บันเทิง

ล้วงลึกหนุ่มฮอต'อนันดา'กับชีวิตคือภาพยนตร์

ล้วงลึกหนุ่มฮอต'อนันดา'กับชีวิตคือภาพยนตร์

02 ต.ค. 2553

ถ้าจะนึกถึงหนุ่มหล่อ ที่สาวๆ หลงใหลชื่อของ อนันดา เอเวอริ่งแฮม พระเอกหนุ่มลูกครึ่งออสเตรเลีย-ลาว ที่ไม่ใช่แค่ความหล่อเท่านั้น ที่ทำให้หนุ่มคนนี้เป็นที่รักของใครต่อใคร แต่เพราะความน่ารักเป็นกันเอง บวกกับความสามารถทางการแสดงที่หลายคนต่างยกนิ้วให้ ทำให้ อนั

 พระเอกหนังสุดฮอต
 @ ตอนนี้งานเยอะมาก
 ตอนนี้มีงานหนังสองเรื่อง คือเรื่องชั่วฟ้าดินสลาย และอินทรีแดง จริงๆ ผมมีอีกเรื่องหนึ่งเป็นหนังเล็กๆ ที่ผมโปรดิวฯ เอง แต่ยังไม่ฉายชื่อไฮโซ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังเทศกาลคงจะได้ดูกันปีหน้า ไม่ได้เป็นหนังอาร์ต เพราะพูดว่าหนังอาร์ตที่ไร เจ๊งทุกครั้ง (หัวเราะ) คือเรื่องนี้ คงเป็นหนังแปลก แหวกแนว นอกกรอบ มันเป็นหนังอินดี้ของแท้ มันไม่ได้ทำด้วยเงินสตูดิโอ แต่เป็นเงินที่เราระดมทุนขึ้นมากันเอง เป็นหนังอีกสไตล์หนึ่งที่อีกสักพักหนึ่งถึงจะได้ดูกัน ตอนนี้ได้เข้าไปในเทศกาลหนังเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี แล้วค่อยวกกลับมาที่เมืองไทย หรือไม่แน่อาจมาฉายเป็นหนังเปิดในเทศกาลบางกอกฟิล์มเฟสติวัลปีหน้า

 @ พูดถึงภาพยนตร์ "อินทรีแดง" ที่เป็นหนังตำนาน ทำไม "อนันดา" ถึงมาเล่นเรื่องนี้ได้
 "จริงๆ เหตุผลที่มาเล่น เพราะผมอยากจะมาทำงานกับพี่ศิษฏ์ (วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง) เพราะชอบงานแก่มาก ชอบตอนฟ้าทะลายโจรมาก ตอนดูหนังเรื่องนี้ผมถึงกับหงายหลังตกเก้าอี้ไปเลย เพราะมันมีผู้กำกับที่กล้าทำแบบนี้ด้วย คือไม่ใช่ในประเทศไทยที่ไม่มีใครทำ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครทำ เป็นหนังเซ่อมากเลย อยู่ๆ ก็มีฉากเพ้นท์กับมือแล้วก็สไลด์เข้ามา มีฉากที่เข้าวาดเอาเป็นซันเซ็ท คือเป็นหนังที่เซ่อมาก มันไม่ได้เซ่อแบบที่เป็นหนังอาร์ต มันเซ่อแบบที่เป็นหนังเพื่อความบันเทิงสูงมาก ซึ่งเราก็ชอบ เราได้คุยกับพี่ศิษฏ์มานานพอสมควร โดยผมรู้จักกับพี่ศิษฏ์ผ่านพี่ต้อม (เป็นเอก รัตนเรือง) หลังจากนั้นก็ได้คุยกันบ่อย พอได้คุยกันถูกคอ พี่เขาก็ชวนผมมาเล่นเรื่องอินทรีแดง

 @ คนจะอินกับ "อนันดา" ในหนังโรแมนติก หรืออีโรติก แต่เรื่องนี้จะเป็นบู๊
 บู๊เยอะ อีโรติกก็มี เหมือนผมหนีไม่รอดบทอีโรติกไปแล้ว (เหมือนเราเป็นโลโก้พระเอกอีโรติกไปแล้ว) ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยอายร่างกายตัวเอง พอถึงเวลาแก้ผ้าก็แก้ แต่หนังเรื่องอินทรีแดงเป็นหนังที่ยากกว่าที่ผมคิดไว้ คือเราอาจไม่เคยเล่นหนังบู๊มาก่อน หนังเรื่องนี้มันเหนื่อย ขนาดเราเป็นนักกีฬาตั้งแต่เด็ก แต่เล่นหนังบู๊มันเหนื่อยมาก ยิ่งมาเล่นหนังบู๊ของพี่วิศิษฏ์มันยิ่งเหนื่อย เพราะว่าพี่ศิษฏ์เป็นคนที่เนียบมาก ทีมงานก็ดันทุรัง เพื่อจะทำให้ได้อย่างที่พี่ศิษฏ์ต้องการตลอด ถ่ายกันทีไม่เคยน้อยกว่า 18 ชั่วโมงต่อวัน มันทำให้เราชินมากเลยกับการทำงาน 24 ชั่วโมง นอนวันละ 3-4 ชั่วโมง ทำงานกันหนักมาก สนุกด้วย แต่มันก็เหนื่อย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเจอคิวนรก 44 ชั่วโมงถ่ายต่อเนื่อง ตั้งแต่ผมทำงานมาผมไม่เคยน็อกคากองเรื่องนี้เรื่องแรกเลย

 @ แล้วฉากที่ทุกคนจับตามองอย่างฉากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่ปิดตำนานพระเอกดัง "มิตร ชัยบัญชา" ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
 ในบทเดิมของพี่ศิษฏ์ไม่มีฉากนี้ แต่ว่าผมก็คุยกับแกว่าเป็นภาพที่คนจำ เพราะอย่างน้อยมันควรจะมีสักฉากหนึ่ง พี่ศิษฏ์เลยเขียนเพิ่มขึ้นมาเป็นเหมือนฉากโบนัส ตอนจบหนังก็จะมีฉากที่ปีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเป็นของขวัญ

 @ มาร่วมงานกับ "นินา" ญารินดา บุญนาค เป็นครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
 ดี แต่มันจะดีมากเลย ถ้าตอนเล่นด้วยกันเขาไม่ใส่ส้นสูง จริงๆ ผมก็ไม่ใช่คนตัวเตี้ยนะ ผมก็สูงระดับหนึ่ง แต่เขาสูงมากเลย ถ้าใส่ส้นสูง น่าจะสูงประมาณ 6 ฟุตกว่า (ประมาณ 190 เซนติเมตร) คือทุกคนไม่อยากยืนอยู่ข้างเลย ทุกคนที่เล่นกับนินาต้องมีบล็อกหรือถุงทรายให้ยืน พอเล่นกับผมเขาก็ใส่รองส้นปกติ แต่ถ้าใส่ส้นสูงเขาก็สูงกว่าผม อินทรีแดงก็ดูหงอยไปเลย

 @ สนิทสนมกันแค่ไหน
 เป็นเพื่อนร่วมงานที่เขาขากันได้ดี เพราะเราสองคนเหมือนมีอะไรที่คล้ายๆ กัน นินาเป็นคนฉลาดมาก แล้วผมเป็นคนที่ชอบคุยกับคนที่รู้มากกว่าเรา เพราะผมเองก็เบื่อที่จะตอบคำถามคนอื่น เราก็อยากที่จะถามเขาบ้าง ผมสนใจเรื่องเดียว คือเขาเป็นครูสอนสถาปัตย์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เราก็ถามเขา แทบไม่ได้คุยเรื่องหนังกันเลย คือมันเป็นเรื่องแปลก เพราะเราไม่ค่อยเจอนักแสดงที่เป็นอาจารย์ มีความรู้ไปทางสถาปัตย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงเลย ตอนเขาก็ต้องไปเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เรียกว่าไม่ธรรมดาเลย"

 @ สำหรับ "อนันดา" ภาพยนตร์ "อินทรีแดง" มีเสน่ห์อย่างไร
 ผมว่าสังคมไทยตอนนี้เรารู้สึกว่า เรายังขาดฮีโร่ ผมรู้สึกเก็บกด เพราะมีอะไรหลายอย่างในสังคมไทยที่ผมอยากที่จะไปแก้ เพราะเลอะเทอะซะขนาดนี้ ผมเลยจินตนาการว่ามันน่าจะมีฮีโร่สักคนที่เป็นกบฏด้วย ผมรู้สึกว่าอินทรีแดงเป็นตัวแทนของความรู้สึกนั้นในคนเราที่มันอยากที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ที่มันทนไม่ได้แล้ว มันไม่ได้เป็นเรื่องที่อิงความจริงหรอก เป็นแค่เรื่องที่เราสร้างขึ้นมา แต่เราก็นึกออกได้

 @ มาที่เรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย" กับกระแสเรื่องที่ว่าคนมาดูเรื่องนี้เพราะอยากเห็นก้น "อนันดา" ตัวเราเองรู้สึกอย่างไร
 (หัวเราะ) ก็เห็นกันไปแล้ว แค่ทีเซอร์ก็เห็นเต็มๆ เลย แม่ผมเองดูก็มีบ่นเหมือนกันว่าอะไรเนี่ย โชว์ก้นอีกแล้วเหรอ เรื่องนี้ต้องยอมรับ ว่าเป็นเรื่องที่มีเรื่องของเลิฟซีนอะไรเยอะ แต่มันเพราะเนื้อหาของหนังมันเป็นอย่างนั้น มันพูดถึงกิเลส ตัณหาของมนุษย์ มันเลยต้องมี ผมก็ยังคุยกับพลอย (เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์) เลยว่าถ้าไม่ใช่หนังหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) ถ้าไม่ใช่ผมเล่น พลอยมันบอกเลยว่ามันไม่เล่นหรอก แต่พลอยมันสปิริตมากเลย ผมไม่เคยเห็นนักแสดงหญิงที่ไหนทุ่มเทกับบทบาทหนึ่งได้ขนาดนี้ ทั้งกายทั้งใจ เพราะเรื่องนี้ทั้งผมทั้งพลอยแก้หมดด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็มีเซฟตัวเอง มีความลับตัวเองของเราบ้าง

 @ เหมือนชีวิตของ "อนันดา" คือภาพยนตร์
 เรียกแบบนั้นก็คงได้ เพราะผมเป็นคนดูหนัง ผมไม่ได้รังเกียจละคร ผมเคยเล่นในฝัน ซึ่งก็เป็นของหม่อมน้อย โดยอันนั้นมันเหมือนผมส่งงานให้อาจารย์มากกว่า แต่ละครที่อื่นไม่เคยเล่น ไม่ใช่ไม่อยากเล่น แต่เพราะผมไม่ได้เสพละครมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ไม่ได้รู้จักมัน ถ้าให้เราไปเล่นมันคงไม่ได้รู้สึกอินไปด้วย แต่ส่วนหนังผมเป็นแฟนหนังมาตั้งแต่เด็ก ผมดูหนังเยอะมาก มันเลยรู้สึกธรรมชาติกว่า

 ชีวิตส่วนตัว
 @ เมื่อก่อน "อนันดา" ดูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่ตอนนี้ดูเปลี่ยนไปแล้ว
 เปลี่ยนไปเยอะ พอผมได้เดินทางมันเพิ่มโลกทัศน์จริงๆ ให้ผมมากมันช่วยผมได้เยอะมาก มันจะทำให้ผมได้เห็นว่า เพราะบางทีสิ่งที่ผมเห็นว่ามันสำคัญเหลือเกิน จริงๆ มันไม่ได้มีความหมายอะไร ความคิดก็โตขึ้น

 @ อยู่วงการบันเทิงมานา ตอนนี้มองวงการเปลี่ยนไปไหม
 วงการบันเทิง สำหรับผมมันก็เปลี่ยนไปมาก เป็นชาตินิยมมากขึ้น หนักไปทางแฟชั่นมากขึ้น สำหรับผมมองว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มันก็โอเควงการมันก็ต้องพัฒนามากขึ้น ถ้าถามว่าผมชอบไหม ผมไม่ค่อยชอบ ผมรู้สึกว่าคำว่าดารามีมากขึ้น แต่คำว่านักแสดงมีน้อยลง แล้วศิลปินจริงๆ น้อยลง เป็นได้ง่ายเป็นได้แค่ชั่วข้ามคืน แต่คุณภาพไม่ค่อยมี มันน่าเสียดาย

 รักเก่าที่ผ่านไป
 @ กับ "จี๊ด" แสงทอง เกตุอู่ทอง
 ไม่ค่อยได้คุย มีส่งข้อความหากันบ้าง ผมถือว่ามันก็ดี เพราะตอนที่เลิกกันไปเราก็ไม่ได้ที่จะทะเลาะกัน ไม่ได้เป็นเหตุผลที่อื้อฉาว มันก็แค่เลิกเฉยๆ คือชีวิตมันไปคนละทิศคนละทาง ทุกวันนี้เลยไม่ได้มีอะไร ผมแฮปปี้จะตายที่ได้รู้จักเขา ได้คบกับเขา บางทีเราก็ต้องยอมรับว่าชีวิตของคนเราจะเดินคู่ขนานกันตลอดเวลาไม่ได้ มันบังคับไม่ได้ บางทีถ้ามันจะไปคนละทิศคนละทาง ผมก็ไม่อยากจะฝืน เหมือนในคำพูดที่เชยๆ ที่ได้ยินบ่อยๆ ว่าถ้าเรารักเขาก็ต้องปล่อยเขาไป มันก็เป็นความรู้สึกคล้ายๆ แบบนั้น

 @ คนจะจับตามองเรื่องของความรักมากกว่างาน
 มันเป็นสิ่งที่ผมบังคับไม่ได้ มันอยู่เหนือการควบคุม มันก็เป็นข่าวที่เขาก็เขียนไป ถามว่าผมเจ้าชู้ไหม ผมไม่บอกเลยว่าผมจีบคนไม่เป็น ถ้ารู้สึกตัวว่าเราพยายามจีบใครสักคนเรา ผมจะทำตัวไม่เป็นเลย ถ้าผมชอบใคร ผมก็จะบอกตัวเองว่าชอบก็แค่นั้น แต่ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ปล่อยให้เป็นนั้น

 เปิดใจแบบหมดเปลือกแบบนี้ สาวๆ คงยิ้มปลื้มกันไปหมดแล้ว

ชื่อ อนันดา เอเวอริ่งแฮม
ชื่อเล่น จ่อย
เกิด 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525
ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา อันดากับฟ้าใส, 303 กลัว กล้า อาฆาต, คนสั่งผี, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ,  Me Myself, พลอย, โรงงานอารมณ์, เมมโมรี่ รักหลอน,
หยุดหัวใจไว้รอเธอ (The Leap Years) ภาพยนตร์สิงคโปร์, สะบายดี หลวงพะบาง, โลงต่อตาย (The Coffin) หนังร่วมทุน ไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์, ปืนใหญ่จอมสลัด, แฮปปี้เบิร์ธเดย์, ชั่วฟ้าดินสลาย และ อินทรีแดง
ผลงานละครโทรทัศน์ที่ผ่านมา มหัศจรรย์แห่งรัก, คนเริงเมือง, ทะเลฤๅอิ่ม, ในฝัน

เรื่อง... "ดวงใจ สอาดจิตต์ / ณัฏฐิรา หลอดแก้ว"
ภาพ... "นัทพล ทิพย์วาทีอมร"