
"อั๋น ภูวนาท" ฟาดรัฐบาลจบที่ยืนผัดข้าว ด้าน "นก จริยา" สลดรู้สึกหมดหวัง
สุดทน! อั๋น ภูวนาท ฟาดรัฐบาล "หลับตาจิ้มตรงไหนก็หนองแตก!" ชี้ปัญหาวิกฤตซ้ำซาก "จบที่ยืนผัดข้าว!" ด้าน "นก จริยา" สลด "รู้สึกหมดหวัง!"
จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ล่าสุดพิธีกรและนักแสดงชื่อดัง "อั๋น ภูวนาท" ได้ใช้โซเชียลมีเดียส่วนตัว (@unpuwanart) แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รูปแบบการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างดุเดือด ต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในการรับมือวิกฤต
อั๋น ภูวนาท ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่เคยมีการแก้ไขอย่างเด็ดขาด แต่จบลงด้วยคำตอบเดิม ๆ และการทำงานแบบเดิม “ก็ว่าจะไม่พูด… หลับตาจิ้มตรงไหนก็หนองแตกตรงนั้น ทั้งรัฐบาล ข้าราชการ องค์กร(ไม่)อิสระ เลือกตั้งครั้งหน้าประเทศไทยต้องเปลี่ยน ไม่งั้นตายเคสดำกันหมดประเทศไม่เกินจริง คุณเลือกได้ เราเลือกได้ เราต้องเลือก”
อั๋น ภูวนาท ยังร่ายยาวถึงปัญหาใหญ่ในประเทศที่ถูกกล่าวถึง แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขเบ็ดเสร็จ และจบลงด้วยการตอบคำถามแบบเดิม ๆ หรือหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม “ยังไม่ทราบเรื่อง ไม่มีปัญหา ไม่รู้ ไม่รู้ ยังไม่ได้รับรายงาน สั่งให้ตรวจสอบไปแล้ว ตั้งคณะกรรมการพิจารณา” หรือแย่สุด ๆ คือเดินหนีไมค์นักข่าวไปเฉย ๆ มีทําอะไรจบบ้างไหมครับประเทศไทย?!?! ... น้ำท่วมมหาศาลจบที่ยืนผัดข้าวกับเดินหนีนักข่าวเหมือนเดิม…” พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนมีสติในการเลือกตั้งครั้งหน้า: “เลือกตั้งครั้งหน้านี้ขอให้เรามีสติกัน อย่าเลือกเอามัน อย่างเดิมอย่างเดียว อย่าลืมเร็ว…”
ใต้โพสต์ของ อั๋น ภูวนาท นักแสดงรุ่นใหญ่ "นก จริยา แอนโฟเน่" ได้เข้ามาคอมเมนต์สนับสนุนความเห็นอย่างเห็นด้วย โดยระบุสั้น ๆ แต่สะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนมากว่า “อักเสบทุก อณู สำนึกคืออะไร รู้สึกหมดหวัง” ขณะที่การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดการของรัฐบาลยังคงร้อนระอุ ล่าสุดวันนี้ (28 พฤศจิกายน 2568) สถานการณ์จริงกลับเลวร้ายยิ่งกว่า เมื่อ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้รับรายงานจาก ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ว่าพบ ร่างผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้วมากกว่า 100 ราย และอยู่ระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ซึ่งตอกย้ำถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากวิกฤตครั้งนี้
เสียงสะท้อนจากคนมีชื่อเสียงและการยืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากหน่วยงานรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการ "ปฏิรูป" ระบบการจัดการภัยพิบัติและการทำงานของภาครัฐ ก่อนที่จะเกิดวิกฤตซ้ำรอยอีก!



