือทิ้งแล้วเอาเนื้อที่อื่นมาปะ แต่จะมีพิรุธว่าทำไมมีรอยตรงลายนิ้วมือได้  หากทำเช่นนี้ลายนิ้วจะเปลี่ยน แต่ก็ยังไม่พบว่ามีใครให้ทำในจุดนี้

"ผมเคยเจอชาวรัสเซียคนหนึ่งมาบอกว่า ตัวเองเป็นเคจีบี อยากให้เปลี่ยนโฉมหน้าให้ใหม่   แต่ผมบอกว่าทำไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าเป็นเคจีบีด้วย" นพ.เทพ ระบุ   

พ.ต.อ.สุพิศาล สรุปคดีนี้ว่า  มีการแยกดำเนินคดีในหลายส่วน คาดไม่เกิน 2 เดือนจะสามารถปิดคดีได้  แต่คดีทื่จะขยายไปเรื่อยๆก็คือ คดีแจ้งหลักฐทานอันเป็นเท้จ ฉ้อฉลคนอื่น  มีคนภาครัฐร่วมมือด้วยโดยเฉพาะในการทำเอกสารปลอมขึ้นมา 

ถึงจุดนี้นายกนก ถามย้ำถึงการทำศัลยกรรมแปลงโฉมของบรรดานักค้ายาเสพคิดว่า ยังมีกี่มากน้อยเพียงไร พ.ต.อ.สุพิศาลกล่าวว่า คิดว่านักค้ายาที่ทำศัลยกรรมแปลงโฉมปลอมตัวยังหลงเหลืออยู่ แนวโน้มต้องการหนีคดี ขอเรียนว่าตำรวจไม่ได้เหลือแค่วิธีการลายนิ้วมืออย่างเดียว แต่ยังสามารถตรวจสอบ แกะรอยจากท่าทาง บุคคลิคของผุ้ต้องหาได้อีกด้วย รวมทั้งตรวจสอบตำหนิพิเศษที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละปัจเจกได้เช่นกัน