
สรุป "ญาญ่า" โต้ฮุบคลินิก "เม พรีมายา" เดือด! "หมอต่อ" ชี้แจงด้วย
สรุปดราม่า "ญาญ่า เขมณัฏฐ์" ชี้แจง "เม พรีมายา" อ้างว่าถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก เจ้าตัวย้ำ "ขายขาด" ไม่ใช่การฝากหุ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแบรนด์ Dermatige
เดือดกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับดราม่า "เม พรีมายา" ร้องไห้ ในรายการโหนกระแส ถึงปัญหาการทำธุรกิจคลินิกเสริมความงาม อ้างว่าถูกหุ้นส่วนฮุบกิจการไป เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เธอเผยว่า ได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนสนิทและทีมแพทย์ แต่ต่อมาเมื่อตนถูกดำเนินคดี กลับถูกบีบให้โอนหุ้น และถอดชื่อออกจากธุรกิจ ก่อนจะถูกกีดกันออกจากกิจการในภายหลัง
ล่าสุด "ญาญ่า เขมณัฏฐ์" 1 ใน 4 หุ้นส่วน ได้มาชี้แจงดราม่า ในรายการโหนกระแส โดยเธอยืนยันว่า "เม พรีมายา" เป็นฝ่ายมาเสนอขายหุ้นเอง เพราะข่าวเสียหายเมื่อปี 2566 คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีแบรนด์พรีมายา รวมทั้งถูกจับกุมฐาน ใส่สารอันตรายลงในผลิตภัณฑ์
ซึ่งการมีข่าวลักษณะนี้ มันส่งผลกระทบต่อแบรนด์ ทำให้ราคาหุ้นร่วงมากๆ เธอเห็นใจผู้ร่วมหุ้นคนอื่นๆ ไม่อยากให้ข่าวมากระทบกับคลินิก โดยเป็นการ "ขายขาด" ไม่ใช่การฝากหุ้นเอาไว้ โดยขายให้ผู้ถือหุ้น 3 คน คนละ 108,000 บาท
ในภายหลังจากซื้อหุ้นจาก "เม พรีมายา" มาแล้ว ทำให้เหลือผู้ถือหุ้น 3 คน คือ ญาญ่า หมอกลาง และ หมอต่อ โดยทั้ง 3 ได้นำบริษัทพริมย่ามาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท DMT และโละแบรนด์เก่าทิ้้งไปทั้งหมด และช่วยกันสร้างแบรนด์ Dermatige โดยที่แบรนด์นี้เป็นเอกเทศ ไม่ได้อยู่ภายใต้บริษัทไหน แต่มีการทำหนังสือยินยอมให้ บริษัท DMT มีสิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์นี้ได้
โดย "ญาญ่า เขมณัฏฐ์" ย้ำว่า "เม พรีมายา" ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแบรนด์ Dermatige ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ คนที่สร้างแบรนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกคือ ญาญ่า หมอกลาง และหมอต่อ เท่านั้น
ส่วนประเด็น "ไอซ์" ญาติของเม ที่ถือหุ้น DMT อยู่ 25% "ญาญ่า" ยืนยันว่า เป็นการเข้ามาติดต่อขอซื้อหุ้นด้วยตัวของไอซ์เอง แต่จะเป็นนอมินีให้เมหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมาเวลาประชุมหรือดำเนินการอะไรก็จะเป็นไอซ์มาโดยตลอด ทั้งนี้ ญาญ่าก็ยังย้ำว่า แม้ไอซ์จะถือหุ้น DMT อยู่ 25% ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแบรนด์ Dermatige
กรณีโปร 999 ที่ต้องมีการโอนจอง เงิน 999 บาท แล้วพอทำเสร็จค่อยโอนยอดที่เหลือ "เม พรีมายา" อ้างว่า เงินจองโอนเข้าบริษัท DMT (ที่เมถือหุ้น ผ่านไอซ์) แต่พอโอนยอดเต็ม กลับโอนเข้าไปทางบริษัท DMW (ญาญ่ากับหมอถือหุ้นกัน 3 คน) "ญาญ่า" ยืนยันว่าไม่จริง มีสลิปยืนยันว่า ลูกค้าทำหน้าที่สาขาไหน ก็รับเงินเข้าสาขานั้น มีสลิปยืนยันชัดเจน
(ช่วง "เม พรีมายา" โฟนอิน)
"เม พรีมายา" เดือด! ถาม "ญาญ่า" ทำไมถึงไม่กล้าให้มานั่งร่วมในรายการ ซึ่งญาญ่าตอบว่า ไม่สะดวกใจจริงๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่มีปัญหาฟ้องร้อง โดนเมด่าเสียๆ หายๆ ด่าพ่อล่อแม่ แจกอวัยวะอะไรต่างๆ จึงไม่ขอให้มาเจอหน้ากันอีกแล้ว
"ญาญ่า" ย้ำ ที่เมบอกว่าตัวเองเอาแสงมาสาดใส่พวกตน ก็ต้องขอบอกว่า ตนมีแสงในตัวเองอยู่แล้ว ถ้าตนเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จักกันมาก่อน จะมาร่วมแบรนด์กันได้ยังไง อยากจะบอกว่า อย่ามากดคนอื่นแบบนี้ ตนไม่เคยอยากได้แสงจากใคร เพราะตนมีแสงในตัวเองอยู่แล้ว
ขณะที่ "เม พรีมายา" สวนว่า ที่บอกว่าเมไม่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ Dermatige มันเป็นความตั้งใจของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เมอยากจะถามกลับก็คือ ถ้าเมไม่เกี่ยว เราจะไปไกล่เกลี่ยกันในศาลทำไมเป็น 10 - 20 นัด แล้วการไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า ก็เพิ่งจะไปจดเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีเรื่องกันแล้วด้วยซ้ำ
"ญาญ่า" แจงการตั้งแบรนด์ Dermatige แม้จะไปจดทะเบียนช้า แต่ก่อนหน้านี้มีการทำหนังสือ ทำสัญญาอะไรตั้งแต่ก่อตั้งแล้ว แค่ยังไม่ได้ไปจด มันมีหลักฐานที่สามารถไปตรวจสอบย้อนหลังได้อยู่แล้ว
("หมอต่อ" โฟนอิน)
ยืนยันว่า แบรนด์ Dermatige เป็นแบรนด์ที่พวกตน อันประกอบด้วย หมอต่อ หมอกลาง และ ญาญ่า สร้างกันขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจกันมา โดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเมเลย การที่เมจะอ้างว่า ที่ขายหุ้นตอนที่มีคดีความ มันเป็นการขายขาด ไม่ได้เป็นการฝากหุ้น ถ้าฝากหุ้นก็จะต้องเป็นสัญญาอีกแบบหรือไม่ แล้วที่เขากลับมาซื้อโดยที่เป็นน้องสาวเขามาซื้อ ก็ต้องบอกว่าเป็นน้องสาวของเขา ไม่ใช่ตัวเขา ส่วนเขาจะไปมีการตกลงอะไรส่วนตัวกับน้องสาว หมอไม่รู้
"หมอต่อ" ถูก "หมอกวาง" เจ้าของคลินิกอีกแห่ง ออกมาร่วมแฉว่า หมอต่อร่วมกับหมอคนอื่นๆ ดีดตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ และ เทคนไข้ เท คลินิกดังกล่าว โดยที่ไม่บอกใครก่อนเลย เจ้าตัวแจงว่า ที่ต้องออกมา เพราะว่า ณ เวลาที่เกิดเรื่อง คลินิกของหมอกวางมีพฤติกรรมบางอย่าง ที่สุ่มเสี่ยงต่อการที่จะทำให้หมอต่อ สูญเสียใบประกอบโรคศิลป์ และหมอไม่คิดจะทำงานต่อได้อีกแม้แต่วันเดียว จึงตัดสินใจดีดตัวเองออกจากกลุ่มไลน์ ก็ยอมรับว่าผิดที่ไม่บอกเขาดีๆ อาจจะเพราะว่าเราเองก็ยังเด็ก แต่สุดท้ายคดีความระหว่างหมอต่อกับหมอกวางจบลงด้วยดี ศาลตัดสินว่าหมอต่อไม่ผิด
และหลังจากนั้น "หมอต่อ" มาอยู่กับ Dermatige ก็ยังมีการไปเซ้งคลินิกสาขาเก่าของ "หมอกวาง" ยังคุยธุรกิจกันด้วยดีอยู่เลย แล้วทำไมพอเวลามีเรื่องถึงได้ออกมาผสมโรงแบบนี้
สุดท้าย "เม พรีมายา" ยืนยันว่า ธงของเธอคืออยากไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว แต่ต้องซื้อหุ้นไปจากเธอ ให้มันเป็นธรรม แต่ทาง "ญาญ่า" โต้กลับว่า ไม่สามารถจะเสนอราคาให้เมได้ เพราะไม่รู้ว่าเมเป็นใครใน Dermatige ต้องเป็นไอซ์เป็นคนขอมา เมไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับแบรนด์เลย และที่สำคัญคือ ตอนนี้ได้ยื่นชำระบัญชีเพื่อปิดบริษัท แนะนำให้ไอซ์ทำหนังสือไปที่คนกลาง คือผู้ชำระบัญชี เพื่อนำตัวเลขบัญชีมาเปิด เพื่อดูมูลค่าบริษัทตามที่เมต้องการ