
มองนอกดูใน - เลี้ยงลูกวิถีพุทธ ด้วยหลักมีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู"
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้เสด็จไปยังหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ สวนรถไฟ และทรงร่วมฟังการเสวนาเปิดงานเป
หลังจากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการธาตุทั้ง 4 เพื่อเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้พัฒนาการและศักยภาพของเด็กตามอุปนิสัยของแต่ละธาตุ ธาตุดิน-ปั้นชีวิตโดย อ.วัลลพ นิ่มสนอง ของจิ๋ว, ธาตุลม-เชิดละครหุ่นเรื่อง เจ้าชายน้อยหอยสังข์ โดยแม่ครู จากเสถียรธรรมสถาน, ธาตุน้ำ-วาดรูป โดยตุลย์ สุวรรณกิจ ศิลปินผู้สร้างสรรค์นิทานภาพสำหรับเด็ก และ ธาตุไฟ - เล่านิทานพับกระดาษ โดยบรรณาธิการสำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก จากนั้นได้ทรงฟังการเสวนาเรื่อง "เลี้ยงลูกวิถีพุทธ ด้วยหลักมีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู" โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี, นายแพทย์มานิตย์ แสนมณีชัย สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลหัวเฉียว, สู่ขวัญ บูลกุล, ชเนตร แก้วเล็ก ตัวแทนครอบครัววิถีพุทธจากเสถียรธรรมสถาน และข้าพเจ้า ที่ร่วมกันถ่ายทอดแนวคิด และประสบการณ์การดำเนินชีวิตครอบครัว ตั้งแต่การเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ ไปจนถึงการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข ดำเนินรายการโดย ศรัยฉัตร จีระแพทย์ ด้วย...
นับเป็นการเสวนาที่เป็นประโยชน์ยิ่งไม่เพียงเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ แต่สำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัยในสังคม ในสัปดาห์นี้จึงขอนำบรรยากาศเพียงบางส่วนมาฝาก และติดตามได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า...
“เด็กแต่ละคนที่จะมาอยู่กับเราเขามาอย่างมีความหมายนะ ไม่มีใครสักคนที่มาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แล้วจู่ๆ ก็มาอยู่ในครรภ์ของแม่เลย ไม่มีคำว่าบังเอิญ เพราะฉะนั้นการที่เด็กแต่ละคนจะมาปฏิสนธิ ก็แสดงว่าต้องมีการทำปฏิกิริยาระหว่างจิตหนึ่งดวงที่กำลังจะแตกดับ เราเรียกว่าจุติจิต จิตดวงสุดท้ายที่กำลังจะแตกดับในภพใดก็แล้วแต่ เราเรียกว่าจุติจิต ในระหว่างที่จุติจิตกำลังจะดับ จะมีอีกจิตหนึ่งมารับทันที คือปฏิสนธิจิต ปฏิสนธิจิตคือจิตที่จะไปอยู่ในครรภ์ของแม่ ตัวปฏิสนธิจิตตัวนี้เองที่จะทำปฏิกิริยาบางสิ่งบางอย่างกับครรภ์ของแม่ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่มีศีลธรรม สภาพชีวิตหรือสภาพจิตที่อยู่ในปฏิสนธิจิตนั้นจะเคลื่อนไปหาผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นจิตจะเคลื่อนไปทำปฏิกิริยากันตั้งแต่ยังไม่มีตัวมีตน
...ถ้าเราอ่านพุทธประวัติ จะเห็นว่าในขณะที่พระโพธิสัตว์มาปฏิสนธิ ในช่วงนั้นพระพุทธมารดามีศีลห้าพอดี พระโพธิสัตว์จึงมา...เห็นหรือยังว่า เรามีสิทธิ์เลือกลูกที่จะมาอยู่กับเราได้แน่นอน และหลักการง่ายๆ คืออยากได้ลูกดี พ่อแม่ต้องอยู่ในศีลธรรม ถ้าทำได้เช่นนี้เราก็มีสิทธิ์เลือกลูกของเรา” พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และข้าพเจ้าได้ร่วมแลกเปลี่ยนในตอนหนึ่งว่า...
“เวลาที่เรามีใจที่สะอาดๆ เกลี้ยงเกลาจากความอึดอัดทางอารมณ์ ใจจะมีพลัง
...เวลาที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจที่จะมีลูกสักคน...ถ้าพ่อแม่ลองปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้ใจมีพลังที่มีความบริสุทธิ์ ตั้งมั่น พ่อแม่จะกลายเป็นพลังแห่งการรองรับสิ่งที่ดีอีกหนึ่งชีวิตมาปฏิสนธิจิตอยู่ในครรภ์ของแม่ เวลาที่เราทำงานจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ เราไม่เคยให้พ่อแม่มาอธิษฐานจิตว่าขอให้มีลูกเลย และการอธิษฐานไม่ใช่การอ้อนวอนขอ แต่การอธิษฐานเป็นการตั้งใจมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ซึ่งพ่อแม่ที่ตั้งใจที่จะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติถูกต้องโดยธรรม มีความตั้งใจที่จะทำให้เรามีพื้นฐานของพลังที่ดีทำให้สิ่งดีๆ มาปฏิสนธิจิตอยู่ในครรภ์ของแม่ ประสบการณ์การทำงานเรื่องจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ 1,300 กว่าครอบครัว เราไม่มีเด็กพิการเลย เป็นตัวเลขที่บอกได้เลยว่าพลังของเด็กที่ได้จากพลังของพ่อแม่ที่ทำกุศล แล้วทำให้เซลล์สมองของลูกเติบโตไปพร้อมกับกุศลของพ่อแม่นั้น เป็นการทำงานเชิงรุกที่เราคงต้องบอกรัฐบาล ซึ่งไม่เฉพาะรัฐบาลไทย แต่เป็นรัฐบาลโลกว่า อย่าปล่อยให้เด็กที่เกิดมาอย่างไม่รับผิดชอบของพ่อแม่ที่ไม่รู้ว่าการปลูกฝังหรือทุนที่พ่อแม่ให้ลูกได้ คือทุนของชีวิตคือจิตที่ไม่ขุ่นมัวของพ่อแม่นี่แหละ...
“พุทธศาสนาสอนว่าเราต่างกันโดยกรรม พุทธศาสนาไม่มีพรหมลิขิต มีแต่กรรมลิขิต อยากให้เป็นอย่างไร ทำปัจจุบันกรรมให้ไม่ประมาทที่สุด องค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าการเกิดเป็นมนุษย์สามารถไปให้ถึงความเป็นอิสรภาพได้ เพราะฉะนั้นการเริ่มให้ครอบครัวเป็นครอบครัวแห่งสติ และเริ่มการมีปฏิสนธิจิตที่อีกหนึ่งชีวิตมาอยู่ในครรภ์ของแม่ถือเป็นงานเชิงรุกที่อยากจะบอกว่าเราลงทุนนิดเดียว แต่ได้กำไรมหาศาล และเป็นกำไรที่บอกว่าไม่ต้องใช้ทรัพย์ภายนอก แต่ใช้อริยทรัพย์ภายใน การที่เรามีคนยืนยันกับเรามากมาย คุณแม่ต้องขอบคุณหลานๆ ในโครงการจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ ที่ทำให้เรากล้าที่จะเอาองค์ความรู้ทั้งหมดออกมารวมเป็นหนังสือเล่มนี้”
ธรรมสวัสดี
"แม่ชีศันสนีย์"
***สนับสนุนหนังสือ “มีความสุขให้ลูกเห็น เป็นคนดีให้ลูกดู” ได้ที่ร้านนายอินทร์และร้านหนังสือทั่วไป