
'สมอลล์รูม' ผุด ' 8 สยาม' ยึดความแตกต่างไม่เหมือนใคร
เปิดตัวโปรเจกท์ 8 อัลบั้มในปีนี้ออกมาแล้ว สำหรับค่ายเล็กๆ แต่ใจใหญ่ "สมอลล์รูม" โดยขนานนามโปรเจกท์นี้ว่า " แปดสยาม แปดศิลปิน แปดอัลบั้ม" อาทิวง "แทททูคัลเลอร์" "เป้" อารักษ์ อมรศุภศิริ "มารีญา" ลินน์ เอียเรี่ยน วง "เสลอ" "จิดา" จิดาภา นิยมศรีสกุล วง "ซูเ
"วิธีคิดมาจากที่เห็นเพลงเราเป็นแฟชั่น เป็นแบรนด์คอนเลกชั่น แต่ละคนก็แตกต่างกันทั้งรูปแบบ หน้าตา เนื้อหา แนวดนตรี หนึ่งวงอาจเป็นเสื้อยืด อีกวงอาจได้เป็นกางเกง เราคิดในแบบนั้น" ผู้บริหารหนุ่มเผย ก่อนจะเล่าถึงชื่อโปรเจกท์ "แปดสยาม" ว่ามาจากคำว่า "แฝดสยาม"
"มาจากที่บริษัทเรา มีความเป็นบ้าน เรามีความเป็นพี่น้อง เราจะมีความครอบครัวกันมาก่อน วิธีคิดชื่องานของเรา เราจะคิดจากเราเป็นครอบครัว เมื่อช่วงเคอร์ฟิวเราอินมาก แล้วตอนแรก เราไม่รู้ว่าเราจะแถลงเปิดตัว 8 อัลบั้มนี้เมื่อไหร่ เพราะว่ามันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ความรู้สึก ที่เราจะมาทำอะไรแบบนี้ ความรู้สึกเราบอก ว่าเพลงเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ณ ตอนแรก เราก็มองว่าทางไหนที่เราจะช่วยได้ แน่นอนผมคิด ว่าในสังคมยังต้องการเพลงเพื่อเยียวยา เรายังต้องการความบันเทิงอยู่ ด้วยปัญหาดังกล่าว ทำให้ผมตระหนักอย่างนี้ เลยมีคำว่าสยามเกิดขึ้น แล้วคำว่าแปดมาจากที่เราต้องการให้พ้องเสียงกับคำว่าแฝดสยาม แค่นั้นเอง แล้วพอดีว่าปีนี้สมอลล์รูมจะมีอัลบั้ม 8 อัลบั้ม" รุ่งโรจน์กล่าว
ผู้บริหารค่ายสมอลล์รูม กล่าวถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีความคิดที่จะยุบค่าย โดยเฉพาะอัลบั้มของนักร้องสาวเบอร์ใหม่ "มารีญา" ที่เกือบจะไม่ได้ออก เพราะเหตุบ้านการเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
"ตอนที่เกิดปัญหา ผมมีความคิด ว่าประเทศชาติยังต้องการค่ายเพลง หรือเราควรเปลี่ยนอาชีพ เพราะ ณ เหตุการณ์วันนั้น ผมรู้สึกว่าเราจะมาร้องเพลงกันทำไม ร้องเพลงกันได้เหรอ ตอนนั้นผมทำอัลบั้มมารีญาเสร็จแล้ว เป็นแนวป๊อปแดนซ์ และวันที่เกิดเหตุการณ์ ผมคิดเลยว่าไม่อยากออก ออกทำไม มันไม่สัมพันธ์กับอารมณ์ความรู้สึกเลย ถ้ามารีญาออกไปเดือนพฤษภาคมเละเลย และจะรู้สึกว่าทำผิดต่อประเทศชาติด้วย แต่ ณ วันนี้เรารอได้มันดีกว่า" บอสส์ใหญ่ค่ายห้องเล็กเล่า พร้องคุยฟุ้งว่าปีนี้เป็นปีที่ค่ายมีอัลบั้มเยอะที่สุด เพราะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากปีที่แล้ว
"โดยปกติ เราจะออกประมาณอย่างน้อย 6 อัลบั้ม แต่ปีนี้เรามีศิลปินเบอร์ใหม่ทั้ง มารีญา เดอะจั๊คส์ และ เป้ เพราะในทุกๆ ปีเราจะมีศิลปินเบอร์ใหม่แทรกมาด้วย แต่วงที่ครบวัฏจักรอย่างแทททูคัลเลอร์หรือสเลอ ต้องเวียนมาออกอยู่ดี อย่างเมื่อปีที่แล้วมีนักเศรษฐกิจหลายๆ คนบอกว่าเป็นผีเผาจริง ซึ่งทำให้หลายๆ คนหมอบหมด ผมเลยคิดกลับกันว่าถ้ามีคนบ้าหนึ่งออกมา คนนั้นน่าจะดี ปี 2009 เลยเป็นแพลนนี้ แต่ปีนี้ทุกค่ายอั้นของไว้เยอะมาก ค่ายอื่นๆพร้อมที่จะออกงานใหม่เยอะมาก เราเลยรอ เราไม่ได้รีบร้อน เราดูแรงขับเคลื่อนในตลาด อารมณ์ความรู้สึกด้วย อย่างที่บอกว่าเพราะเราเชื่อว่ามีหลายค่ายหลายวงดนตรีออกงานเยอะมาก แต่ไม่ได้แปลว่าเราหลบ เราแค่อยากจะดูว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะด้วยวิธีคิดของค่ายเรา เราอยากทำอะไรที่มันแตกต่าง ถ้าเกิดใครคิดอะไรเยอะๆ เราจะไม่ทำแบบนั้น เราจะคิดแตกต่าง" รุ่งอธิบาย
ก่อนจะปิดท้ายว่าปีนี้ไม่ได้มีความคาดหวัง ว่าจะต้องได้กำไรมากมาย พร้อมเผยว่าค่ายสมอลล์รูมเปลี่ยนจากค่ายเพลงเป็นมิวสิกเอเจนซี่แล้ว
"จริงๆ ปีนี้เราไม่ต้องคาดหวัง เพราะรายได้ที่เราได้มามันน่าพอใจแล้ว ปีนี้เราอยู่ได้แล้ว (มองแค่ว่าอยู่ได้เหรอ) นี่คือเดือนกรกฎาคม เราเคยจินตนาการว่าถ้าเราออกอัลบั้มเดือนพฤศจิกายน ค่ายอยู่ได้ไหม วงอยู่ได้ไหม มันอยู่ได้ ถึงไม่ได้ออกงานเลยก็อยู่ได้ ซึ่งเราถือว่าดี แน่นอนว่าเราทำงานสาธารณะ เราจำเป็นที่ต้องให้คนเห็นอยู่ตลอด เลยเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรจะต้องออกงาน
ซึ่งช่วงระหว่างที่เราหยุดที่ผ่านมาหลายเดือน เราได้ระดมทีม ระดมสมองในการคิดงานค่อนข้างสร้างสรรค์ไว้เยอะพอสมควร เพราะที่สมอลล์รูมทุกวันนี้ มันแปลสภาพเป็นมิวสิกเอเจนซี่มากขึ้น เราเริ่มเป็นมิวสิกโมเดลลิ่งมากขึ้น คือศิลปินเราเริ่มขายได้มากขึ้น อาจจะเพราะว่าเด็กที่ชอบงานสมอลล์รูม แล้วเข้ามาสมัครเป็นศิลปินที่นี่หลายๆ คน บังเอิญเราอาจจะโชคที่ว่าเด็กหลายๆ คนที่นี่หน้าตาดี และพร้อมที่จะเป็นไอดอลได้ มีงานดนตรีที่สร้างสรรค์ได้ มันเป็นโมเดลที่เราไม่ได้คิดไว้ แต่มันดี" ผู้บริหารหนุ่มกล่าว