
"บิณฑ์" ฟุบหลับคาบันได ลุยใต้ 10 วันไม่พัก ทีมกู้ภัยสุดทนเผยภารกิจน้ำท่วมสุดหดหู่
สะเทือนใจ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ฟุบหลับคาบันได! ลุยใต้ 10 วันไม่พัก ทีมกู้ภัยสุดทน เผยภารกิจน้ำท่วมสุดหดหู่ ลั่น "โคตรจุก" ช่วยไม่ทันหลายเคส
ในสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งใหญ่ ชื่อของ "ต้น ปราการ" หนึ่งในทีมกู้ภัยอาสาสมัครที่ทำงานร่วมกับ "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" กลายเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในการอุทิศตนช่วยเหลือประชาชน ล่าสุด ต้น ปราการ ได้ออกมาเผยภาพและเรื่องราวภารกิจของทีมที่อยู่เคียงข้างประชาชน ตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมจนถึงปัจจุบัน พร้อมถ่ายทอดความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหดหู่และอาลัยต่อความสูญเสีย อีกภาพล้านความรู้สึกกับภาพที่ บิณฑ์ นั่งสัปหงกฟุบหลับอยู่ตรงขั้นบันได หลังจากตรากตรำลงพื้นที่ลุยน้ำช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 วันไม่มีวันพักเลย
โดยทาง ต้น ปราการ ได้โพสต์ข้อความระบายความรู้สึกที่ "โคตรหดหู่เลย" กับภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นในจังหวัดสงขลาพร้อมเผยภาพภารกิจของทีมที่อยู่เคียงข้างประชาชนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุน้ำท่วมจนปัจจุบันว่า
"มูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงเคียงข้างผู้ประสบภัยหาดใหญ่ บันทึกไว้ในความทรงจํา วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิร่วมกตัญญูประชุมทีมแบ่งสายงานออกช่วยผู้ประสบภัย ทีมแรก นำโดย พี่เอก คุณปิยะลักษณ์ ถิ่นแก้ว นคร 38 หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการมูลนิธิร่วมกตัญญู พาทีมไปในเขตเมืองหาดใหญ่ เอาชุดเครื่องปั่นไฟไปตั้งจุดให้พี่น้องออกมาชาร์จโทรศัพท์ สำหรับจุดที่ไฟฟ้ายังไม่ติด ส่วนคุณบิณฑ์และพี่อนงค์ เจ้าของโรงแรม ออล่า หาดใหญ่ ออกไปหาชุมชนที่ท่วมน้ำท่วมหนักและความช่วยเหลือยังแทบไม่ถึง โดยพากันไปสำรวจในซอยสามัคคี แถมคลองว่ะ ในเขตตำบลคลองหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา"
จากการลงพื้นที่ก็พบสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่เดือดร้อนหนักมาก ทุกครอบครัวเรือน กำลังขนสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านออกมากองเป็นขยะหน้าบ้านตลอดสองข้างทาง หลายคนนั่งมองสภาพบ้านตัวเองที่แทบจะไม่เหลืออะไรในบ้านแม้แต่เสื้อผ้า คุณบิณฑ์ จึงขอประสานศาลเจ้ากลางชุมชน เพื่อเป็นจุดแจกสิ่งของให้ชาวบ้าน พร้อมหาตัวผู้นำ ซึ่งก็ได้ท่าน สท. เขตนั้นได้เป็นผู้นำผู้ประสานตัวแทนชาวบ้านแต่ละหลัง และต้องชื่นชมตัวสท ที่โคตรเก่งและจำแม่น จำได้ทุกบ้าน ทุกหลังในพื้นที่ จึงออกแจ้งชาวบ้านให้ส่งตัวแทนมาพบพวกเราจากนั้นตอนเย็น ตัวแทนครัวเรือนแต่ละหลังพากันมารวมตัวกันที่ศาลเจ้า เพื่อรับบัตรคิว และสิ่งของพร้อมทั้งเงินข่วยเหลือจากคุณบิณฑ์
สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านดีใจมากที่สุด นอกจากจะได้สิ่งของแบบจุกๆ เยอะจนต้องใส่ถุงดำ แบกกลับบ้านแล้ว ยังได้เงินครอบครัวละ 1,000 บาท อีกด้วย นอกจากนั้น เด็กๆ ยังได้รองเท้าใหม่ ได้ขนม ได้เงินอีก คนละ 200 บาท รวมแล้ว 500 ครอบครัวแต่ก็ยังพบว่ามีอีกหลายครอบครัวที่ยังเดือนร้อนและมายืนรอขอสิ่งของ ซึ่งทุกครอบครัวล้วนแต่สิ้นเนื้อปะดาตัว แต่สุดท้าย ทีมของมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ไม่ปล่อยผ่าน ดั้มหมดหน้าตักหมดคันรถที่มีของมา เพื่อให้ได้กันทั่วหน้าทั่วถึง คนรอมีความหวัง คนรับมีรอยยิ้ม คนให้มีความสุข เสียงปรบมือและคำว่าขอบคุณมันจึงดังกึกก้องขุมชน



