เอกชัย ขนวงบุกกรุง ท้ากัด ไชยา-แอน-ยิ่งยง-ครูเทียม | คมชัดลึก

  เอกชัย ศรีวิชัยกล่าวถึงคอนเสิร์ต ”เอกชัยท้ากัด ตอนหรอยจังอลังการ” ที่ร่วมมือกับบริษัทเจเอสแอล จำกัดในครั้งนี้ว่า

 “มีสโลแกนว่า “หัวเราะ เพลงเพราะแล้วก็โชว์สวย” ของทุกคน เมื่อทุกคนออกมาจะได้รับเสียงหัวเราะ  ถ้าไม่ร้องเพลงก็ได้รับเสียงหัวเราะ  เพลงเพราะ โชว์สวย เนื่องจากต่างคนต่างมีศักยภาพในตัวเอง อย่างเอ ไชยา เขาก็เป็นพระเอกอีกด้านหนึ่ง แต่ก็มีเกี่ยวโยงเรื่องวัฒนธรรม ซึ่งของพี่เอกก็จะเป็นเรื่องของวัฒธรรมมาเป็นหลัก ไม่ว่าหนังตลุง โนรา ความเป็นพื้นบ้านคัดมาหมดแต่เป็นพื้นบ้านที่เราปรุงแต่งให้อลังการ ของเอก็เหมือนกันปรุงแต่งจนอลังการ  

 ส่วนของน้องแอนก็จะ บอกได้เลยว่าแอนเป็นนางเอกของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ใครยังไม่เคยเห็นโชว์ของแอนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ความสามารถของน้องเขาถึงด้วย เขาสามารถทำได้ในแนวที่เราอยากให้ทำ ซึ่งไม่บอกว่าเป็นอะไร    ส่วนยิ่งยงก็เป็นแนวตัวเองที่สุด ครูเทียมก็เป็นแม่บ้านของดนตรีวงนี้ที่ยกวงมาจากใต้มาเล่นที่กรุงเทพฯ แล้วมันก็มีชื่อตอนว่า ”เอกชัยท้ากัด” ตามธรรมชาติของพี่ที่พูดอะไรคงไม่ธรรมดา มีกัด เหน็บแต่เพื่อความสนุกสนาน เอาฮาเป็นหลัก แต่คุณจะได้ฟังเพลงๆ เพราะ ดูโชว์ๆ สวยประมาณนี้

ส่วนที่เลือกไชยา-แอน -ยิ่งยง-ครูเทียม มาร่วมคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ขุนพลเพลงใต้อมยิ้มก่อนเล่าความตั้งใจให้ทีมข่าว”คมชัดลึก” ฟังอย่างไม่ปิดบังว่า

 “อันดับแรกคือความผูกพันด้านจิตใจก่อน อย่างยิ่งยงก็ชีวิตเรากับเขามันเป็นชีวิตด้วยกันซึ่งมันเริ่มต้นเดินทางมาด้วยกัน คอนเสิร์ตครั้งนี้มันเป็นมาสเตอร์พีซชีวิตพี่เอก มันก็เลยทำให้คิดว่าถ้าเรามีคอนเสิร์ตใหญ่มันก็ควรจะมีเพื่อนที่เรารักอยู่ด้วย เรามีเพื่อนหลายคนแต่ยิ่งยงมันอยู่ในเหตุการณ์ปัจจุบันในยุคสมัย เรื่องการทำงานจะร้องเพลงอะไรเพื่อนก็คิดมาจัดการมาเขาแล้วแต่เรา อยากให้ทำอะไรเขาก็ทำ เหมือนเอแอนพี่เอกคิดมา พี่เลยต้องเลือกคนที่เราสามารถบรรจุแนวความคิดที่เราอยากได้ลงไปในตัวเขาได้  คือต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในภาคกลางในกลุ่มแม่ๆ ในโลกนี้ไม่มีใครสู้ไชยา มิตรชัยได้ ความรู้สึกพี่นะ ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับพี่เอก แต่ในภาคกลางพี่อาจจะน้อยกว่าของเออยู่แล้ว มันเหมือนกับฝากเติมเต็มซึ่งกันและกัน อย่างน้อยที่สุดแฟนพี่เอกก็ได้ดูไชยา แฟนไชยาก็ได้ดูพี่เอก”

 ส่วนรูปแบบการโชว์ที่ได้ข่าวว่า จะเป็นความอลังการที่สุดของแต่ละคนเท่าที่เคยทำมาเรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร เอกชัยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

 “มันต่างกันกับที่พี่เคยโชว์ในภาคใต้ เพราะว่าในเรื่องของภาษา ครั้งนี้มันก็จะเป็นภาษากลางมากขึ้น มีใต้บ้างที่เป็นอัตลักษณ์ประจำของพี่เอกก็สื่อสารให้คนภาคกลางเข้าใจมากขึ้น พี่ไม่ได้คิดว่าจะมาเปิดตลาดภาคกลาง แต่คิดว่าโดยวัยประสบการณ์ที่เรามีในการทำคอนเสิร์ตมา14 ปี มันถึงเวลาที่จะมาแบ่งปันให้กับคนกรุงเทพ หรือคนใต้ในกรุงเทพฯ ได้แชร์ความสุขร่วมกันได้บ้าง คอนเสิร์ตครั้งแรกในกรุงเทพฯ ของพี่เอกต้องอลังการพี่ยอมไม่ได้ ขน (นก) ที่จีนมีกี่เส้นจะไปซื้อมาให้หมดจะอลังการกว่าทุกครั้ง ไชยามีเพชรกี่เม็ดก็ต้องขนมาให้หมดเช่นกันวันนั้น พี่อยากให้ทุกคนจับตาที่แอนกับความสามารถของเด็กคนนี้ว่า จะมีอะไรเซอร์ไพรส์แน่นอน อยากให้เห็นความสามารถแบบสากลของน้อง เขามีความสามารถมานานแล้ว แต่มันยังไม่มีการเปิดเผยบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ แบบนี้”

 ส่วนก่อนหน้านั้นได้ทำบันทึกการแสดงสดกับค่ายท็อปไลน์และมีข่าวว่าจะทำคอนเสิร์ตกับบริษัทอาร์สยามฯ เป็นอย่างไร

 “เราทำได้หมดเพราะเราไม่มีสังกัด ทำได้กับทุกคน  ส่วนกับทางเจเอสแอลก็อาจจะมีรายการอะไรทำด้วยกันกำลังคิดงานชึ้นงานกันอยู่ ด้วยความเมตตาจากผู้ใหญ่ในเจเอสแอลเราอาจจะต่อยอดทำเพลง เมื่อก่อนเจเอสแอลไม่ได้ทำงานด้านนี้ เขาก็อาจบุกเบิกทำคอนเสิร์ตทั่วๆ ไปทำวีซีดี มีนักร้องเข้ามาพี่ก็จะเข้าไปดูเรื่องพวกนี้   รายละเอียดคอนเสิร์ตพี่คิดเองทุกอย่าง ทำงานกับเจเอสแอลเขาก็ไม่ได้มาเป็นเผด็จการว่าเขาให้พี่ทำอย่างนั้นอย่างนี้เขาตั้งโจทย์ที่ตัวพี่เป็นหลักมากกว่าพี่ถนัดอะไร อยากทำอยากได้ก็ทำตามนั้นเขาก็มาตกแต่งให้มันดูดีขึ้น”