
"มัดหมี่ พิมดาว" แฉ อาจารย์ ต. อ้างศรัทธา ชวนทำบุญ 4 ปี หมดไปกว่า 8 ล้าน
24 ธ.ค. 2568
"มัดหมี่ พิมดาว" แฉ อาจารย์ ต. ครูทางจิตวิญญาณ อ้างศรัทธา "ลดละกรรม" ถูกชวนทำบุญ 4 ปี หมดไปกว่า 8 ล้าน อึ้ง! ตำรวจเผยความจริง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน
ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หลังนักแสดงสาว "มัดหมี่ พิมดาว" โพสต์ร่ายยาวผ่านไอจีสตอรี่ @mutmeepimdao ระบุถึง อาจารย์ ต. ครูทางจิตวิญญาณ หลังเธออยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง ชวนเธอทำบุญ 4 ปี หมดไปกว่า 8 ล้าน
- 1.ในปี 2560 ข้าพเจ้าอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง จากผลกระทบทางจิตใจของการทำงานด้านการแสดง มีอาการนอนไม่หลับต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ และอยู่ในสภาวะที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดในชีวิต
- 2.ข้าพเจ้าได้พบ อาจารย์ ต. จากการแนะนำของรุ่นพี่ โดยได้รับการบอกว่าเป็นครูทางจิตวิญญาณที่สามารถช่วยเหลือได้ ในเวลานั้น ข้าพเจ้าไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ นอกจากการพ้นจากความทุกข์ทางใจ
- 3.คำสอนในช่วงแรกเกี่ยวข้องกับกรรม อดีตชาติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการแก้ไขกรรม โดยอธิบายควบคู่กับหลักพุทธศาสนา ภาพลักษณ์ของอาจารย์และภรรยาในเวลานั้นดูสมถะ เรียบง่าย และมีเหตุผล ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความศรัทธาและความไว้วางใจ
- 4.กลุ่มปฏิบัติธรรมในช่วงแรกเป็นกลุ่มเล็ก มีผู้เข้าร่วมไม่ถึง 15 คน รวมถึงเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบ ความหวัง และความเชื่อว่าทุกคนมาด้วยเจตนาที่ดี
- 5.เมื่อเวลาผ่านไป การทำบุญและการ "ลดละกรรม" เริ่มถูกอธิบายว่าเป็นหนทางสำคัญในการพ้นทุกข์ ทั้งด้านสุขภาพ ชีวิต และความสัมพันธ์ โดยมีการกล่าวถึงเจ้ากรรมนายเวร และผลกระทบหากไม่ดำเนินการแก้ไข
- 6.จากเดิมที่แนะนำให้ทำบุญผ่านมูลนิธิทั่วไป ภายหลังเริ่มมีการชักชวนให้โอนเงินเข้าสำนักโดยตรง โดยอธิบายว่าเพื่อรองรับการปฏิบัติธรรมที่ขยายตัว ทั้งเรื่องสถานที่ อาหาร และการจัดการต่างๆ
- 7.ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ข้าพเจ้าได้ทำบุญและ "ลดละกรรม" รวมเป็นเงินมากกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการทำงานสุจริต และข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าจะกลายเป็นความเสียหายเช่นในวันนี้
- 8.ในช่วงปีที่สองของการปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าได้รู้จักกับ ไฮโซ ต. และภรรยา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับอาจารย์ ต. มาก่อน และเริ่มมีบทบาทในกลุ่มปฏิบัติธรรมมากขึ้น
- 9.ภายหลังจาก ไฮโซ ต. เข้ามามีบทบาท ข้าพเจ้าเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายประการ ทั้งในบรรยากาศ คำสอน และรูปแบบการดำเนินชีวิต จากที่เคยเน้นความสมถะ เรียบง่าย เริ่มปรากฏการใช้ชีวิตที่หรูหรามากขึ้น เช่น การใช้สินค้าแบรนด์เนม การซื้อรถใหม่ และที่อยู่อาศัยใหม่
- 10.ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนผู้ปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากกลุ่มเล็กเป็นหลายร้อยคน และเริ่มมีการวางแผนพัฒนาสถานปฏิบัติธรรมในลักษณะที่มีองค์ประกอบเชิงพาณิชย์ แตกต่างจากเจตนารมณ์เดิมที่ข้าพเจ้าเข้าใจ
- 11.แม้ครอบครัวและคนใกล้ชิดจะมีข้อทักท้วงว่าบางสิ่งเริ่มผิดแปลกไปจากหลักพุทธศาสนา ข้าพเจ้ายังคงยึดมั่นในความศรัทธาและปกป้องสำนักด้วยความเชื่อใจ จนส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัวหลายครั้ง
- 12.ภายหลัง ข้าพเจ้าได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงบางประการ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยรับทราบมาก่อน และขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับภาพของครูทางจิตวิญญาณที่ข้าพเจ้าเคยศรัทธา
- 13. เหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลให้ข้าพเจ้า สูญเสียทั้งทรัพย์สิน ความเชื่อใจ และความรู้สึกปลอดภัยทางจิตวิญญาณ จนต้องกลับมาตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อการใช้ศรัทธาโดยขาดการตรวจสอบ
- 14.ข้าพเจ้าออกมาแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้ มิได้มีเจตนากล่าวหา ฟันธงความผิด หรือชี้นำผลทางคดีของบุคคลใด แต่เพื่อสะท้อนประสบการณ์ตรง และเป็นอุทาหรณ์ให้สังคมใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
หากเรื่องราวของข้าพเจ้า จะช่วยให้ใครสักคนหยุดคิด ตั้งคำถาม หรือปกป้องตนเองได้ทันเวลา เมื่อศรัทธาและเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง การออกมาพูดในครั้งนี้ก็มีความหมายแล้ว พิมดาว พานิชสมัย ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๘



