
ศิลป์แห่งแผ่นดิน - พระปางรำพึงที่ทัพทัน
ช่วงเดือนกันยายนนี้ ผมมีรายการ เดินสาย ถี่ยิบ ขึ้นเหนือล่องใต้เป็นว่าเล่น ถ้าเป็นภาคกลาง ภาคเหนือ หรืออีสานตอนบน ผมก็มักจะขับรถไปเอง ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ถึงปลายกันยายน ผมขับรถเป็นระยะทางยาวไกลถึงกว่าหนึ่งหมื่นกิโลเมตร
ผมเคยถูกเพื่อนนักเขียนรุ่นพี่ท่านหนึ่งแซวว่า “ตกลงนายจะเป็นนักเขียน หรือจะเป็นนักร้อง หรือจะเป็นนักพูด” เป็นคำถามที่ผมไม่อยากจะตอบ หากจะตอบก็คงต้องตอบว่า เป็น “นักเดินทาง” หรือหากจะตอบให้ตรง ก็ต้องตอบว่า เป็น “นักขับ”
แม้แต่วันที่ผมว่างจากการเดินสาย ผมก็ยังอยู่ไม่ติดบ้าน อดไม่ได้ที่จะขับรถออกไปที่ไหนสักแห่ง บางทีเหมือนไม่มีจุดหมาย
ขับรถผ่านอำเภอโกรกพระ (นครสวรรค์) สู่อำเภอทัพทัน (อุทัยธานี) ถึงหมู่บ้านโคกหม้อ แวะดูตลาดโค-กระบือ ที่วันนี้ (วันที่ผมแวะ) ช่างเงียบเหงา เห็นแต่ลานกว้าง มีโรงเรือนโปร่งโล่ง มีหลักผูกวัวควาย มีคอกไม้ใหญ่น้อย มีร่องรอยกีบเท้า และกองมูล ด้วยวันนี้ยังมิใช่วันนัด ผมถ่ายรูปแบบถ่ายทิ้ง ถ่ายขว้าง ไม่พอใจก็ลบทิ้ง นิสัยพิถีพิถันก่อนกดชัตเตอร์จากเมื่อครั้งยังใช้ “กล้องฟิล์ม” มลายหายไปสิ้น
ออกจากตลาดนัดโค-กระบือ ที่ว่างร้าง ขับรถมุ่งสู่อำเภอทัพทัน ริมทางด้านซ้ายมือมีซุ้มประตูบอกนาม “วัดเขาน้อย” มีเขาลูกน้อยๆ เป็นฉากหลัง พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิองค์ใหญ่ ฝีมือช่างพื้นบ้านดูหยาบๆ ในฝีมืองาน แต่ละเอียดอ่อนในความรู้สึก พูดง่ายๆ ว่า มองแล้วรู้สึกดี ผมเคยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ (ไทย) มาบ้าง เมื่อครั้งเรียนอยู่ ร.ร.เพาะช่าง พอมองออกว่าพระพุทธรูปองค์ใดอยู่ในสมัยใด เข้าใจถึงพุทธลักษณะตามรูปแบบประติมากรรมยุคนั้นๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความ “งามง่าย” แบบ “พื้นบ้าน” ฝีมือช่างชาวบ้านที่สร้างด้วยใจใสซื่อ ด้วยศรัทธาเปี่ยมล้นนี่แหละครับ ที่ทำให้ผมต้องยืนตะลึงจ้องมอง “พระปางรำพึง” ที่วัดเขาน้อยแห่งนี้ พลางรำพึง “แม่เจ้าโว้ย”
องค์พระยืนผอมสูงชะลูด เอวองค์อรชรอ้อนแอ้น พระพักตร์บางแบน ยิ้มแป้นแบบอารมณ์ดี สองกรประสานทาบพระอุระ ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ใต้ฉัตรที่ทำด้วยโลหะ ส่วนสูงน่าจะราวๆ 5 เมตร
ถัดจากพระยืนปางรำพึง มีโรงเรือนประดิษฐาน “พระนอน” ที่มีรูปร่างหน้าตาถอดแบบมาจากพระยืนจนดูเสมือนเป็นพระองค์เดียวกันที่หลบแดดหลบฝนมาอยู่ในชายคา
พระพุทธรูปฝีมือช่างชาวบ้าน ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง สนิทสนม ผมเองเดินเข้าไปใกล้ๆ คล้ายได้ยินเสียงพระพูด มองพระพักตร์ก็รู้สึกว่าพระยิ้ม มองพระยืนนานๆ รู้สึกเหมือนว่าท่านอาจจะเปลี่ยนอิริยาบถ ในไม่ช้านี้ ไปยืนมองพระนอนใกล้ๆ โดยไม่มีความรู้สึกเกรงกลัวว่าท่านจะดุว่า
วัดในชนบทหลายแห่ง โดยเฉพาะวัดใหม่ๆ จะมีพระพุทธรูปปูนปั้นฝีมือช่างพื้นบ้าน ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ตามเชิงเขาบ้าง บนเนินบ้าง แต่ใช่ว่าช่างพื้นบ้านจะ “เข้าถึง” ศรัทธาอันบริสุทธิ์ได้เสมอไป มีมากมายที่ปั้นพระพุทธรูปออกมาดูน่ากลัว บางทีถึงขั้นอัปลักษณ์เอาเลย ขนาดเด็กๆ ยังกลัวไม่กล้าสบพระพักตร์พระพุทธรูป
ที่วัด “โรงโค” อำเภอเมืองอุทัยธานี มี “พระพุทธรูปกินคน” ฝีมือช่างพื้นบ้าน องค์หนึ่งอยู่ด้านหลังโบสถ์เก่า ที่ไปที่มาของชื่อ พระพุทธรูปกินคน คงมาจากหลวงตา หรือหลวงปู่รำคาญเด็กๆ ที่มาวิ่งเล่นส่งเสียงรบกวนสมาธิ จึงสร้างเรื่องขึ้นเพื่อให้เด็กๆ กลัว จะได้ไม่มาวิ่งเล่น
ผมยืนดูพระพุทธรูปนี้อยู่นาน ก็เห็นว่า รูปร่างหน้าตาของท่านออกจะสงบงามดี
"ศักดิ์สิริ มีสมสืบ"