บันเทิง

Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole

Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole

14 ต.ค. 2553

หาก “Toy Story” สร้างประวัติศาสตร์บนแผนที่โลกแอนิเมชั่นเอาไว้เมื่อ 15 ปีก่อน และ “Avatar” ปักหลักไมล์แห่งโลกเสมือนจริงเอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา หนังแอนิเมชั่นอย่าง “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” แม้วันนี้อาจจะยังไม่สามารถจารึกชื่อตัวเอง

 ภาพปุยขนสะบัดพลิ้วยามต้องสายลมของเหล่าวิหคนกฮูกขณะเหินเวหา ขณะออกบินตามหาเหล่าผู้พิทักษ์ในตำนาน จากนิทานก่อนนอนที่พ่อเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ ของฮูกน้อย ‘โซเรน’ น่าจะเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวสำคัญของวงการแอนิเมชั่นมากกว่าที่จะสนใจว่าเรื่องราวการผจญภัยของนกฮูกเรื่องนี้จะถ่ายทอดได้ตรงตามต้นฉบับวรรณกรรมเยาวชนได้มากน้อยแค่ไหน

 แซค สไนเดอร์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มากด้วยวิสัยทัศน์ และเปี่ยมด้วยความคมคายในการนำเสนอประเด็นทางสังคม-การเมืองลงไปในหนัง ดังเช่นผลงานที่ผ่านมาอย่าง “Dawn of the Dead” “300” และ “Watchmen” แต่เมื่อมาถึงหนังเด็กอย่าง “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” ไม่ว่านิยายต้นฉบับจะแฝงประเด็นการเมืองหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยการซ่องสุมไพร่พล ด้วยการกวาดต้อน หว่านล้อม ขู่เข็ญ หรือแม้แต่เกลี้ยกล่อมต่างๆ นานา เพื่อชักชวนเหล่านกฮูกน้อยเข้าร่วมทำสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์นกฮูกด้วยกัน โดยกลุ่ม ‘เพียว วันส์’ ก็ถือเป็นการสะท้อนนัยทางการเมืองอย่างแยบยลวิธีหนึ่ง

 การพยายามสร้างอัตลักษณ์ หรือประดิดประดอยลายเซ็นของตัวเองลงไปในชิ้นงาน ทำให้เรามีโอกาสเห็นช็อตแปลกๆ อาทิ การเล่นสปีดโมชั่นในฉากแอ็กชั่น เหมือนหนังอย่าง “300” และ “Watchmen” (ซึ่งเทคนิคแบบนี้มีมาให้เห็นตั้งแต่ “Romeo&Juliet” เวอร์ชั่นผู้กำกับ บาซ เลอร์มาน แล้ว) แต่จะไปกันได้กับหนังแอนิเมชั่นที่มีตัวละครเป็นนกฮูกหรือเปล่าไม่รู้?

 หลังเพื่อนพี่น้องถูกจับเป็นทาสรับใช้ในกองทัพ ‘เพียว วันส์’ จนต้องรวบรวมเพื่อนกลุ่มหนึ่งหนีออกมาตามหาเหล่าผู้พิทักษ์ในตำนานของ ‘โซเรน’ และ ‘กิลฟี่’ ก่อนจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าผู้พิทักษ์แห่งกาฮูลในที่สุด

 การพยายามเอาอกเอาใจผู้ชมรุ่นเยาว์และรวบเอาสาระสำคัญจากหนังสือ 3 เล่ม มารวมไว้ในหนัง “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” พลอยทำให้ ‘สาร’ สำคัญในหนังเรื่องนี้กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด ทั้งเรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความรักระหว่างพี่น้อง การพิสูจน์คุณค่าในตัวเองระหว่างพละกำลัง และจิตใจอันอ่อนโยน สิ่งไหนจะงดงามกว่ากัน ฯลฯ

 การสร้างตัวละครอย่าง ‘นกฮูก’ มองเผินๆ อาจไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ แค่มีดวงตากลมโต ขนคอปุกปุย หัวหมุนได้ 180 องศา ก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับความน่ารักน่าชังของตัวละครตัวนี้ แต่สำหรับ “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” ขนาดรูปร่าง สีสัน ลายเส้น และพื้นผิว ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อกำหนดคาแรกเตอร์ให้แก่ตัวละคร ทั้งฝ่ายร้าย ฝ่ายดี ฝ่ายเด่น ฝ่ายด้อย ฝ่ายอ่อนแอ หรือเข้มแข็ง

 ฐานที่มั่นของเผ่า ‘เพียว วันส์’ บ้านของ ‘โซเรน’ หรือกระทั่งกองกำลังของเหล่านกฮูกผู้พิทักษ์ บน ‘เกาะ กาฮูลล์’ ล้วนแล้วแต่สะท้อนบุคลิกของตัวละครที่อาศัยอยู่ในนั้น ถ้ำที่อับทึบ แสงมัวซัว ดูจะเหมาะกันดีกับนกฮูกผู้หวังกุมอำนาจมืด แสงแดดชวนให้อบอุ่นส่องต้องรังบนยอดไม้ก็ทำให้คนดูรู้ว่า ‘โซเรน’ เป็นตัวละครจิตใจดี หรือแม้กระทั่งเกาะกลางทะเลอันไกลโพ้น ชวนให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ มีพลังของเหล่านกฮูกนักรบ ผู้พิทักษ์ความสงบ ที่กลายเป็นที่พึ่งพิงของนกฮูกตกทุกข์ได้ยาก

 แม้ตัวละครใน “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” มีเยอะมาก แบ่งเป็นสองฝักสามฝ่าย แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกสับสน หนังยังคงเทน้ำหนักไปให้ตัวละครฝ่ายดี ให้ความสำคัญกับเพื่อนๆ และตัวละครแวดล้อมอย่างพอเหมาะพอเจาะ ผู้ร้ายแต่ละตัวต่างมีเหตุผลและแรงจูงใจในการกระทำเรื่องร้ายๆ หาได้เกิดจากกมลสันดาน แต่มาจากความพยายามในการทำให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับในสังคม (นกฮูก) มากกว่า

 “Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole” อาจไม่ใช่หนังแอนิเมชั่นที่ดูสดใสน่ารักซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหนังจะมืดมนหม่นมัว เหมือนเช่นงานที่ผ่านๆ มาของผู้กำกับ แซค สไนเดอร์ แต่จุดร่วมที่เหมือนกันกับหนังเรื่อง “300” ความฮึกเหิมในหัวใจที่ใหญ่เกินตัวของตัวละครในหนัง ที่สร้างวีรกรรมให้เป็นที่จดจำ ไม่ว่าจะคว้าชัยหรือปราชัยพ่ายแพ้ไปก็ตาม แต่อย่างน้อยตัวละครตัวเล็กๆ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าหาญ และหัวจิตหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนกฮูกตัวน้อยๆ หรือนักรบที่มีกำลังเพียงหยิบมือ...สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะอยู่ในใจผู้ชมไปอีกนาน มากกว่าความตื่นตาของงานด้านภาพ ที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงมีหนังเรื่องอื่นๆทำได้เหนือกว่า

ชื่อเรื่อง : Legend of the Guardians : The Owls of the Ga’Hoole
ผู้เขียนบท : John Orloff, Emil Stern, Kathryn Lasky
ผู้กำกับ  : Zack Snyder
ให้เสียงพากษ์โดย : Jim Sturgess, Hugo Weaving, Anthony LaPaglia, Helen Mirren, Sam Neill
เรตภาพยนตร์ : ท. ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ชมทั่วไป
วันที่เข้าฉาย : 7 ตุลาคม 2553

"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"