บันเทิง

เปิดหัวใจสีชมพูกับ'ชมพู่'อารยา

เปิดหัวใจสีชมพูกับ'ชมพู่'อารยา

17 ก.ค. 2553

หากพูดถึงนางเอก ที่ฮอตขึ้นหม้อในเวลานี้ของช่อง 3 คงจะหนีไม่พ้นชื่อของ "ชมพู่" อารยา เอ ฮาร์เก็ต ที่แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกหม้อเกิดมาแต่อ้อนแต่ออกกับช่อง แต่งานละครที่ถูกป้อนให้รับในเวลานี้ ก็มีแบบไม่ได้เว้นหายใจหายคอกันเลยทีเดียว คิวทองขนาดนี้ มีหรือที่ คม ช

 ผลงาน
 รหัสทรชน
 เป็นการกลับมาร่วมงานกับค่ายยูม่าอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ชมเคยมาประเดิมละครช่อง 3 ครั้งแรกก็กับค่ายยูม่า คือ เพลิงพราย พี่เคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ก็หายจากยูม่าไปนาน ก็ลงตัว เนื้อเรื่องก็จะเป็นแอ็กชั่น แต่ก็จะเป็นโรแมนติกดราม่า บู๊ ครบรส จริงๆ ชมเคยรับบทเป็นตำรวจมาบ้าง แต่ก็จะมีกลิ่นอายความเป็นคอมเมดี้ แล้วก็มีพระเอกพาหนี วิ่งหนีๆ กันไป แต่คราวนี้ชมต้องรับบทเป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกมา ก็ค่อนข้างหนักใจพอสมควร แต่ละครมันไม่ต้องถึงขนาดเหมือนออกไปรบอะไรขนาดนั้น เวลาถ่ายเขาก็จะถ่ายทีละน้อยๆ ก็คงเหนื่อย แต่ไม่น่าจะมากนัก แต่เรื่องความฟิตก็คงต้องฟิตประมาณหนึ่ง ที่หนักใจที่สุด คือเราต้องเก่งสูสีกับผู้ชาย ทั้งที่ความจริงผู้ชายเขามาทีเดียว เราก็กระเด็นแล้ว

 มีพลาดคิวบ้างหรือยัง
 ยังไม่พลาดเลยนะ อาจจะมีนิดหน่อย โดนปืน ห้อเลือด แต่ยังไม่ผิดคิวมากอะไรขนาดนั้น เพราะเขาค่อนข้างเซฟให้เรา เราเองก็ต้องจำคิวให้แม่น แต่ชมก็เชื่อว่าทางยูม่าเขาดูดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ถ่ายทำเก็บไปพอสมควร ถ่ายค่อนข้างเร็ว

 การทำงานกับทีมงาน
 เป็นทีมเดิมที่เคยร่วมงานมาแล้ว ทีมงานยูม่าก็น่ารัก ดูแลดี เป็นทีมของอาเมาส์ (ชูชัย องอาจชัย) เป็นผู้กำกับ ซึ่งอาเมาส์เอง ก็เป็นผู้กำกับที่เก่ง สามารถบอกนักแสดงได้ ว่าเขาต้องการอะไรในแต่ละฉาก จริงๆ การทำงานมันควรจะเหนื่อยกว่านี้ แต่มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น

 ละคร "ดอกส้มสีทอง"
 เรื่องนี้แรง ไปถ่ายทำที่นิวซีแลนด์ด้วย แต่ถ่ายเสร็จแล้ว เหลือฉากที่ต้องถ่ายทำในเมืองไทย บรรยากาศที่ไปถ่ายทำที่นิวซีแลนด์ก็ดี เป็นประเทศที่สะอาด ถ้าคนคาดหวังจะไปหาแสงสี คงไม่มี เพราะเป็นประเทศสงบเล็กๆ มีแกะเยอะกว่าคน(หัวเราะ) เหตุการณ์ประทับใจ ที่ไปถ่ายทำที่นี่ ก็คงเป็นการร่วมงานกับทีมงานใหม่ๆ ชมไม่เคยทำงานกับค่ายบรอดคาซท์ฯ แต่ก็ดีการได้ไปทำงานต่างประเทศ มันก็ทำให้เราได้สนิทกันเร็ว เพราะเวลาไปอยู่เมืองนอกทุกคนก็ต้องช่วยเหลือกัน

 บทบาทในเรื่อง
 เรื่องนี้เป็นภาคต่อของละครเรื่อง "มงกุฎดอกส้ม" ชมจะเป็นลูกของคนใช้ในบ้านเจ้าสัว แล้วมีเหตุให้ออกจากบ้านของเจ้าสัวไป โตขึ้นก็ทะเยอทะยาน อยากให้ผู้ชายพาเราไปสู่จุดที่ดีกว่า แต่ก็เหลวตลอด เรียกว่าใช้ผู้ชายเปลือง

 รับบทแรงขึ้นกว่าแต่ก่อน
 ตอนนี้ชมก็โตขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้ว จะให้แบ๊วไปตลอดก็คงไม่ได้ แม้จะอยากแบ๊วก็ตาม (หัวเราะ) เลยอยากจะทำอะไรที่ท้าทาย เราไม่ใช่อายุ 17-18 แล้ว จะมาทำอะไรแบบนี้ คงไม่ใช่เวลา คนต้องคาดหวัง ว่าเราจะทำอะไรที่มันโตขึ้น จะย่ำอยู่กับที่ก็คงไม่ได้ มันก็ถึงเวลาที่ต้องพัฒนาตัวเอง

ปลาเปลี่ยนน้ำ
 กลายเป็นลูกรักช่อง 3
 ชมว่าปกตินะ บอกได้เลยว่าชมไม่สนิทกับผู้บริหารท่านใดของช่องเป็นพิเศษเลย คำว่าลูกรัก มันคงต้องไปกินข้าวกัน เจอกัน แต่ชมไม่มีคอนเนกชั่น ชมยังรู้สึกว่าตัวเองยังใหม่กับช่อง 3 เรามาก็อยากจะทำงาน แต่ที่ตะหนักดีคือชมได้รับโอกาส แต่เห็นคนอื่นเขาก็มีงาน

 เกาเหลากับ แอน ทองประสม แย่งความเป็นเบอร์หนึ่งของช่อง
 ไม่มีอะไรเลย ชมชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ก็โดนเล่นไปหลายทีแล้ว ชมคิดว่าอยู่นิ่งๆ ดีกว่า พี่แอนเองก็คงรู้ว่าอะไรคืออะไร มันคือทางข่าว เป็นเกม ชมไม่อยากจะฉุนเฉียว ไม่งั้นก็ต้องตกเป็นทาสกับสิ่งที่เขาพยายามสร้าง

 ย้ายมาช่อง 3 พักใหญ่ แต่ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์
 บางคนก็บอกว่าย้ายแล้วดี แต่บางคนก็บอกว่าอยู่ที่เดิมก็ดีแล้ว แต่เรารู้ว่าเราต้องการอะไร ไม่ว่าองค์กรไหนก็มีความสุข เพียงแต่เวลาไหน เราควรอยู่ที่ไหนมากกว่า

 ยังต้องมีปรับตัวอะไรอีกบ้าง
 คนบันเทิงก็ต้องปรับตัวตลอด ต่อให้ชมยังอยู่ที่เดิม ก็ต้องปรับ ชีวิตมันคือการปรับตัว

 ยังติดต่อกับเพื่อนช่อง 7 อยู่ไหม
 ยังติดต่อกันตลอด ไม่เปลี่ยน เพียงแต่อาจจะไม่ได้ไปงานช่องด้วยกัน ไม่มีกิจกรรมอย่างที่คนค่ายเดียวกันต้องร่วมกันทำ แต่เวลาไปงาน ก็ยังแอบไปคุยกัน แค่เราไม่ได้นั่งร่วมโต๊ะกันแค่นั้น

 แฟนคลับเปลี่ยนแปลงไปไหม
 อันนี้ชมไม่ทราบเหมือนกัน ว่าเปลี่ยนแปลงไหม แต่ถ้าเป็นแฟนคลับของเราจริงๆ ก็ไม่เปลี่ยนนะ เขาก็ตามเอ็นดูเราเหมือนเดิม แล้วก็ดีใจที่เห็นเราได้ร่วมงานกับคนใหม่ๆ

 อย่าง "ป๋อ" ณัฐวุฒิ สกิดใจ ย้ายช่องโดนว่าเนรคุณ
 ชมเองก็คงต้องโดนบ้าง แต่เขาไม่เข้าใจชีวิตเราอยู่แล้ว ต้องอย่าไปใส่ใจมาก ต้องตั้งรับ ย้ายช่องอาจจะเป็นประเด็นใหญ่ แต่บางทีคำพูดบางอย่างมันบั่นทอนมาก อย่าไปใส่ใจ ไม่มีใครตัดสินใจดีเท่าตัวเรา เสียงวิจารณ์เราห้ามมันไม่ได้อยู่แล้ว ชีวิตมันต้องดำเนินไป อีกอย่างชมเป็นพวกรุ่นบุกเบิกที่ย้าย มันก็จะโดนกระแสหนัก แต่ต่อไปเชื่อว่ามันก็จะเป็นเรื่องธรรมดา

 ยังเจอผู้ใหญ่ของช่อง 7 อยู่ไหม
 ยังเจอ อย่างคุณแดง(สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ก็เจอตามงาน แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าอะไร แต่ทางดาราวิดีโอ เวลาเจอพี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) ยังคุยอยู่ เพราะก็ผูกพันกันมาตั้ง 10 ปี เราเกิดจากตรงนั้น มันก็เหมือนตัดไม่ขาด เหมือนคนในครอบครัว แต่เราแค่แยกย้ายออกมา ตอนอยู่กับช่อง 7 ก็ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์เยอะ 10 ปีก็นานพอที่จะทำให้เราเติบโตระดับหนึ่ง
ตัวแม่แฟชั่น

 เป็นเจ้าแม่แฟชั่น
 จริงๆ ชมแค่ชอบแต่งตัว มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องดูแลตัวเอง ทำจนเป็นธรรมเนียมไปแล้ว เราแต่งตัวดี มันก็ได้ภาพดีกับตัวเราด้วย อีกอย่างช่างภาพก็ต้องอยากได้ภาพดาราสวยๆ เวลาไปงานก็จะมีคนถามว่าใส่ชุดอะไร สวยหรือเปล่า แต่ชมก็ไม่ได้ต้องแบรนด์เนมตลอด บางอย่างก็ไม่ได้ซื้อเอง บางทีถ้ามีโอกาสก็ซื้อเก็บไว้ช่วงต้นๆ ซีซั่น แต่บางเดือนก็ไม่ได้ซื้อเลย

 ต้องบินไปซื้อที่ต่างประเทศไหม
 น้อยมากที่ชมจะซื้อเสื้อผ้าที่ต่างประเทศ เพราะดีไซเนอร์เมืองไทยเจ๋งๆ มีเยอะ ถ้าคนไหนชมชอบ ก็จะสนับสนุนเต็มที่ ถ้าจะซื้อของแบรนด์เนม ก็ต้องเป็นยี่ห้อที่เป็นซูเปอร์แบรนด์ ที่ไม่มีในบ้านเรา ซึ่งก็จะซื้อราคาที่ลดแล้ว แต่ซื้อเต็มราคา ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรองเท้า กระเป๋า

 ถูกแซวเป็นเศรษฐินี
 สาธุ (ยกมือท่วมหัว) ยังไม่รวยเลย รวยแล้วแต่อยากรวยอีก (หัวเราะ)

หัวใจชมพู
 ความสัมพันธ์กับน็อต (วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์)
 สนิทกันมากกว่าก่อน การเรียนรู้ความสัมพันธ์ แต่จะให้เรียกอะไร ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกัน (ยิ้ม)

 ประทับใจน็อตตรงไหน
 เขาก็เป็นคนดี สัญญาณแรก คือถ้าชมคุยกับใคร ต้องรู้สึกว่าเขาสนใจ เห็นเรามีคุณค่ามากกว่าที่คนอื่นมองเราอย่างฉาบฉวย การที่เราเจอคนมากมายเข้ามา มันก็ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งในการศึกษา เป็นดารามันค่อนข้างดูยาก ไม่รู้ว่าใครจริงใจกับเราแค่ไหน ยอมรับว่าครั้งนี้ชมใช้เหตุผลมากขึ้นในการทำความรู้จัก ว่าเหมาะสมไหม ดูแลเราได้หรือเปล่า ตอนนี้ก็ติ๊กคุณสมบัติเขาถูกทุกข้อ ก็ได้อยู่ (หัวเราะ)

 ทำธุรกิจตุ๊กตาบลายธ์ น็อตให้คำปรึกษาอย่างไร
 บางทีก็อาจจะไม่ใช้ลักษณะปรึกษาโดยตรง แต่ก็จะมีบ้างที่เล่าเรื่องที่ร้านให้เขาฟัง เขาก็จะให้ข้อคิด แต่สิ่งที่เราได้คือเห็นส่วนที่เขาทำ ทำให้เรารู้สึกโตขึ้นมาก ได้แง่คิด ด้วยส่วนตัวนิสัยชมไม่ใช่นักธุรกิจเลย เป็นคนใจใหญ่ คิดน้อยไปหน่อย จะทำให้เราโดนเอาเปรียบ น็อตเขาก็จะคอยให้ข้อคิด

 น็อตไม่ค่อยชอบออกสื่อ เราคนกลางกดดันไหม
 จริงๆ ตัวเราเวลาออกงานก็อยากจะให้สื่อรัก มีฟีดแบ็กกลับมาที่ดีๆ ขณะเดียวกัน ก็อยากให้ทุกคนรู้สึกดีกับคนของเราด้วย แต่เขาก็มีข้อจำกัด ซึ่งเราก็เข้าใจ และก็อยากให้สื่อเข้าใจเขาด้วย ถ้าให้เขาเข้ามา เป็นที่รู้จักมากกว่านี้ ก็คงไม่ใช่ น็อตเขาไม่ได้บอกชมหรอก ว่าเขาไม่ชอบ แต่ชมรู้จักเขา เขาไม่ได้ถูกฝึกมาให้ถูกจับจ้อง

 ถูกเม้าท์ว่าคบเศรษฐี
 แรกๆ ก็คิดไปต่างๆ นานา กดดันเหมือนกัน แต่พอได้ไปเจอกับที่บ้านเขา ก็รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เรากังวล ผู้ใหญ่น่ารัก โดยเฉพาะคุณแม่ มันทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายมาก

 ปรึกษากับ "อั้ม" พัชราภา ไชยเชื้อ ฐานะว่าที่สะใภ้ "รังษีสิงห์พิพัฒน์" เหมือนกันบ้างไหม
 ชมกับอั้มเจอกันก็คุยกันเรื่องผู้หญิงๆ มากกว่า ไม่ค่อยคุยเรื่องผู้ชาย เพราะมันเป็นมุมส่วนตัว อีกอย่างเราก็ไม่ได้เจอกันบ่อย เรื่องแบบนั้นมันก็อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลัก มันเป็นเรื่องของเราสองคน ไม่ใช่สี่คน

 แหม...เรื่องของคนสองคนก็ได้ ไม่ค่อยอยากรู้เท่าไหร่ แค่หูผึ่ง อิอิ...

เธอคนนี้ชื่อ
"ชมพู่" อารยา เอ ฮาร์เก็ต
วันเกิด 28 มิถุนายน 2524
การศึกษา ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต
ผลงานที่ผานมา "แสงดาวแห่งหัวใจ , ดาวเปื้อนดิน , เพลิงพราย , ไฟโชนแสง , วิวาห์ว้าวุ่น ฯลฯ
กำลังถ่ายทำ ดอกส้มสีทอง , รหัสทรชน