"น้ำชา"ควง"แม่"ทำขนมผสมผสานรัก"แม่-ลูก" | คมชัดลึก

 เรานัดน้ำชาตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ เมื่อเราพร้อม ก็ถึงเวลาเคลื่อนขบวนไปหานักร้องสาวถึงคอนโดฯ ซึ่งคุณแม่และน้ำชาก็รอเราอยู่ก่อนแล้ว หลังจากทักทายกันเรียบร้อย น้ำชาและคุณแม่ก็มาชวนเราเข้าครัว แถมสาธยายถึงเมนูของหวาน ที่เราจะทำกันในวันนี้

 "การทำมาร์ชเมลโลว์นั้น ง่ายมากๆ แล้วเวลาทำก็น้อย แป๊บเดียว ก็เสร็จ (สำหรับคนทำคล่อง) และที่สำคัญกินแล้วไม่อ้วนด้วย เพราะมันใช้แต่ไข่ขาว" น้ำชาเอ่ยขณะล้างมือเตรียมตัวทำขนม

 ส่วนคุณแม่ก็นำถ้วย รวมทั้งส่วนผสมของมาร์ชเมลโลว์ ที่มีทั้ง ไข่ไก่ 3 ฟอง น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย โมดินา (น้ำส้มสายชูหมัก บาลสามิก ไวเนการ์ ออฟ โมดินา น้ำส้มสายชูหมักจากเหล้าองุ่น)  วางไว้บนโต๊ะเตรียมไว้ให้ลูกสาว (ส่วนวิปครีม และ สตรอเบอร์รี่สด ยังอยู่ในตู้เย็น)

 "เราต้องเริ่มจากการแยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน ห้ามให้ไข่แดงแตก เพราะมาร์ชเมลโลว์ใช้แต่ไข่ขาว" ว่าพลางน้ำชาก็ตอกไข่ โดยมีคุณแม่กางสูตรและบอกวิธีทำอยู่ข้างๆ น้ำชาจัดแจงแยกไข่ขาวใส่ในกาละมังใบเขื่อง แล้วใช้เครื่องตีไข่ ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู

 "เราต้องตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูก่อน ด้วยเครื่องตีไข่ ตอนแรกใช้แรงตีเบาๆ ก่อน พอไข่ขาวเริ่มขึ้นฟูก็ค่อยๆ เติมน้ำตาลลงไปตีผสมให้เข้ากัน" แค่เห็นจำนวนน้ำตาลที่เทผสมกับขนมทำให้ทีมงานถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกๆ จนน้ำชาต้องเอ่ยปลอบว่า

 "แม้ขนมชนิดนี้จะเป็นไข่ขาว แต่น้ำตาลที่ใส่ก็เยอะเหมือนกัน อย่างไรมันก็จะอ้วนน้อยกว่าเค้กหรือขนมทั่วไปนะ ถ้าพี่ๆ กลัวอ้วนก็สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเทียมได้ มันก็จะกลายเป็นขนมโลว์แฟตทันที" น้ำชาอธิบายไป พลางตีไข่ ขณะที่คุณแม่ก็คอยเก็บกวาดอุปกรณ์

 "ระหว่างที่ตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เข้ากัน ก็ต้องปรับระดับความเร็วของเครื่องตีไข่ให้เร็วขึ้น เพื่อที่ไข่ขาวจะได้เกาะตัว แล้วใส่โมดินา หรือ บาลสามิก ไวเนการ์ ออฟ โมดินา (น้ำส้มสายชูหมักจากเหล้าองุ่น) เล็กน้อย เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวให้ขนม รสชาติมันจะเข้ากันได้ดีเวลาทานคู่กับผลไม้ (รสเปรี้ยว) ไข่ขาวที่ตีได้ที่แล้วเวลาช้อนขึ้นมาจะต้องตั้งแบบนี้" ว่าแล้วก็โชว์ไข่ขาวที่ตีจนได้ที่ให้ดู ซึ่งไข่ขาวที่ได้จะมีลักษณะเป็นครีมขาวหยุ่นๆ เกาะตัวแน่น ไม่เหลว

 นักร้องสาวยังบอกอีก ว่าขั้นตอนต่อจากนี้ คือการนำไข่ขาวที่ขึ้นฟูได้ที่ เทใส่ในถาดที่รองด้วยกระดาษไข เกลี่ยไข่ขาวที่ขึ้นฟูให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมมีความหนาเท่าๆ กันด้วยที่ปาดเค้ก เคล็ดลับต้องปาดเร็วๆ เพราะไม่งั้นไข่ขาวจะละลายได้ แล้วต้องเกลี่ยไข่ขาวไม่ให้หนามาก ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะไม่อย่างนั้นเมื่ออบเสร็จจะโรลล์ไม่ได้ เมื่อเกลี่ยเนื้อครีมได้อย่างที่ต้องการแล้วก็นำเข้าเตาอบ เป็นเวลา 2 นาที พออบเสร็จ ก็ต้องเปิดฝาทิ้งเตาอบออก โดยขนมจะต้องค้างอยู่ในเตาอบก่อน 1 นาที เพื่อให้ความร้อนออกจากตัวขนมก่อน ไม่อย่างนั้นเวลาที่โรลล์ตัวขนมจะแตกได้ 

 "ระหว่างที่เรารอ มาร์ชเมลโลว์ ในเตาอบ ก็สามารถหั่นผลไม้เตรียมไว้ก่อนได้" ว่าแล้วคุณแม่ ก็เปิดตู้เย็นหยิบถ้วยใส่สตรอเบอร์รี่ลูกโตออกจากตู้เย็น มาวางบนโต๊ะ "หั่นแบบนี้นะลูก" คุณแม่สอนวิธีหั่นผลสตรอเบอร์รี่เป็นแว่นๆ ในขณะที่มองคุณแม่หั่นสตรอเบอร์รี่ น้ำชาก็คว้าสตรอเบอร์รี่ลูกโต (ที่ยังไม่ได้หั่น) มากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย "หนูชอบสตรอเบอร์รี่มากเลย มันอร่อยมาก" หลังจากปล่อยคุณแม่หั่นผลไม้ไปพักใหญ่ คุณแม่ก็เริ่มท้วงว่า "น้ำชา หนูทาน (สตอเบอร์รี่) ไปตั้งเยอะแล้ว มาหั่นบ้างไหม" ว่าแล้วน้ำชาก็ต้องมายืนหั่นสตรอเบอร์รี่โดยคุณแม่คอยบอกให้หั่นเท่าๆ กัน พอหั่นเสร็จมาร์ชเมลโลว์ก็อบเสร็จพอดี

 "มาร์ชเมลโลว์ที่ได้ เราสามารถทานตอนเสร็จใหม่ๆ ก็ได้ค่ะ แต่ปกติเขาจะรอให้เย็นก่อน ตอนนี้เราก็ใส่ไส้ผลไม้สดแบบง่ายๆ คือนำสตอรเบอร์รี่ที่หั่นไว้วางให้ทั่วแผ่นมาร์ชเมลโลว์ ต่อมาก็ใส่วิปครีมแล้ววางผลไม้สดทับวิปครีมอีกชั้นหนึ่ง" น้ำชายังอธิบายเสริม ว่าผลไม้ที่ใช้จะเป็นผลไม้ชนิดไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกล้วย กีวี่ ส้ม ฯลฯ ส่วนวิปครีมจะเปลี่ยนเป็นคัสตาร์ดหรือแยมก็ได้เช่นกัน

 "เผอิญว่าน้ำชาชอบสตรอเบอร์รี่ ก็เลยใช้สตรอเบอร์รี่เท่านั้นเอง แล้วที่ใส่วิปครีม เพราะจะได้มีความมัน ขนมจะอร่อยขึ้น "แต่คุณแม่แอบแซวว่า" ใส่วิปครีมน้ำชาจะได้อ้วนขึ้นไงลูก" ทำเอาน้ำชาค้อน

 ขั้นตอนสุดท้าย คือการม้วนขนมมาร์ชเมลโลว์ ซึ่งน้ำชาเริ่มม้วนขนมด้วยท่าทางทุลักทุเล (เพราะผลไม้เยอะ ทำเอาม้วนแทบไม่ได้) ก่อนจะวางมาร์ชเมลโลว์ที่ม้วนเสร็จไว้บนจาน ตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ จัดตกแต่งจานขนมด้วยผลไม้ (สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ ลูกพลับ)  เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

  "เรียบร้อยแล้วค่ะ มาร์ชเมลโลว์ ผลงานของน้ำชาและคุณแม่ ก่อนจะทานก็นำไปแช่ในตู้เย็นแล้วทานคู่กับไอศกรีมจะอร่อยมากๆ" ก่อนที่น้ำชาจะป้อนขนมให้คุณแม่ชิม ซึ่งคุณแม่ก็ชม ว่าอร่อยมากก่อนที่จะจุ๊บแก้มน้องให้กำลังใจ ทำเอาน้องน้ำชาถึงกับอายม้วน หวานรับวันแม่เลยทีเดียว
              เรื่อง : เสาวลักษณ์  ปึงทมวัฒนากูล
              ภาพ : วริศรา วุฒิกุล