
ประเด็นใหม่! ผู้เสียหาย แจ้งความ "เวย์ ไทเทเนียม" ฉ้อโกง สูญเงิน 50 ล้าน
ประเด็นใหม่! ผู้เสียหาย หอบสลิปโอนเงิน แจ้งความ "เวย์ ไทเทเนียม" ฐานฉ้อโกง สูญเงินกว่า 50 ล้านบาท
5 ธ.ค. 2568 พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.4 บก.ปอศ. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี "นานา ไรบีนา" ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่สามารถตรวจยึดได้มาจากบ้านพักของนาน โดยเฉพาะพยานหลักฐานจำพวกเอกสารต่างๆ เช่นเดียวกันในส่วนของเครื่อง ledger-nano-x (hardware wallet) หรือ เครื่องเก็บเงินดิจิทัล ที่ขณะนี้ได้รับการตอบกลับจากนานา ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในการเปิดพิสูจน์ทราบข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการกระทำผิดเชื่อมโยงไปถึงตัว นายปริญญา อินทชัย หรือ "เวย์ ไทเทเนียม" ผู้เป็นสามี บ้างหรือไม่ พ.ต.อ.จำนาญ ชี้แจงว่า ในส่วนของนายปริญญา ยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำผิดกับนางไรบีนา ภรรยา ด้วยหรือไม่ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ ขอเวลาดำเนินการพิสูจน์ทราบให้แน่ชัดก่อน แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดชัดเจนก็จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูง ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทราบว่า ในส่วนของเวย์ ไทเทเนียม นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกเป็น 2 เคส โดยเคสแรกจะเป็นการพิสูจน์ทราบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดร่วมกับภรรยา หรือไม่
ส่วนเคสที่สอง เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้เสียหายรายหนึ่ง เข้าแจ้งความดำเนินคดี นายปริญญา ในความผิดฐาน "ฉ้อโกง" หลังถูก นายปริญญา ชักชวนให้นำเงินไปร่วมลงทุนเทรดหุ้น จนสูญเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท
จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ นายปริญญา ได้ติดต่อชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเทรดหุ้นกับนักธุรกิจชื่อดังรายหนึ่ง ในลักษณะลงทุนผ่านตนเองที่เป็นคนกลาง โดยอ้างว่า นักธุรกิจคนดังกล่าวมีความเขี่ยวชาญในการเทรดหุ้น สามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงระยะเวลาไม่นาน ด้วยความหลงเชื่อและไว้ใจ จึงตัดสินใจนำเงินร่วมลงทุนผ่านนายปริญญา จำนวนกว่า 50 ล้านบาท
ต่อมาเริ่มสังเกตพบความผิดปกติ รวมถึงเริ่มระแคะระคายเกี่ยวกับพฤติกรรมของภรรยานายปริญญา จึงเกิดความไม่สบายใจ ติดต่อสอบถามส่วนตัวไปที่นักธุรกิจชื่อดังคนดังกล่าว จึงทราบว่า แท้จริงแล้วไม่มีการลงทุนเทรดหุ้นอยู่จริง ซึ่งตัวของนักธุรกิจคนดังกล่าวเองก็ไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการลงทุนเทรดหุ้นดังกล่าว
ผู้เสียหายมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการกุเรื่องขึ้นมา เพื่อหลอกลวงเงินอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจนำเอกสารหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินตรงเข้าบัญชีนายปริญญา และแชตข้อความสนทนาต่างๆ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับนายปริญญา ดังกล่าว



