บันเทิง

เชื่อมั่นในตัวเอง ‘เป้’
ไม่หวั่นเสียวิจารณ์

เชื่อมั่นในตัวเอง ‘เป้’ ไม่หวั่นเสียวิจารณ์

28 ต.ค. 2553

คลอดอัลบั้ม “ออโต้อีโรติก” ออกมาแล้ว สำหรับ “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ ถึงจะเป็นการจับไมค์ร้องเพลงครั้งแรก แต่สองเพลงแรกที่ปล่อยออกมาทั้งเพลง “มาเลเซีย” และ “ไม่รู้” ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามทั้งในทางที่ดีและไม่ดี โดยในทางที่ดีจะมองว่าแนวเพลงของ

  “ตอนนี้ผมก็เตรียมทำอัลบั้มชุดที่สองแล้ว เพราะมีเพลงบางเพลงที่แต่งไว้แล้ว ถึงหลายคนจะบอกว่าอัลบั้มเดี่ยวก็พอ (หัวเราะ) แต่ผมอยากที่จะทำอะไรที่เป็นตัวเราร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากให้คนเห็นผมในมุมแบบนี้ อยากให้คนฟังได้ฟังเพลงในมุมใหม่ๆ มันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนที่จะยอมรับและเปิดใจกับงานเพลงของผม แต่ถ้าผมไม่ทำต่อ มันก็เท่ากับว่าสิ่งที่ผมทำมาทั้งหมดมันศูนย์เปล่า” นักร้องหนุ่มกล่าว ก่อนจะเผยว่าเป็นพวกชอบความเจ็บปวด โดยการเข้าไปอ่านข้อความวิจารณ์ต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต

 “ผมโรคจิตชอบเข้าไปอ่านคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ต ยิ่งที่เขียนไปในทางลบ จะอ่านทุกข้อความเลย ซาดิสต์ไหมล่ะ (หัวเราะ) ผมว่าข้อความที่เขียนในทางวิจารณ์ มันมีผลดีกับเราเหมือนกัน เพราะเราจะได้รู้ว่าคนอื่นมองเพลงเราอย่างไร แต่ข้อความบางข้อความที่เขียนไม่ดีมากๆ แต่เขียนด้วยอารมณ์ที่ไม่ชอบ ไม่ได้วิจารณ์ในเรื่องของเพลง ผมก็จะไม่ค่อยสนใจ เรื่องวิจารณ์ต่างๆ ไม่ค่อยมีผลกระทบกับผมแล้วในตอนนี้ เมื่อก่อนโดนมาเยอะตอนที่ทำเสลอ พอมาตอนนี้เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่” ศิลปินหนุ่มหน้าใหม่เผย

 นักร้องหนุ่มเล่าต่อถึงที่มีคนเอาเพลง “มาเลเซีย” ไปล้อเลียน เปลี่ยนเป็นชื่อประเทศอื่นบ้าง หรือเปลี่ยนเป็นคำอื่น ว่าถือเป็นเรื่องที่ดี แปลว่ามีคนสนใจเพลงของเขา

 “สำหรับผมการที่ถูกคนเอาเพลง มาเลเซีย ไปแซว ไปเปลี่ยนเป็นคำอื่นผมรู้สึกดี เพราะสำหรับความรู้สึกของผมเพลงก็คือเพลง ไม่ใช่กฎหมาย หรืออะไรที่มีกฎข้อบังคับ ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผมว่าเพลงเป็นช่องทางช่องทางหนึ่งที่ทำให้คนได้เปิดมุมมอง การที่เขามีความคิดที่เอาเพลงนี้ไปใส่เนื้อเพลงใหม่ๆ ผมว่ามันเป็นไอเดียที่ดี และเป็นสิ่งที่ผมอยากจะให้เกิดขึ้นที่สุด” เป้แจง พร้อมคุยฟุ้งว่าถึงตัวเองไม่ได้เป็นคนร้องเพลง “มาเลเซีย” เพลงนี้ก็ยังจะเป็นที่นิยมไม่ต่างกัน

 “มีคนมาบอกว่าเพลง มาเลเซีย กระแสตอบรับดี เพราะว่าผมเป็นคนร้อง แต่ผมคิดว่าผมไม่ใช่หรอก ถ้าคนอื่นร้องเพลง มาเลย์ ก็เวิร์กเหมือนกัน เพราะผมว่ามันเป็นสไตล์เพลงที่แปลกและแตกต่างไปจากเพลงอื่นๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด เหมือนอย่างเพลง ไม่รู้ ที่ผมปล่อยออกมาเป็นเพลงที่สอง คนก็บอกว่าเพลงนี้มันไม่เหมือนใครดี มันเป็นเพลงเสียดสีสังคม ที่เปิดเผยและชัดเจน ซึ่งผมอยากจะสะท้อนมุมนี้ให้สังคมได้เห็น” นักร้องชายเดี่ยวกล่าว

 นักร้องหนุ่มยังเล่าให้ฟังอีกว่า อัลบั้มนี้ไม่ได้สะท้อนสังคมเท่านั้น เพราะตอนทำอัลบั้มนี้ยังอยากที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม ด้วยการจัดกิจกรรมเปิดหมวก โดยใช้ชื่อว่า “เปิดหมวกเพื่อน้องกับเป้ อารักษ์”

 “ผมจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา สอดคล้องกับอัลบั้ม เพราะอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกในชีวิตของผม ผมอยากที่จะทำให้มันพิเศษ เลยคิดกันกับพี่ๆ ทีมสมอลล์รูม เลยจัดขึ้นมา โดยผมจะไปเปิดหมวกร้องเพลงตามที่ต่างๆ เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปมอบให้แก่มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตอนนี้ได้เงินมาเยอะแล้วเหมือนกัน รู้สึกดีไปอีกแบบในฐานะที่เราเป็นศิลปิน การไปเล่นดนตรีเปิดหมวกตามแหล่งชุมชนต่างๆ มันเป็นอารมณ์ร่วมรู้สึกที่ต่างไปจากเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ที่มีคนดูเยอะมาก นี่ก็คนดูเยอะ และเป็นคนที่เขาไม่ได้อยากมาดูเรา แต่นิสัยคนไทยเป็นคนใจดี จะมาช่วยสมทบทุนบริจาคเยอะมาก ซึ่งผมต้องขอบคุณไว้ด้วย เพราะพวกเขาทำให้อัลบั้มนี้ของผมมีคุณค่าขึ้นเยอะมาก” เป้บรรยายทิ้งท้าย