เส้นทางพันล้าน! "เอก ณกรณ์" วุฒิศักดิ์คลินิก ช็อก!พ่อโดนฆาตกรรม - ถูกโกง 150 ล้าน | คมชัดลึก

 

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร "เอก ณกรณ์ กรณ์หิรัญ" เศรษฐีพันล้าน หนึ่งผู้ก่อตั้งวุฒิศักดิ์คลินิก เปิดเผยวัยเด็กสุดช็อค พ่อโดนฆาตกรรม เผานั่งยางล้างหนี้ และตัวเองยังเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว จนมาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสกลายเป็นนักธุรกิจพันล้าน! ทั้งยังโดนคนสนิทที่อยู่ด้วยกันมานานโกงเงินไปกว่า 150 ล้านบาท โดยเจ้าตัวได้มาเผยทุกประเด็นในรายการคุยแซบ Show ออกอากาศทางช่อง One31 ที่มี พุฒิ พุฒิภัทร และเป๊กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ 

 

 

 

วัยเด็กเป็นลูกคุณหนู?

เอก ณกรณ์ : พ่อแม่ให้เรียนหนังสือจากอำเภอเล็กมาเรียนในจังหวัด พ่อแม่อยากให้มาเรียนในกรุงเทพ เราเป็นเด็กหัวไม่ดี ขยันยังไงก็ยังไม่ดี พยายามแล้ว ชีวิตเปลี่ยนตอนคุณพ่อเสีย คุณพ่อปล่อยเงินกู้ให้เจ้าใหญ่ๆเราก็เรียนรู้มาตลอด คุณพ่อจะบ่นให้ฟังเรื่องธุรกิจ คุณพ่อเสียถูกฆาตกรรมตอนนั้นเป็นคดีที่ใหญ่มาก ตอนนั้นผมอายุ 17 ถูกฆ่าตัดแขนตัดขา เป็นคดีที่โหดมาก

 

จากเด็กที่ติดเกมส์ ขอเงินพ่อ รักเพื่อนเอาเงินให้เพื่อนหมด ไม่ได้สนใจธุรกิจที่บ้านคืออะไรแค่ฟังๆ พอคุณพ่อเสียเราต้องเริ่มกลับมาเป็นผู้นำ ต้องทำยังไง เก็บเงินกู้ยังไง คุณแม่เริ่มมีคนมาจีบ เริ่มมีครอบครัวใหม่  ตอนนั้นขอเงินคุณแม่มาประมาณ 2 ล้าน เงินจากประกันชีวิตของคุณพ่อ มาเริ่มปล่อยเงินกู้เอง ทั้งๆที่เราเกลียดธุรกิจเงินกู้มากๆ เห็นลูกหนี้ลำบากเราไม่ชอบเลย แต่เราไม่รู้จะทำอะไร จาก 2   ล้านก็มีเงินเกือบ 10 ล้าน

 

บทเรียนในชีวิตเราจะสอนให้เรารู้ว่าเงินในกระเป๋าเราคือเงินเรา ถ้าออกจากกระเป๋าเราไม่ใช่เงินเรา ตอนนั้นต้มยำกุ้ง เราไม่สะเทือนเลยมีเงิน แต่พอหลังจากนั้นเราเก็บเงินใครไม่ได้เลย เราเลยแบบคนที่ติดดอกเบี้ยเราก็ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เราแล้วกันที่เค้าต้องไปผ่อนเอา เครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มบ้านเลย เงินเราอยู่กับคนอื่นหมดเลย เราไม่มีเงินเรียนต่อ เราก็คิดจะทำอะไรกิน บ้านก็โดนยึด

 

 

 

ติดแบล็คลิสต์?

เอก ณกรณ์ : ชื่อเราติดแบล็คลิสต์ อายุ 20 โดนแบงค์ฟ้อง ตอนนั้นเรารู้เลยว่าชีวิตคนเราจะฆ่าตัวายได้ต้องมี 3 สิ่ง พร้อมๆกัน ต้องไม่มีครอบครัว ไม่มีความรัก ไม่มีการงาน  ถ้ามาพร้อมกันคิดอยากฆ่าตัวตาย เราไปนั่งที่ระเบียงคิดว่าถ้าไม่ตายใครจะดูแลต่อ เราพยายามคิดเหตุผลอะไรที่เราคิดแบบนั้น

 

ตอนนั้นมาทำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แบบเงินผ่อน ไปติดต่อขอเป็นเซลล์ คีย์ของความสำเร็จแต่ละอาชีพต่างกัน เราขายของเงินผ่อนลูกค้าไม่สนใจราคา ลูกค้าสนใจอนุมัติไม่อนุมัติ ดอกเบี้ยถูก พอจับทางได้ ก็เริ่มมีรายได้กำไรสูงสุดประมาณ 4-5 แสน แต่มันผ่านไม่มีกิน บ้านโดนยึด ไม่มีความหวังในชีวิต ขยับมาขายแอร์ เราคิดว่ากำไรเยอะ แต่เราต้องเรียนรู้อย่างลึก ต้องรู้จักอะไหล่ทั้งหมด เราอยากเป็นเจ้าของโรงงานแอร์ มีเพื่อนที่เป็นพาร์ทเนอร์วุฒิศักดิ์ชวนไปกินข้าว ชวนหลายรอบเราถึงไป

 

 

จุดเปลี่ยนมาทำเป็นวุฒิศักดิ์คลินิก?

เอก ณกรณ์ : ผมคิดว่าถ้าจะสำเร็จต้องทำธุรกิจไม่หยุดนิ่ง เรียนรู้ตลอดเวลา แต่อยากทำโรงงานแอร์แต่พอไปคุยผมรู้แล้วว่าธุรกิจนี้เริ่มไม่ได้ เพราะมีคู่แข่งใหม่ๆเข้ามาเยอะ ผมบอกลูกน้องว่าเตรียมตัวนะไม่เกิน 1 ปีเราเตรียมตัวปิด เพราะสัญญาณเตือนภัยมาแล้ว จังหวะวุฒิศักดิ์มาพอดีเราก็หุ้นไป 5 แสนบาท

 

ผมไม่ได้เก่งแต่ผมชอบเรียนรู้ ฟังแล้ววิเคราะห์ คลินิกตอนนั้นยังไม่มีใครบูม ลงทุนไปแล้วจะทำยังไงให้คนมาใช้บริการ ทำธุรกิจต้องไม่เอาเปรียบคน คนตรงข้ามต้องได้ผลประโยชน์ที่เขาอยากได้ รักษาสิว 700   บาทฟรีทรีทเมนต์ เราก็คิดทำยังไงให้คนรู้จักเรา ตอนนั้นพาร์ทเนอร์หล่อมาก ทำรูปใหญ่ๆคนต้องเห็น แจกใบปลิวด้วยวันแรกสำคัญเชิญคนมาให้เยอะที่สุด ยอดดีขึ้นๆ  พอเริ่มเซตระบบได้ปีแรกเปิด 7 สาขา

 

ทำไมถึงรุกหนักธุรกิจนี้?

เอก ณกรณ์ : ธุรกิจที่ดี คือเห็นผล สาขาใหม่เปิดให้ได้ภายใน 7   วัน พาร์ทเนอร์บอกเป็นไปไม่ได้  ห้ามพูดไม่ได้ คำว่าไม่คือไม่เจริญ คำว่ารอคือรอความเจริญ คำว่าเดี๋ยวคือยังไม่ได้ทำ ผมจะไม่ชอบฟังคำพวกนี้ ปีแรกเปิด 7 สาขาโดยที่ผมไม่ได้ใช้เงิน เอาจากระบบอีออนมา เอาคอร์สรักษาสิวเข้ากับอีออนเลยผมไปคุย อีออนรับ จะต้องรอ 15 วัน ผมใช้การแลกเช็ค เปิดไป 40-50   สาขา

 

ไม่มีใครเชื่อในกระเป๋ามีไม่ถึงหมื่นบาทเลย ยิ่งมีสาขาเยอะอำนาจต่อรองยิ่งเยอะ จน 140 สาขา ผมพูดกับพาร์เนอร์ว่าปีเดียวผมจะเปิดสาขาอีกเท่าตัว ซึ่งพาร์ทเนอร์คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผมมีทีมเทรนด์ให้บุคลากร ตั้งสถาบันเทรนนิ่ง 10 กว่าปีมี 140 กว่าสาขา เราอินกับงานทำงานตลอดเวลาแม้ตอนนอน เราเลยคิดว่าเราขายไปบางส่วนมั้ย ลดสิ่งที่เรากลัว วุฒิศักดิ์มีรายได้ประมาณ 180 กว่าล้านต่อเดือน เราขายหุ้นไปบางส่วนดีกว่า

 

 

หายไปจากวุฒิศักดิ์ช่วงบูมที่สุด

เอก ณกรณ์ : ความที่เราอยู่ไม่นิ่ง ไม่เคยทำอย่างเดียว เราปวดหัวเราเหนื่อยจริงๆ ให้พาร์ทเนอร์บริหารแทน เรายังไม่ถอนหุ้น เราขายไปประมาณ 3-4 พันล้าน ขายแค่ 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ เค้าตีไว้ 8พันกว่าล้าน ผมส่วนตัวขาย 15 เปอร์เซ็นต์ได้ 1200   ล้าน หลังจากที่ขายแล้วผมให้ลูกน้องผมคนละ 2   ล้าน 9 คน ให้คุณแม่ 10   ล้านให้ญาติผมทุกคน ให้ลูกน้องกับญาติหมดไปประมาณ 40 ล้านแล้วผมก็เกษียณ ทุกคนมีบุญคุณเราหมดเลี้ยงเรามา ตอนที่เดินออกมาอายุ 30 กว่า

 

ชีวิตเกษียณ?

เอก ณกรณ์ : ตื่นมาสบายๆ ชิลๆ จนเราไปเที่ยวมา 2-3 ปีมันน่าเบื่อมาก แล้วเราเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ตื่นมาคือรู้สึกอยากตายมากเลย ทุกครั้งที่ผมคิดถึงความตายน้ำตาผมไหลผมมีความสุขอ่ะรู้สึกว่าพอแล้วชีวิต ไม่รู้จะอยู่ทำไม มันเหงาไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้อยากได้อะไรในชีวิต ห้ามให้ใครยืมเงิน ให้ให้ไปเลย มีก็ให้นะแต่ไม่มีใครคืนเลย ผมไม่เคยโกรธ เราไม่ทุกข์เค้าไม่ทุกข์

 

เรื่องงานเก่งมาก ไม่เก่งเรื่องความรักเลย?

เอก ณกรณ์ : ความรักผมเหมือนเด็กอนุบาล 

 

โดนคนรักโกงไป 150 ล้าน?

เอก ณกรณ์ : ทุกอย่างอาจจะผิดที่เราเอง อย่าไปโทษคนอื่น ผมรู้จักความรักตอน 21-22 ตอนที่เรายังไม่มีกินอยู่เลย มีคนมาจีบเราเยอะ เราแพ้คนเอาใจ ผมใช้เหตุผลในการทำงาน แต่ผมใช้ในความรักด้วยมันเลยไม่เวิร์ค วันนั้นร้านนั่งชิลกับเลขา ผมไม่ซับซ้อน บอกคนนี้ดูดี มีไปคุยขอเบอร์มาเริ่มต้นคุยกัน ยังไม่ได้คบเหมือนเค้ามีปัญหากับแฟนเค้า แต่เค้าบอกว่าเลิกกันแล้วโดนเองของคืนหมดเลย

 

ผมบอกตรงๆเลยว่าผมคุยอยู่หลายคนขอผมเลือกก่อน ผมไม่ชอบโกหก พอเค้ามีปัญหาผมบอกงั้นคบกันแล้วกัน 1 ปี คำที่ทัชใจเราคือเค้าบอกจะเลี้ยงข้าว เราก็รู้สึกดี ตอนนั้นวุฒิศักดิ์ดังแต่ไม่มีใครรู้ว่าเรา ผมจะโฟกัสเรื่องงานมากกว่า ผมเป็นคนจำไม่ได้แม่แต่รหัสเซฟ หรือบัตร พอครบ 1ปี เราไม่เชิงไปต่อ แต่จะให้เค้าออกจากบ้านยังไง เรามองว่าคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนเรามากกว่า เราก็ให้อยู่ดูธุรกิจอื่นตั้งเงินเดือน ช่วงหลังจะเกษียณก็ให้เช็คเค้าไป 10 ล้าน ให้ทรัพย์สินน่าจะ 60-70 ล้าน

 

 

มีช่วงที่พฤติกรรมเค้าเปลี่ยน?

เอก ณกรณ์ : เราผ่านอะไรมาเยอะ ตัวเลขทั้งหมดผมจำได้หมด แต่ผมไม่คิดลบเลยไง ทำไมตัวเลขไม่ใช่ จนวันนึงถูกเค้าต่อยเรางงมาก  ผมไปเจอที่ผับผมก็ไปผลักเค้าบอกเอาคืนมา 60 กว่าล้านที่ผมให้ ปันผลเอาไปผมไม่ซีเรียส พอผมจะกลับโดนขวดตีแล้วก็ไปปล่อยข่าวเยอะ เราให้ไป 60 กว่าล้าน แหวนเพชร 6 กะรัต ปันผลอีก 60 กว่าล้าน หุ้นทุกบริษัทก็ให้ไป พอให้หุ้นเนี่ยมีปัญหาเป็นบทเรียนชีวิตเลย ให้เงินไม่เป็นไร เค้ามาฟ้องเรายักยอกหุ้น ทุกครั้งที่เจอวิกฤตมีข้อดีเสมอ ทุกเรื่องราวในชีวิตทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น

 

สายมูได้ 200 ล้านภายใน 7 วัน?

เอก ณกรณ์ : เราทำธุรกิจมายาวนาน มาเคยขออะไรเลย ทำบุญแต่ไม่เคยขอ เราซื้อที่ดินจะสร้างบ้านที่เชียงใหม่ แต่ไม่คนปล่อยข่าวไม่ดี  เราเครียดมากเราไม่เคยมีชื่อเสียงที่ไม่ดี ตอนนั้นทุกข์มาก มีคนบอกให้เราไปขอพรที่ศาลหลักเมืองที่เชียงใหม่ เราก็ไปแต่เราก็ไม่ได้เชื่อ เราก็ไปขอแล้วได้ เล่าให้ท่านฟังเหมือนญาติผู้ใหญ่ฟัง