
'นิว-จิ๋ว-แนน'เว้นวรรคเพลงไทยแท็กทีมร้องเพลงสากล
ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินสาวรุ่นใหม่ที่มีเสียงร้องที่บาดลึกจนถูกยกให้เป็นดีว่ารุ่นใหม่ของวงการเพลง สำหรับ 3 สาว "นิว" นภัสสร ภูธรใจ "จิ๋ว" ปิยนุช เสือจงพรู และ "แนน" วาทิยา รวยนิรัตน์ อดีตนักร้องนำวง"ครีม"
ซึ่งเส้นเสียงการร้องของพวกเธอในการร้องเพลงไทยถือว่าอยู่อันดับต้นๆ แต่ครั้งนี้ทั้งสามสาวขอเว้นวรรคการร้องเพลงไทย ด้วยการหันมาโชว์ศักยภาพการร้องเพลงสากล ที่ถือว่าหินสุดๆ ยิ่งเพลงสากลที่พวกเธอต้องมาร้องเป็นเพลงในยุค 70 และร้องในแนวประสานเสียงด้วย ยิ่งบอกได้เลยท้าทายความสามารถกันสุดๆ โดยทั้งสามสาวเอ่ยปากเลยว่ายากมากเกินคำบรรยาย
"โปรเจกท์นี้ถือเป็นโปรเจกท์ที่ต้องทำการบ้านเยอะมาก โดยตอนแรกเราจะได้ชื่อเพลงทั้ง 12 เพลงมาก่อน พอเราเริ่มเข้าห้องอัดจริงๆ โปรดิวเซอร์ คือพี่อ้อม (ชุมพล สุปัญโญ) ร้องให้ฟังมาบ้าง หรือส่งต้นฉบับมาให้ฟังบ้าง บางทีเราก็ต้องค้นหาข้อมูลเองบ้าง ว่าต้นฉบับเขาร้องยังไง เพราะมันมีสำเนียงทางฝรั่งด้วย
เราต้องออกเสียงให้มันชัดเจนแต่ที่ยากสุดๆ ตรงที่เราจะต้องอินกับเพลงที่ต้องร้อง เพราะมันเป็นเพลงต่างประเทศ มันไม่เหมือนเพลงไทยที่เราเห็นเนื้อเพลงเรารู้เลยว่าจะสื่ออารมณ์ไหน แต่นี่เราต้องไปแปล ต้องนั่งทำความเข้าใจว่าคนฝรั่งเขามีแนวคิดเป็นแบบไหน ซึ่งมันยากมาก ต้องอาศัยถาม เพราะบางครั้งเราไม่ได้ตีความหมายและสำนวนของเขาแตกฉาน ไม่เหมือนสำนวนไทย" จิ๋วกล่าว ก่อนที่แนนจะเล่าต่อว่า ต้องร้องเพลงแนวประสานเสียง ซึ่งเสียงเดี่ยวๆ ของทั้งสามคนไม่มีความเหมือนกันเลย แต่เมื่อต้องมาร้องประสานเสียงกันกลับลงตัวและกลมกล่อม
"เราสามคมเวลาร้องเพลงเดี่ยวๆ แตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะเสียงของเราสามคนไม่เหมือนกันเลย แต่เวลาเราไปผสานเสียง เราสามารถทำให้มันกลมกลืนกัน เรียกว่าได้รสชาติที่กลมกล่อมมาก ผู้ใหญ่เลยมองว่าโปรเจกท์นี้ แนน-นิว-จิ๋ว น่าจะมารวมกันได้ ซึ่งคนอาจจะมองว่าแนนมารวมกับเขาสองคนได้ยังไง เพราะเขาสองคนร้องเพลงด้วยกันอยู่แล้ว ยิ่งโปรเจกท์นี้เป็นการร้องแบบประสานเสียงด้วย แนนจะโดดไปจากสองคนนั้นหรือเปล่า แต่คือเราจะมีการบอกกันก่อนหน้านี้ เราเคยเจอกัน และมีโชว์ร่วมกันมาก่อน เราเคยไปร้องเพลงด้วยกันมาก่อน อย่างเอาเพลงของ เป๊ก-อ๊อฟ-ไอซ์ มาร้อง ผู้ใหญ่ก็คงเห็นว่าเราน่าจะมาร้องด้วยกันได้" แนนแจง
นักร้องสาวจากเวทีเดอะสตาร์ยังพูดถึงการมาร้องเพลงสากลว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ได้โชว์พลังเสียงเหมือนตอนร้องเพลงไทย
"โปรเจกท์นี้เราต้องบอกไว้ก่อนเลยว่ามันเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่คนอาจจะคิดว่าเราจะต้องมาโชว์พลังเสียง ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นเพลงที่เราก็ไม่ได้รู้จัก เป็นเพลงใหม่ที่เราเองก็เพิ่งเคยฟัง มันอาจจะไม่อลังการอย่างที่ใครหลายคนคิดไว้ แต่การที่เราสามคนมาร่วมกัน คนที่เคยฟังเพลงนิว-จิ๋ว หรือฟังแนนอาจรู้สึกว่ามันไม่เหมือนที่คิดไว้
กระทั่งคนที่เคยฟังเพลงสากลที่ต้นแบบร้องไว้ กับที่พวกเราร้อง จะไม่เหมือนเลย เพราะเราแทบจะไม่ได้ฟังต้นแบบเลย บอกตรงๆ ว่ากลัว กลัวว่าจะเหมือนต้นแบบ เราไม่ได้อยากให้คนมองว่าเราก๊อบปี้มา อยากให้มองว่ามันเป็นเพลงที่เอามาร้องในสไตล์แบบพวกเรามากกว่า มันเหมือนเรามาเริ่มทำเพลงใหม่ทั้งหมด ดนตรีใหม่ ร้องก็ร้องแบบใหม่" นิวเผย ขณะที่ "จิ๋ว" เพื่อนซี้จากเวทีเดียวกันเสริมต่อว่า ตอนแรกกังวลว่าคนจะเข้าไม่ถึงการมาร้องเพลงสากลของพวกเรา
"ยอมรับตอนแรกเราก็มีอารมณ์ว่าเอ๊ะ มันจะเวิร์กไหม มันจะดีไหม คนจะเข้าใจหรือเปล่า เพราะว่าเพลงมันก็เก่าเหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เรารู้เลยว่ามันมีกลุ่มคนฟังเพลงแบบนี้อยู่ แต่อาจจะไม่ได้เด่นชัดด้วยยอด ด้วยการดาวน์โหลด แต่เราโอเคในฐานะของศิลปิน ที่เราได้เปลี่ยนแปลง และแสดงให้เห็นฝีมือเราหลากหลายมากขึ้น ส่วนเรื่องคำชม คำติมันต้องมีอยู่แล้ว แต่มันเป็นข้อดีของเราเอง ที่จะได้เห็นว่าเราได้พัฒนาไปเรื่อยๆ คือการที่เรามาร้องเพลงสากล มันไม่ได้แปลว่าเราร้องเพลงเก่งกว่าคนอื่น เพราะการทำงานแบบนี้มันค่อนข้างยากเหมือนกัน ทั้งเรื่องการร้อง สำเนียง เนื้อหาทุกอย่างยากหมด แต่จิ๋วว่าทุกคนมีมาตรฐานของตัวเองอยู่เหมือนกันหมด" จิ๋วกล่าว
ก่อนจะทิ้งท้ายว่าการที่ทุกคนมีความคาดหวังในตัวพวกเธอมากเท่าไหร่มันยิ่งเป็นการขับเคลื่อนให้พวกเธอต้องทำให้ดีอย่างที่ทุกคนคาดหวังไว้ ยิ่งเวลาร้องสด ต้องบอกเลยว่าเป็นกังวลและเหมือนเป็นภาระใหญ่หลวง เพราะทุกคนคิดว่ามันต้องดีเหมือนตอนที่ฟังในซีดี