
มองผ่านเลนส์คม-ไข่ มาลีฯ จะทำหนังสือศิลปะ
สามสี่ปีก่อนเห็น ไข่ มาลีฮวนน่า (คฑาวุธ ทองไทย) แต่งเนื้อแต่งตัวแล้วขัดตา เขาสวมเสื้อกล้ามขาวสะอาด เผยรักแร้ นุ่งผ้าปาเต๊ะสีอมม่วงอมแดง สร้อยคอ แหวน กำไล ไปดื่มกาแฟกับผม กับ ศิริวร แก้วกาญจน์ ที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ้าไม่เป็นศิลปินดังผู้คนคงคิดว่าบ้า
ไม่กี่วันต่อมา ขณะเดินขึ้นสะพานลอยอิมพีเรียล ลาดพร้าว ไข่โทรบอกว่า เพลงลูกทุ่งเก่าๆ ที่จะนำมาบันทึกใหม่ใกล้เสร็จแล้ว พลันโก่งคอส่งเสียงแหบๆ ให้แตกต่างไปจาก ทูล ทองใจ “พี่ต้องลาก่อนฟ้าสว่าง...” นำเสียงสยิวหลั่งไหลผ่านมือถือมาให้ใจหวิว ผมอยากจะร้องตาม แต่อากาศร้อนอบอ้าว ร้องได้สองท่อนเขาถามว่าเพราะไหม ผมกลั้นใจตอบว่าเพราะมาก
ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าเพลงชุดนั้นเสร็จจริงหรือเปล่า สิบสองปีก่อนผมกับไข่นั่งดื่มกันแถวท่าพระอาทิตย์ ตอนนั้นเขาเพิ่งวาดรูปให้ เริงวุฒิ มิตรสุริยะ พาไปทำปกหนังสือกวี เป็นภาพลายเส้นที่ดูแล้วไม่น่าจะช่วยให้หนังสือขายได้ แต่ไข่สนุกที่ได้วาดรูป เขาชอบวาดรูป เพราะเรียนมาทางนี้ ทั้งเป็นอาจารย์โรงเรียนสาธิต ม.ศิลปากร นครปฐม สอนวิชาทัศนศิลป์
ดื่มกันพอเมาได้ที่แล้วผลัดกันร้องเพลงลูกทุ่ง ร้องเดี่ยวบ้าง ต่อกันคนละท่อนบ้าง ผมว่าเขาร้องไม่เพราะ แต่เขาไม่เคยพูดว่าผมร้องไม่เอาไหน ได้แต่ปรามเบาๆ ว่าอย่าเข้าวงการนี้ เพราะเขาจะหากินลำบาก
บางวันได้โอกาสไปเยี่ยมบ้านใหม่ของเขาทางตะวันออกสุดของกรุงเทพฯ ได้เห็นภาพวาดจำนวนมาก ทั้งฝีมือตัวเองและคนอื่น หนังสือศิลปะซื้อบ้าง ได้รับแจกตามวาระบ้าง ซุกอยู่ในชั้นเต็มบ้าน รวมทั้งหนังสืออื่นๆ ทั้งสาระความรู้ ประวัติศาสตร์ นิยาย เรื่องสั้น และหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์การเมือง ไข่ มาลีฮวนน่า เป็นนักอ่าน เรื่องนี้แฟนเพลงส่วนมากไม่รู้ เขามีใจเซ็นหนังสือศิลปะหนักร่วมสองกิโลให้ผมเล่มหนึ่ง ผมเชยชมอยู่สองปีแล้วยกให้คนที่เคารพ และน่าจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่าไปแล้ว
เพิ่งพบไข่ มาลีฯ เมื่อสิบวันก่อน เดี๋ยวนี้บอกเลิกดื่มแล้ว งานคอนเสิร์ตต้องนอนดึกบ่อยๆ งานสอนก็ไม่อยากขาด อายุไข่ก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ต้องระมัดระวัง ดื่มมากเสียสุขภาพกาย สุขภาพเสียง เขาหันมาดื่มไวตามิ้ลค์ผสมงาดำ ดื่มบ่อยจนเปิดฝาขวดได้ด้วยมือเปล่า (ห้ามเลียนแบบ) เขาแจ้งว่ากำลังตระเตรียมทำหนังสือศิลปะสักเล่มในนามกลุ่มหอไตร (ชื่อซอยเข้า ว.ศิลปะนครศรีธรรมราช ที่เรียนเก่าของเขา) เป็นหนังสือเรื่องราว หนังสือภาพ กวี โดยชักชวนศิลปินกลุ่มหอไตรมาช่วยกันวาด ช่วยกันเขียน จะพิมพ์ออกมาให้เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีและยืนยันว่ากลุ่มมีตัวจนจริงๆ ไม่ได้มีเฉพาะชื่อ
ขณะเอ่ยปากชักชวนผมให้ช่วยเขียนหนังสือที่เขากล้าพูดว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ เขายังดึงสมุดบันทึกจากย่ามมาขีดเขียนภาพ วาดเส้นอยู่ตลอดเวลา เห็นเอาจริงเอาจังขนาดนั้นผมต้องรีบรับปาก
ใจจริงก็อยากเห็นหนังสือศิลปะเล่มที่เขาฝันจะทำให้เป็นรูปเป็นร่าง เขาบอกให้ใจชื้นว่า ตอนนี้มีคนรับปากจะช่วยเขียนกันหลายคน ต้องเอาใจช่วยให้เสร็จ
จำลอง ฝั่งชลจิตร