บันเทิง

5 เหตุผลที่น่าดู “บุญชู”

5 เหตุผลที่น่าดู “บุญชู”

06 ส.ค. 2553

ถ้ามีใครสักคนมาถามผมว่า แง่มุมไหนที่น่าทำเกี่ยวกับหนัง “บุญชู” ภาคใหม่มากที่สุด

 ผมจะเสนอว่า โมเดลของบุญชูนั้น สะท้อนอะไรในสังคมไทยบ้างมาตลอดทุกยุค เช่น ความเป็นคาแรกเตอร์ใสซื่อ ไม่ใช่คาแรกเตอร์เตอร์ปิดแบบฮีโร่เมืองนอก (อาทิ สไปเดอร์แมน หรือสารพัดแมน) เพราะขณะที่บุญชู เป็นตัวละครที่ในช่วงเวลาหนึ่งคนดูชื่นชมและยอมรับ มันก็สะท้อนเนื้อหาที่คนอย่างบุญชูเป็นด้วย

 คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังบุญชูมีการฉายรอบสื่อมวลชนที่เมเจอร์ รัชโยธิน และวันที่นสพ.คมชัดลึกวางแผง หนังเรื่องใหม่ของผู้กำกับบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่ทำไม่เสร็จนั้น ได้ฉายมาแล้วสองวัน และนี่คือ 5 เหตุผลว่า ทำไม “บุญชู” ถึงเป็นหนังควรดู อย่างไม่ต้องคิดมาก

 1.อาลัยรัก บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
 เหตุผลข้อนี้เป็นเหตุผลที่ง่ายที่สุด ตื้นที่สุดในการบอกกับเราว่า ถ้าครั้งหนึ่งหรือในช่วงเวลาหนึ่ง เราเคยเป็นคนรุ่นที่เติบโตมากับ “บุญชู” เราก็น่าจะไปดู “บุญชู” เป็นการระลึกถึงคุณ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล คนทำหนังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของบ้านเรา หลายคนชื่นชอบคุณบัณฑิต ตรงที่ทำหนังไว้สองกลุ่ม ทำหนังอาร์ตเลี้ยงดูจิตใจตัวเอง และทำหนังตลกเพื่อเอาหนังมาสร้างโอกาสทำงานที่ไม่มีโอกาส และอย่าลืมว่า เขาคือคนทำหนัง “กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้” ซึ่งถูกโหวตจากนักวิจารณ์ว่า เป็นงานที่ดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งของทำเนียบหนังไทย ถ้ายังรัก บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ดูเถอะครับ เพราะเขาผูกพันกับหลายภาคของเรื่องนี้

 2.สายตาของบุญชูและสังคมไทย
 จะขาดจะเกินยังไง เวลาที่บุญชูอยู่ในหนังไทยก็มีอย่างน้อยๆ สองทศวรรษขึ้นไป การที่หนังเรื่องหนึ่งล่าเรื่องตัวเองนานขนาดนี้ แสดงว่าตัวละครก็เติบโตขึ้นด้วย เราจะพบว่าระยะหลังบุญชูมีมุมมองต่อสังคมและบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปแต่เขาก็ยังรักษาจิตใจที่ดีของตัวเองไว้ จากสิ่งเร้า จากโลกของอินเทอร์เน็ต ถ้าจะมีตัวละครอะไรสักตัวหนึ่งในหนังไทย ที่เฝ้าสะท้อนการเปลี่ยนผ่านของสังคมเราในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา (2531-2553) บุญชูนี่แหละที่แค่ดูบริบทในหนัง ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงมาก เพราะเดี๋ยวนี้จะยังมีอีกไหม คนแบบ บุญชู บ้านโข้ง หนุ่มสุพรรณแสนซื่อที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ตามความหวังของแม่ โดยมาพักอยู่กับพี่ชายชื่อบุญช่วย ซึ่งทำกิจการท่าเรือข้ามฟากอยู่ที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งภาพที่บุญชูมองจากสายตานั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วหลายอย่าง

 3.วัฒนธรรมเมืองใหญ่และวิถีชนบท
 แม้ในภาคหลังๆ เรื่องราวของบุญชูจะค่อยๆ กระเถิบเข้ามาในเมืองมากขึ้น แต่เกือบไม่มีตอนไหนเลยที่ตัวละครมาจากชนชั้นกลางในเมืองล้วนๆ แถมหลายคาแรกเตอร์มีต้นกำเนิดจากสังคมชนบท ผมว่านี่คือ ความแยบยล คมคายของคุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ซึ่งมักจะซ่อนฉากสำคัญ รายละเอียดสำคัญไว้ในหนังเสมอ หลายคนคงยังไม่ลืมฉากบุญชูข้ามเรือแล้วคุยกันไม่รู้เรื่องกับเพื่อนที่อยู่กับเรืออีกลำ หรือฉากหุ่นเงาในหนังกาลครั้งหนึ่งฯ ที่แอบวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทย ตัวบุญชูเองมักเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานการณ์แปลกๆ อยู่เสมอๆ และมักเป็นสถานการณ์ขัดแย้งเสียด้วย บางที ด้านหนึ่งของบุญชู ก็มาจากผู้กำกับบัณฑิต  ฤทธิ์ถกล นี่แหละ

 4.การรวมพลังใจของนักแสดง
 บ่ายวันหนึ่งผมดูข่าวนักแสดงที่เก่งที่สุด ที่ผมชอบที่สุดคนหนึ่งอย่างจินตหรา สุขพัฒน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจากไปของคุณบัณฑิต ผมรับรู้ได้เลยว่า เธอเศร้าจากข้างในมาก ผมคิดว่าความรู้สึกของคุณแหม่ม จินตหรานั้น
สามารถแทนค่าความรู้สึกของนักแสดงทุกคนได้หมด เพราะบางคนเกิดจากงานของคุณบัณฑิต และหลายคนมีที่ทางจากหนังของเขา ไม่สำคัญหรอกว่า ใครจะเป็นผู้กำกับคนใหม่ของบุญชู ความสำคัญกว่าคือ นักแสดงทุกคนจะเล่นหนังเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ เพราะเขาและเธอรู้อยู่ว่า มันไม่ใช่แค่หนัง แต่มันเป็นการส่งคุณบัณฑิต เป็นครั้งสุดท้ายไปสรวงสรรค์

 5.บุญชูตอนสุดท้าย ?
 แม้จะไม่มีการประกาศว่ามันเป็นแบบนี้ แต่ใครจะแน่ใจได้หรือว่า มันจะไม่ใช่สมมติว่า บุญชูตอนใหม่นี้ไม่ได้เงิน พูดง่ายๆ คือเจ๊ง ผมไม่แน่ใจว่าค่ายหนังไทยที่ทำหนังดีไม่เป็นรองค่ายไหนอย่าง ไฟว์สตาร์ จะยังรู้สึกทำหนังตอนต่อของบุญชูอีกไหม   

 ถ้าหนังไปไม่ถึงเป้าหมาย การดังทุรังทำบุญชูในสภาพบาดเจ็บไปเรื่อยๆ อาจมีผลบั่นทอนต่อเจ้าของหนังบนสรวงสวรรค์ แม้ว่าเขาจะไม่ว่าอะไรก็เถอะฉะนั้น ถ้ายังอยากเห็นบุญชูต่อไป แม้จะเป็นยุคทวิตเตอร์ เราน่าจะช่วยกันๆ ไปดูหนังเรื่องนี้ในวันหยุดผมเชื่อของผมว่า เราจะยิ้มบ้างกับภาพในหนังไทยเรื่องนี้ และสิ่งที่ผมจะยิ้มไปตลอดก็คือบุญชูคือหนังไทยเรื่องเดียวที่มีภาคต่อๆ กันไม่รู้จบ และเป็นหนังที่อย่างน้อยหลายคนพึงพอใจ มากกว่าหนังไทยภาคต่อทุกเรื่อง ตั้งแต่เคยมีมา
...................
 หมายเหตุ : จำได้ใช่ไหม ประโยคคำพูดที่กลายมาเป็นแฟชั่นของบุญชูคือ "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละว้า"

"นันทขว้าง สิรสุนทร"