บันเทิง

 'ติ๊ก ชิโร่' หวนคืนวงการ
 กระหึ่มคอนเสิร์ตฉลอง 10 ปี

'ติ๊ก ชิโร่' หวนคืนวงการ กระหึ่มคอนเสิร์ตฉลอง 10 ปี

04 ก.ย. 2553

เรียกว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของนักร้องหนุ่มฉายามนุษย์วาไรตี้ ติ๊ก ชีโร่ หรือ มนัสวิน นันทเสน ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือและการแดนซ์กระจายให้ชนรุ่นหลังไว้มากมาย มาในครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบ เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ในฐานะนักร้อง นัก

  “คอนเสิร์ตครั้งนี้นับเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 10 ปีของผม ที่อยู่เบื้องหน้ามานาน เพราะพักหลังๆ ผมก็ผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังงานเพลงให้แก่คนอื่นบ้าง ทำธุรกิจของตัวเอง ทำงานศิลปะอื่นๆ มาก็เยอะ จนดูเหมือนว่าเราจะทิ้งการร้องเพลง คอนเสิร์ตนี้เหมือนเป็นการหวนให้คิดถึงวันเก่าๆ ที่เราเคยอยู่บนเวทีคอนเสิร์ต อยากมาร้อง มาเต้น มาสร้างความสุขให้แฟนๆ อีกครั้ง คราวนี้เลยจัดมาแบบชัดเจนเต็มอิ่ม รับประกันความมันตั้งแต่เริ่มจนจบมากันแบบเต็มสตีม หลังจากที่อั้นมานาน 10 ปีแล้ว (หัวเราะ) จะมาปลดปล่อยกันในคอนเสิร์ตนี้ อยากให้มาชมกันรับรองคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์” นักร้องหนุ่มกล่าว พร้อมเผยว่า ที่หายจากการจับไมค์ขึ้นคอนเสิร์ต ไม่ได้คิดที่จะทิ้งการร้องเพลงหรือทำเพลง เพราะดนตรีคือชีวิตของเขา

 "จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้ห่างหายจากวงการเพลงไปไหน ยังทำงานอยู่ในวงการนี้ เพียงแต่ว่าจะผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังซะมากกว่า แต่ในช่วงระหว่างที่ทำงานเบื้องหลัง เลือดภายในกายก็ร่ำร้องว่าอยากจะกลับไปทำงานเพลงของตัวเองอีกครั้ง มีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองอีกครั้ง ประจวบเหมาะกับจังหวะเวลาว่าครบ 10 ปีพอดี เราเลยคิดว่านี่แหละโอกาสเหมาะที่สุด ที่เราจะได้กลับมาหาแฟนๆ มาสร้างความสุขสนุกสนานกับแฟนๆ อีกครั้งในแบบที่เป็นคอนเสิร์ตของตัวเอง แต่ถ้าจะให้ผมขึ้นไปโชว์คนเดียวบนเวที ผมว่าคงไม่สนุก ผมเลยชวนพี่ๆ น้องๆ ที่สนิทซี้ปึ้กทั้ง โน้ส (อุดม แต้พานิช) ซานิ (นิภาภรณ์ ฐิติธนาการ) วงน้องใหม่ นาว แอนด์ เทน และวงไทยเทเนียม ซึ่งล้วนแต่เป็นคนที่ผมซี้ย่ำปึ้ก แล้วก๊วนนี้แต่ละคนรับรองว่าต้องทำให้แฟนๆ สนุกสนาน ครื้นเครงได้ไม่มีหมด ผมเลยชวนพวกเขามาร่วมในคอนเสิร์ตนี้ด้วย เหมือนเป็นการตอบแทนการต้อนรับที่ดีของแฟนตลอดมา ก่อนหน้านี้ผมอาจผันตัวเองไปทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เกี่ยวกับดนตรี แต่สำหรับผมดนตรีคือชีวิต ผมอยู่กับดนตรีมา 20 ปี มันเป็นส่วนหนึ่งของตัวผมเองไปแล้ว" ราชาขาแดนซ์เผย

 ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นคอนเสิร์ตปิดตำนานของตัวเอง เจ้าตัวยืนยันว่าเมื่อไหร่ที่แฟนๆ ยังให้การตอบรับ เมื่อนั้นเขาก็ยังจะสร้างผลงานออกมาเรื่อยๆ

 "สิบปีที่อยู่ในวงการเพลงมา ผมเคยอยู่ในจุดที่สูงสุด เมื่อราวปี 2532 ผมดังเป็นพลุแตก ปีนั้นผมทำอะไรก็ดีไปหมด ช่วงนั้นมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย ตลอดเวลาผมไม่เคยหน้าบึ้งใส่ใคร จะยิ้มให้ตลอด เพราะผมปวารณาตัวเองแล้วว่า ติ๊ก ชิโร่ คือคนสาธารณะ ตอนนั้นอัลบั้มแรกของผมขายได้ 1 ล้านตลับ ซึ่งมันสุดยอด แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ผมอาจจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยังยึดอยู่คือ ติ๊ก ชิโร่ คือคนสาธารณะ เพราะฉะนั้นเมื่อแฟนๆ ยังให้การตอบรับผมอยู่ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ผมก็ยังจะทำงานออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน ไม่หนีหายไปไหนแน่นอน" ติ๊กแจง