EVS เจ้าพ่อบันทึกการแสดงสด ผู้ให้กำเนิดหมอลำลงแผ่น | คมชัดลึก

  ทีมข่าว ”คม ชัด ลึก” ได้พูดคุยกับ ดร.เสกสรร สุนันท์กิ่งเพชร หรือ เฮียเอี๋ยม ประธานกรรมการบริษัท ถึงจุดกำเนิดการทำบันทึกการแสดงสดวงหมอลำทั้งหลาย และล่าสุดก็วงดนตรีภูธรวาเลนไทน์

เริ่มการทำธุรกิจมาอย่างไร
*** EVS เริ่มจากเป็นศูนย์เช่าวิดีโอเริ่มเปิดกิจการมาในปี 2523 สมัยนั้นเครื่องวิดีโอเพิ่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ก็เริ่มทำหนังออกมาให้คนเช่าจนปี 2530 เริ่มทำม้วนวิดีโอไปขายในคลองถม ในมาบุญครอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูน ขณะนั้นเรื่องลิขสิทธิ์ในบ้านเรายังไม่มีใครมาดูแล ทุกคนทำกันแบบไม่มีลิขสิทธิ์ จนเราเริ่มมามีเซ็นเซอร์ในปี 2531 ทางบริษัทก็เริ่มซื้อลิขสิทธิ์หนังเข้ามาเป็นหนังจีน หนังฝรั่ง ทำเป็นกิจจะลักษณะมาจนถึงปัจจุบัน

มาทำวงหมอลำลงแผ่นวีซีดีได้อย่างไร
 ***ปี 2539-2540 เริ่มเปลี่ยนจากม้วนวิดีโอมาเป็นวีซีดี ช่วงหนังหมอลำยังไม่เคยออกเป็นม้วนวิดีโอมีแต่เป็นเทป ช่วงที่คาราโอเกะเข้ามามีบทบาทในเมืองไทย คาราโอเกะชุดแรกที่เราออกร่วมกับคุณสมศักดิ์ อัมรินทร์ คือ นิตยา บุญสูงเนิน เป็นบริษัทแรกที่ทำคาราโอเกะเพลงไทย เมื่อก่อนมีแต่เพลงจีน สากล เขาฮิตล่วงหน้าก่อนบ้านเรา 3-4 ปี เราพัฒนาคาราโอเกะเพลงไทยจากลูกกรุง ลูกทุ่ง มาเพื่อชีวิต พอมาปี 2538-2539 ตลาดมันเริ่มมีคู่แข่งเยอะขึ้น ราคาเริ่มถอย เพราะมีหลายบริษัททำตามแบบกันเยอะ ต้นทุนสูงขึ้นเพราะแย่งกันซื้อเพลง แย่งนางแบบมาถ่ายทำ EVS ขณะนั้นเราก็หาช่องทางใหม่ปี 2539 โดยคุณทุย ลูกไท ได้มาคุยถึงการเอาหมอลำซิ่งมาทำ

ตอนนั้นวงการหมอลำเป็นอย่างไร
 *** ตอนนั้นในต่างจังหวัด เวลาเล่นหมอลำซิ่งก็จะมีแค่ถังแดง 4 ใบเอาไม้พาดมีเครื่องเสียงเล็กๆ ชุดหนึ่ง มีหมอลำอยู่ 2-4 คนมีพิณ แคนไม่กี่ชิ้นเป็นวงเล็กๆ ค่าจ้างคืนหนึ่งก็ 3,000-4,000 บาท เราไปดูแล้วคิดว่าถ้าเอามาแบบนั้นมันขายยากแน่  ในครั้งแรกที่ทำเลยจัดประกวดหมอลำซิ่ง โดยเราเอาดนตรีสตริงเข้าไปเสริม ไม่มีแสงสี หางเครื่องยังเป็นเสื้อผ้าเดิมๆ ปรากฏว่าทำออกมาแล้วตลาดตื่นตัวพอสมควร เพราะสมัยนั้นหมอลำซิ่งไม่เคยได้ออกสื่อใดๆ มีแต่เทปคาสเซ็ท บางคณะต้องคณะดังจริงๆ อย่างเช่น บานเย็น รากแก่น อังคนางค์ คุณไชย หมอลำซิ่งไม่มีใครรู้จัก พอเราทำเป็นวิดีโอออกมามันขายได้

การทำแสดงสดออกมาทำให้มีผลกับวงหมอลำมากมายอย่างไร
 ***ไม่ใช่แค่ขาย แต่ปรากฏว่าผู้ที่มาแสดงในวิดีโอนั้นๆ ได้รับการว่าจ้างไปแสดง  คนอีสานมีอยู่ทั่วประเทศ แต่เขาไม่รู้ว่าในอีสานมีอะไรบ้าง หลังจากที่เราทำเป็นม้วนวิดีโอออกไป ภาคเหนือก็ได้เห็น ภาคใตก็ได้เห็น เขาก็ว่าจ้างกันไปแสดง ทำให้ตัวศิลปินมีรายรับจากงานที่ดีพอสมควร เราออกมาตอนแรกแค่ 5 ชุดใช้ชื่อชุดว่า ”มันสุดขีด” ส่วนใหญ่เป็นคณะของ แม่ราตรี ศรีวิไล สมัยนั้นมีนักร้องหมอลำสาวคนหนึ่งชื่อ “สุมาลี ศรีวิไล“ ซึ่งมีหน้าตาดี เสียงดี หุ่นดี มีเซ้นส์ในการแสดงลูกเล่นดี ทำให้คนนิยม

มาเปลี่ยนโฉมหมอลำที่เห็นในปัจจุบันอย่างไร
 ***จากครั้งแรกที่เราถ่ายทำไป เว้นมาแค่ 3-4 เดือน ก็เกิดความคิดว่าต้องพลิกใหม่ด้วยการเปลี่ยนลุคของหมอลำไม่ใช่เป็นยุคแบบโบราณ ไม่ใช่แค่ใส่ผ้าซิ่น ให้มาแต่งตัวแบบทันสมัยแบบใหม่ เจริญปุระ คริสติน่าไปเลย โดยเอาสุมาลี มาลองก่อน หางเครื่องก็สั่งตัดเสื้อผ้าทันสมัยแบบที่สตริงเขาใช้กัน บนเวทีใช้ไวเลสเกี่ยวกับหูไม่ต้องมาถือ มีไฟสีต่างๆเหมือนดิสโก้ในยุคสมัยนั้นวัยรุ่นชอบมาก ถ่ายทำเสร็จออกมาผลตอบรับดีมากเกินคาดหมาย เป็นการเปิดตลาดบันทึกการแสดงสดหมอลำแบบเต็มตัวจริงๆ เลย

เวลาบันทึกส่วนใหญ่ใช้สถานที่ใด
 ***ใช้หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น คนมาดูเป็นหมื่นๆ ส่วนใหญ่ที่เราไปทำการถ่ายบันทึกแสดงสดก็มีเก็บเงินนิดๆหน่อยๆ มอบให้ทางราชการนำไปใช้จ่าย แต่ส่วนใหญ่จะดูฟรีมากกว่า นี่คือการเปลี่ยนมุมหมอลำซิ่ง  ซึ่งในอดีตหมอลำซิ่ง หมอลำเรื่องต่อกลอนมีแต่คนแก่ดู  เราพยายามหาดนตรีที่เป็นจังหวะมันส์ๆ มาเล่นทำให้วัยรุ่นเข้ามาสนใจและชอบ สังเกตในภาพเวลาเราไปบันทึกจะมีร้านค้ามาตั้งเต็มเลยเหมือนเป็นงานกาชาดมันเลยทำให้กระหึ่ม

มีช่วงหนึ่งที่ทาง EVS บินไปซื้ออุปกรณ์แสงสีเสียงถึงต่างประเทศเลย  
 ***ครับ เพราะเรายืนเฉยๆ ไม่ได้ผลงานที่สร้างต้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะเริ่มมีค่ายเพลงเอาหมอลำซิ่งมาบันทึกบ้างแล้ว เราพยายามฉีกหนีด้วยการใช้เครื่องดนตรี แสงสีเสียงและเทคโนโลยี เราเลยพาคณะหมอลำ 6-7 คณะไปงานแสดงแสงสีเสียงที่ฮ่องกง พาไปดูติดต่อสั่งซื้ออุปกรณ์ จนมาวันนี้วงหมอลำก็ใช้แสงสีเสียงเทียบเท่ากับวงสตริง หรือตามเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ใช้กันไม่ใช่กระจอกๆ แล้ว

มีบางช่วงที่หมอลำซิ่งดูแผ่วเพราะอะไร
 *** หมอลำซิ่งฮิตมากพอมาปี 2532-2545 แผ่วลงเพราะไม่มีตัวใหม่ที่โดดเด่นเกิด  คนเดิมก็เริ่มแก่ลูกเล่นน้อยลง ช่วงนั้นหมอลำหมู่หรือพวกลำเรื่องต่อกลอนกลับมาฮิตแทน เช่น เสียงอิสาน อยู่กับท็อปไลน์ นอกนั้นกว่า 20 คณะเช่นระเบียบวาทะศิลป์  รัตนศิลป์อินตาไทยราฎษร์  ปฐมบันเทิงศิลป์  หนูภาร์วิเศษศิลป์  และรุ่งทิวาอำนวยศิลป์ อยู่กับผมที่มาอยู่กับเราคณะหนึ่งมีคนประมาณ 300 ชีวิต

ตอนนั้นมีการโปรโมทมากไหม
*** สมัยนั้นเราโปรโมทแต่ไม่ใช่ทำเหมือนเพลงสตริง ที่เปิดช่องไหนเจอเรา โปรโมทมีทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุและหัวแผ่นซีดีอันหลังนี่ได้ผลที่สุด เพราะจะมีภาพของทุกคณะเลย มีโปสเตอร์ พอการแข่งขันเกิดวงไหนที่เล่นดีจริงๆ ก็ดังไปเลย วงไหนเล่นไม่ดีก็ดับไปเลย เพราะคนที่เขาจ้างเขาดูจากวิดีโอแล้วเขาถึงมาจ้าง ดูแล้วไม่ดีคนก็ไม่มาจ้าง เราก็พยายามเชียร์ทุกคณะ หางานบริษัทไม่เคยเอาค่านายหน้าในม้วนวิดีโอก็ให้ติดต่อตรงกับคณะเลย เดี๋ยวนี้โชว์กันเป็นแสนบาท

เหตุที่หยุดทำคาราโอเกะหันมาทำบันทึกการแสดงสด
 ***คาราโอเกะลงทุนเป็นล้านบาทชุดหนึ่ง จ้างดารามาถ่าย ถึงจุดหนึ่งมันไปยาก เพราะเพลงใหม่ค่ายไม่ค่อยขาย มันก็ทำวนกันไปมาอนาคตมันดับ มันเหมาะกับค่ายเพลงที่มีเพลงใหม่ออกมา เราไปซื้อเพลงที่เขาขายมาทำไม่ไหว ผมเคยทำเพลงปี 2539-2540 พอได้แต่สู้แสดงสดไม่ได้  มาดูตัวหมอลำลงทุนนิดเดียว ผมจำได้ถ่ายครั้งแรกจ่ายค่าตัวให้ราตรี ศรีวิไล 6,000 บาท เพราะไม่รู้มันขายได้เหรือเปล่า จ่ายค่าคิวกล้องไปหมื่นกว่าลงทุน 35,000 บาท ถ่ายเสร็จยังคิดเลยว่ามันจะขายได้ไหม ขายได้เป็นหมื่นม้วนเลย ครั้งที่ 2 เรียกราตรีมาถ่ายที่สตูดิโอกรุงเทพ ให้ค่าตัวแสนห้าหมื่นบาท หมอลำซิ่งผมขายได้ก็แบ่งกันไปไม่ต้องมาเรียกค่าตัวผม ครั้งที่ 3 ให้ค่าตัว 3 แสนบาท เขาก็เอาเงินตรงนั้นไปปรับปรุงวง ลงทุนเสื้อผ้าตัดตามที่เราต้องการให้ทันสมัย คณะอื่นก็นั่งเฉยไม่ได้ มาเบิกเงินก่อนไปซื้ออุปกรณ์ 

ตอนนี้ทำหมอลำเรื่องต่อกลอนเยอะมาก
 ***มายุคที่มันแผ่วปี 2544-2545 มันตันเรื่องเพลง นักแสดงหน้าใหม่น้อย เติมไม่ทัน ก็มาเน้นเรื่องหมอลำเรื่อง ที่มีตัวเลขดีจนถึงทุกวันนี้ แต่หมอลำซิ่ง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มดีขึ้น กุ้ง สุภาพร, วัชราภรณ์ พวกนี้คือเลือดใหม่ในคาบวัยรุ่นเกาหลีแต่เป็นหมอลำ เพลงที่คัดเป็นจังหวะแดนซ์ แดนเซอร์ก็เต้นแบบโคโยตี้ เลยทำให้ฮิตอีกรอบ

แสดงสดที่ฮือฮาอีกอันคือแนวลูกทุ่ง
 ***วาเลนไทน์เป็นแนวลูกทุ่งสตริงจุดเด่นคือร้องเพลงเพราะ ดนตรีมัน เขามีละครตลกรีวิวประกอบเพลงเป็นเนื้อเรื่องคณะอื่นไม่มี เพลงอีเรียม  ร้องกันทุกวง แต่ทำไมวงวาเลนไทน์ร้องแล้วคนชอบ เพราะเขามีการแต่งตัวเล่นหน้าเวทีที่สนุก เมื่อก่อนเขาทำใต้ดิน พอเราเอามาทำให้ถูกต้องหาซื้อเพลงให้เราหมดค่าลิขสิทธิ์ไปมากต่อครั้ง ต้องมีการวางแผนภาพออกมาสวยงามพอโปรโมทยิ่งดัง

คิดว่าตลาดแสดงสดจะอิ่มตัวหรือยัง
 ***ตลาดบันทึกการแสดงสดไม่มีอิ่มตัว เพราะมันเป็นรุ่นๆ อายุ 15-16 เบื่อคนอื่นเริ่มโตก็ดูต่อ เพียงแต่เราต้องมีการเติมใส่สิ่งดีๆ เข้าไป เราไม่ใช่มีแค่นี้เรามีทอล์กโชว์ต่างๆ ตลกดังๆ มาอีกเยอะ เช่น มนต์รักสองฝั่งคลอง เราเน้นสินค้าราคาถูกมากกว่า คุณภาพดีกำไรน้อยลง พวกผีมันทำแล้วไม่คุ้ม เพราะเขามีต้นทุนค่าคุ้มครองสูง