บันเทิง

การกลับมาของ ‘น้อย วงพรู’
แบบไร้ค่าย ไร้สังกัด

การกลับมาของ ‘น้อย วงพรู’ แบบไร้ค่าย ไร้สังกัด

30 ต.ค. 2553

หายไปนานกว่า 5 ปีเต็ม สำหรับ “น้อย” กฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือที่รู้จักกันในนาม น้อย วงพรู เพราะหลังจากวง “พรู” แตก นักร้องนำอย่าง “น้อย” ไม่เคยกลับมาทำอัลบั้มอีกเลย แถม 2-3 ปีที่ผ่านมานักร้องหนุ่มก็เว้นวรรคจากการร้องเพลงไปทำหน้าที่คุณพ่อมือใหม่อย่างเต็มตั

  “หายไปนานมาก มันแปลกมาก เพราะผมหายไปตั้งหลายปี แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นปีนี้ ตั้งแต่การได้ขึ้นคอนเสิร์ตสิบเต็มสิบกับโซนี่ แล้วมีคนเริ่มมาชวนทำงาน มันอาจเป็นปีที่วิเศษ ตอนนี้ผมก็ได้ทำอัลบั้มของตัวเองแล้ว” อดีตนักร้องหนุ่มเผย ก่อนจะเล่าต่อว่าอัลบั้มนี้ลงทุนควักเงินส่วนตัวทำอัลบั้มเต็มสิบ

 “อัลบั้มนี้เหมือนว่าผมได้เริ่มต้นใหม่ เพราะวงพรูก็แยกทางกันมา 5 ปีแล้ว แต่ก็ยังรักกันอยู่ ซึ่งเราก็อาจกลับมาทำอัลบั้มด้วยกันอีกทีก็ได้ ช่วงที่แยกทางกันผมก็เขียนเพลง เป็นเพลงอีกอารมณ์เพื่อที่จะร้อง ระยะที่เขียนเพลงนาน ประมาณ 3-4 ปี ช่วงนั้นผมก็เป็นคุณพ่อมีลูกสองแล้ว ผมเลยต้องเริ่มต้นใหม่โดยที่ไม่มีอีก 4 คนที่เคยร่วมวงกัน ต้องทำดนตรีเอง ต้องโปรดิวซ์เอง แล้วก็หาช่องทางที่จะให้คนฟังเพลงเราด้วย เพราะผมเองก็หมดสัญญากับเบเกอรี่มิวสิคไปตั้งนานแล้ว” น้อยแจง

 นักร้องรุ่นเก๋ากล่าวว่าสนใจที่จะทำงานกับค่ายเพลงต่างๆ แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อมา เลยตัดสินใจที่จะใช้เงินของตัวเองในการลงทุน ก่อนจะนำไปเสนอค่ายต่างๆ ที่มีความคิดเห็นตรงกัน

 “ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำกับที่ไหน ตอนนี้ผมก็ลงทุนเอง 10 เพลงก่อน แล้วค่อยไปเปิดให้แต่ละคนฟัง แล้วค่ายไหนที่สนใจเพลงของเรา อัลบั้มของเราค่อยมาคุยกัน ว่าเขาจะช่วยเรายังไง อยากจะทำอัลบั้มกับเรา คือเราค่อยมาดูกันว่าเส้นทางไหนที่เราไปได้ ที่เหมาะสมที่สุด ผมไม่ได้คิดว่าจะไม่เซ็นสัญญากับค่ายไหน แต่อาจเพราะว่าตอนนี้ผมเองก็ยังไม่ได้รับข้อเสนอจากค่ายไหนเลยด้วย”

 อดีตนักร้องนำวง “พรู” เผยอีกว่ายุคสมัยในการทำเพลงตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิม ศิลปินอินดี้หันมาทำเพลงเองโดยไม่เพิ่งค่าย

 “ยุคสมัยเปลี่ยนไปด้วย ตอนนี้มีแฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆ เด็กๆ ที่ไม่รู้จักผม เพราะตอนที่วงพรูฮิตพวกเขาคงอายุแค่ 7-8 ขวบเอง มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเราเหมือนเป็นศิลปินที่เริ่มต้นใหม่ เราก็ต้องลุย ต้องพิสูจน์ตัวเอง ต้องทำงานให้ดีและพิเศษที่สุด เพราะตอนนี้วงการก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ศิลปินบางคนก็หันมาทำเพลงกันเอง

  อย่างโมเดิร์นด็อกก็ทำกันเอง ศิลปินอินดี้ก็มาทำกันเองลุยกันเอง วงการมันเปลี่ยนไปเยอะมาก มีการดาวน์โหลดทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไป ผมก็ต้องเริ่มต้นใหม่ตรงนี้ สำหรับผมที่สำคัญที่สุดคือ จะทำอย่างไรให้เพลงของเรากระจายไปให้ทุกคนฟังได้ เพราะเวลาที่ศิลปินทุกคนทำเพลงก็อยากที่จะให้มีคนฟังเรา เพราะเพลงก็เหมือนเป็นลูกเรา เราเขียนมันขึ้นมาใช้เวลานานมาก เราก็อยากที่จะให้คนมารักลูกเรา” นักร้องหนุ่มเล่า พร้อมเผยทฤษฎีดนตรีของตนเองว่าเขาไม่เก่งเลยต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ในแวดวงดนตรีมาช่วย

 “ผมเขียนเพลงทุกเพลงอยู่แล้ว แต่ผมเขียนเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยไม่ค่อยได้ เลยต้องให้คนมาช่วย และอีกอย่างคือทฤษฎีดนตรีของผมไม่เก่ง เรื่องกีตาร์ เรื่องดนตรีบางอย่างผมไม่ถนัดเลยต้องชวนคนมาช่วยโปรดิวซ์ ช่วยโคโปรดิวซ์ด้วย คิดว่าแฟนๆ คงได้เห็นอัลบั้มนี้ของผมประมาณปลายปีนี้แน่นอน ผมรอมาตั้งนาน

 ไม่อย่างนั้นผมคงสู้พวกหนุ่มๆ พวกนี้ไม่ได้ เพราะมันก็ 5 ปีมาแล้ว มันก็นานแล้ว มันถึงเวลาที่เราต้องทำอะไรสักอย่าง คือเราอยากที่จะทำอะไรใหม่ๆ แนวเพลงก็อาจจะไม่ได้ร็อกเท่าตอนที่อยู่พรู จะเบาลงมา แต่เพลงก็จะลึกเหมือนเดิม เพราะผมเขียนเพลงที่มันมีเมโลดี้ที่สวยๆ แต่ใน 10 เพลง จะมีความหลากหลายแตกต่างกันไป โดยอัลบั้มนี้ผมได้แม่ของผมมาร้องเพลงด้วย เพราะแม่ขอมาว่าอยากมีเพลงใหม่ๆ ที่ผมกับแม่ได้มาแจมกัน ซึ่งนี่คือความพิเศษ” ศิลปินหนุ่มชี้แจงทิ้งท้าย