บันเทิง

เปิดพฤติการณ์ "นานา" (สรุป) ผู้เสียหาย 17 คนโดนอะไรบ้าง เผย 7 รายการที่ตำรวจยึด

เปิดพฤติการณ์ "นานา" (สรุป) ผู้เสียหาย 17 คนโดนอะไรบ้าง เผย 7 รายการที่ตำรวจยึด

03 ธ.ค. 2568

ติดตามกันอย่างดุเดือดตั้งแต่ช่วงเช้า หลังตำรวจบุกคุมตัว "นานา ไรบีนา" คาบ้านพัก ย่านพระโขนง คดีฉ้อโกง และ ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 

 

โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุม "นานา ไรบีนา" ตามหมายจับศาลอาญาที่ 7195/2568 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ฐานความผิด ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

 

 

เปิดพฤติการณ์ เนื่องด้วยมีผู้เสียหาย จำนวน 17 ราย ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ 

 

กรณีเมื่อประมาณปีเดือนตุลาคม 2565 ได้ถูกดาราสาวชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ได้แก่

  1.  ธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล เสนอผลตอบแทนสูงร้อยละ 4-7 ต่อเดือน
  2. ลงทุนเทรดหุ้นกับผู้มีชื่อเสียงในวงการเทรดหุ้น
  3. ลงทุนขายหุ้นในธุรกิจกีฬาบาสเก็ตบอล, ร้านอาหารต่างประเทศ และบริษัทต่างๆ ของตน
  4. ลงทุนในกองทุนเครือธุรกิจครอบครัวรายใหญ่

 

 

ซึ่งผู้ต้องหาได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนสนิท , บุคคลใกล้ชิด และกลุ่มผู้ปกครองในโรงเรียนนานาชาติ โดยอาศัยความเชื่อใจและความน่าเชื่อถือของตน ประกอบกับมีการแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา 

 

ในระยะแรกผู้เสียหายบางรายได้รับผลตอบแทนตามที่เสนอจริง ประกอบกับผู้ต้องหาได้นำหลักฐานการโอนเงินปลอมและเอกสารการโอนหุ้นปลอมมาแสดงต่อผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อมั่นและหลงเชื่อลงทุนกับผู้ต้องหาเรื่อยมา

 

 

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัญชีเงินถูกหน่วยงานของรัฐระงับการทำธุรกรรม จึงไม่สามารถดำเนินการจ่ายคืนเงินลงทุนและปันผลการลงทุนได้ เมื่อถูกทวงถาม ก็ได้ออกเช็คเงินสดเพื่อจะชำระเงินลงทุนและเงินปันผลคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเมื่อนำเช็คเงินสดไปเรียกเก็บกับธนาคาร กลับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี

 

 

และภายหลังได้ทราบว่าบุคคลมีชื่อเสียงที่ถูกผู้ต้องหากล่าวอ้างนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ผู้ต้องหาชักชวนแต่อย่างใด ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายรวม 195 ล้านบาท

 

 

จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นอกจากพฤติการณ์ในการชักชวนระดมทุนแล้ว ผู้ต้องหายังมีการปลอมหลักฐานสลิปการโอนเงิน ปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นบริษัทร้านตัดผมชื่อดัง ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของอยู่ และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตามที่กล่าวอ้าง โดยผู้ต้องหามีการทำธุรกรรมเบิกถอนเงินสดที่ธนาคารเป็นจำนวนมาก

 

 

นอกจากนี้ยังมีการนำเงินลงทุนที่ได้รับมาไปหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายอื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไว้

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาในหมู่บ้านหรู ซอยเอกมัย เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร และสามารถจับกุม บุคคลตามหมายจับได้ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดพยานเอกสารและพยานวัตถุ ที่น่าสนใจดังนี้

 

รายการตรวจยึดที่น่าสนใจ

 

  1. โทรศัพท์ iphone 7 เครื่อง
  2. art toy bearbrick และอื่นๆ 11 กล่อง
  3. ledger-nano-x (hardware wallet) 1 ชิ้น
  4. กระเป๋า hermes berkin 1 ใบ
  5. กระเป๋า หิ้ว louis vuitton 1 ใบ
  6. จิวเวอรี่ แบรนด์ต่างๆ ประมาณ 50 ชิ้น
  7. รถยนต์ mini coper รุ่น aceman สีขาว 1 คัน

 

โดยทรัพย์สินที่ตำรวจยึดจากดาราสาวมีมูลค่ารวม 10 ล้านบาท

 

 

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบการถือครองอสังหาริมทรัพย์ โฉนดที่ดิน จ.อ่างทอง จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 64 ตร.วา จ.อ่างทอง และโฉนดที่ดิน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 แปลง พื้นที่ 87.9 ตร.วา ซึ่งจะได้ดำเนินการตรวจสอบการได้มา และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมสิ่งของตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป (เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา)

 

เปิดพฤติการณ์ "นานา" (สรุป) ผู้เสียหาย 17 คนโดนอะไรบ้าง เผย 7 รายการที่ตำรวจยึด

เปิดพฤติการณ์ "นานา" (สรุป) ผู้เสียหาย 17 คนโดนอะไรบ้าง เผย 7 รายการที่ตำรวจยึด