บันเทิง

รู้ทันกฎหมาย - ซ่อมไม่เสร็จ

รู้ทันกฎหมาย - ซ่อมไม่เสร็จ

09 ก.ย. 2553

ซื้อรถมาก็ต้องมีเวลาเข้าซ่อมบ้าง โดยเฉพาะรถที่เก่าและแก่ แต่รถที่ยังไม่เก่าก็เอาเรื่องได้หากไม่ส่งซ่อมดีๆ ก็มีเรื่องให้ปวดหัว

  รถที่ซื้อมาย่อมมีประกันอะไหล่และคุณภาพการใช้งานได้ระยะหนึ่ง หากพ้นกำหนดการประกันแล้ว หากรถเสียหายก็เอาไปซ่อมได้ที่ร้านขายรถ ที่เราเรียกว่าดีลเลอร์หรือตัวแทนยี่ห้องนั้นๆ

 บางยี่ห้อก็ไปตั้งเป็นบริษัทใหม่ต่างหากแยกจากบริษัทที่ขาย  กฎหมายถือเป็นคนละคนกันไป   คนซื้อรถจึงต้องเข้าใจว่าถ้าซ่อมแล้วมีปัญหาก็ไปหาเรื่องได้กับบริษัทที่รับซ่อม ไม่ใช่กับผู้ขายที่เป็นดีลเลอร์

 แต่การไปซ่อมบางทีก็มีปัญหา  อย่างที่ถามมาว่าถ้าไปซ่อมแล้วยังเสีย  แบบนี้ถือว่าเขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหรือไม่และแค่ไหน  

 ก็ต้องดูว่าเวลาไปรับรถที่ซ่อมมา เราสามารถเห็นได้ว่ามันยังบกพร่องไม่เรียบหร้อยหรือไม่  เช่น  ซ่อมสีรถที่ประตูหน้า  แต่ว่ามาเทียบสีกับประตูหลังแล้วสีด่างเห็นๆ  แบบนี้แน่นอนที่เป็นงานไม่เรียบร้อย

 แต่คนที่นำรถไปซ่อมก็ย่อมมองเห็น   แต่เมื่อไม่ได้สนใจเท่าที่ควร  รับรถไปแล้วค่อยไปตรวจสอบที่บ้าน  ก็มีความเสี่ยงที่คนซ่อมจะปฏิเสธความรับผิดได้  เพราะกฎหมายบอกว่า ถ้ารับรถไปทั้งที่ชำรุดบกพร้องโดยไม่อิดเอื้อน  ผู้ซ่อมไม่ต้องรับผิด 

 แบบนี้มีวิธีกั๋กไว้ได้ หากไม่แน่ใจก็ต้องสงวนสิทธิเอาไว้เป็นหลักเป็นฐานว่า ยังไม่ได้ตรวจรับงาน    แต่ก็ต้องรีบตรวจรับตามเวลาสมควรด้วย ทิ้งไว้สามปีเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าสีด่าง  อย่างนี้ก็ควรรับกรรมไป

 ถ้าเรื่องความชำรุดบกพร่องนั้นไม่อาจเห็นได้ในทันทีที่รับงานไว้  กลับไปพบเห็นทีหลัง  ก็ยังเรียกร้องได้  แต่จะอ้างตะบันไปเรื่อยไม่ได้  ต้องอาศัยความเป็นจริงหรือลักษณะของความบกพร่องด้วยว่าไม่อาจเห็นได้  ไม่ใช่เพราะเราไม่เห็น

 แม้ว่าจะไม่เห็นเพราะมันไม่ควรจะเห็นตอนนั้น หรือมาเห็นเอาทีหลังอย่างไรก็ตามที  ก็ต้องไปเรียกร้องให้พี่ช่างเขาทำการซ่อมให้เรียบร้อย  หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งปีนับแต่เวลาที่ส่งมอบรถให้เราเมื่อไหร่  กฎหมายท่านให้ถือว่าคนซ่อมพ้นความรับผิดไป

 บางทีคนซ่อมรู้อยู่แก่ใจว่ามันบพกร่องตรงไหน  แต่ทำเนียนปิดบังไว้ไม่แจ้งให้ทราบ   อย่างนี้กฎหมายมีวิธีจัดการให้  โดยไม่ต้องนำระยะเวลาหนึ่งปีมาใช้    นั่นหมายความว่าคนซ่อมต้องรับผิดชอบแม้ว่าจะเกินกว่าเวลาหนึ่งปีแล้วก็ตาม

 ต่อให้ปล่อยไปได้ขนาดนั้น    งานนั้นเกิดผู้รับซ่อมไม่ยอมรับผิดชอบขึ้นมา  ก็ต้องพาเรื่องไปถึงศาล  กฎหมายท่านก็ต้องกำหนดเวลาเอาไว้  เรียกว่าอายุความ

 หมายความว่า ถ้าจะฟ้องคนซ่อมรถเมื่อไหร่ก็ต้องฟ้องภายในหนึ่งปีเหมือนกัน  แต่นับหนึ่งปีนับแต่วันที่การชำรุดบกพร่องนั้นได้ปรากฏขึ้น

 เวลาจะฟ้องหรือเรียกร้องให้รับผิดชอบก็ต้องอยู่ในกรอบความรับผิดตามกฎหมาย  คนซ่อมที่ทำงานให้ ถ้าเป็นลูกจ้างของบริษัทหรืออู่ซ่อมรถ  กฎหมายท่านให้ไปเรียกร้องให้รับผิดเอากับเจ้านาย  คือบริษัทหรืออู่ซ่อมนั้น   แต่ไม่ขยายลามไปถึงดีลเลอร์

 ซ่อมแล้วหายได้สามวัน กลับมาเสียใหม่ต้องกลับไปซ่อมอีกนั้น ยังไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นความชำรุดบกพร่อง  ต้องให้ได้ความชัดเจนว่า  ความชำรุดนั้นเกิดจากการซ่อมของเขาด้วย    รถบางคันก็ซ่อมแล้วซ่อมอีกด้วยสภาพของมันเอง   

 รถเสียรถซ่อมก็ต้องรอบคอบกันไว้  จะโทษช่างหรืออู่เสมอไปก็ไม่ได้เหมือนกัน

"ศรัณยา ไชยสุต"