"หน่อง ธนา" เคลียร์ดราม่า "น้องวันใหม่” ถูกวิจารณ์ไร้มารยาท ขอโทษหากทำให้ไม่สบายใจ  | คมชัดลึก

 

ดราม่าร้อนฉ่าบนโลกโซเชียล! เมื่อ น้องวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์ น้องสาวคนเล็กของบ้าน ถูกชาวเน็ตบางส่วนจับผิดพฤติกรรมเรื่องมารยาท ทั้งการ “ไม่ยกมือไหว้ผู้ใหญ่” และ “ไม่พูดลงท้ายด้วยคะ-ค่ะ” จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์ บางรายถึงขั้นตำหนิครอบครัวว่า “เลี้ยงลูกแบบไม่ใส่ใจ” ทำให้ประเด็นยิ่งทวีความดราม่าหนักขึ้น ล่าสุด เฮียหน่อง-ธนา ฉัตรบริรักษ์ พี่ชายคนรอง ไม่ปล่อยให้เรื่องบานปลาย ออกมาเคลียร์ตรง ๆ โดยยืนยันหนักแน่นว่า ครอบครัวสอนเรื่องมารยาทให้น้อง ๆ มาเสมอ แต่ยอมรับว่าอาจมีบางครั้งที่วันใหม่เผลอตกหล่นไปบ้าง ซึ่งเป็นเพียง “บางเหตุการณ์” ไม่ใช่ทั้งหมดอย่างที่ชาวเน็ตเข้าใจผิด

 

 

โดยทางหน่องเปิดใจถึงประเด็นร้อนว่า “พวกเขาก็ไม่ได้มาเห็นเรา 24 ชั่วโมง ไม่ได้รู้ว่าความจริงเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ไปตอบกลับอะไร แต่ถ้ามันไปทำให้ใครไม่สบายใจ ก็ขอโทษด้วยแล้วกันครับ”  โดยยืนยันว่า “วันใหม่ก็เหมือนเดิม แค่โตขึ้น” พร้อมตอกกลับคอมเมนต์แรงที่บอกว่า “สีผิวเปลี่ยนไป เพราะไม่มีแม่ดูแล” ว่า จริง ๆ คลิปที่ถูกวิจารณ์ถ่ายตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ตอนที่คุณแม่ยังอยู่ พร้อมหัวเราะขำๆ “เอ๊ะแม่ดูแลไม่ดีเท่าแม่เหรอ” หน่องยอมรับว่า น้องอาจมีบางครั้งที่ลืม “พูดคะ-ขา” แต่ไม่ใช่ว่าเป็นแบบนั้นทั้งวันแต่ย้ำว่า ครอบครัวสอนเรื่องมารยาทให้น้องมาตลอด ด้าน น้องวันใหม่ เองก็เปิดใจว่า ไม่ได้ซีเรียสกับเสียงวิจารณ์ “หนูไม่ค่อยอ่านค่ะ แต่พอรู้บ้าง ก็ไม่ได้นอยด์ ถือเป็นเรื่องปกติของโซเชียล” พร้อมเผยทัศนคติสู้ดราม่าเต็มที่ “เข้าวงการก็ต้องเจอ ถือเป็นการฝึกซ้อมค่ะ อีกหน่อยหนูตอบได้เองเลย”  การเคลียร์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่โตและใจเย็นของบ้านฉัตรบริรักษ์ ที่แม้ต้องเผชิญแรงกดดันในโลกโซเชียล แต่เลือกใช้เหตุผลและความสุภาพในการรับมือ มากกว่าจะตอบโต้ด้วยความร้อนแรง

 

 

 

 

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ น้องวันใหม่ ถือเป็น “ซุปตาร์เด็กแห่งบ้านฉัตรบริรักษ์” ที่แฟนคลับรักใคร่ติดตามมาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะออกงานอีเวนต์หรือร่วมรายการทีวี ก็มักได้รับความเอ็นดูเสมอ การถูกจับผิดเรื่อง “มารยาท” ในครั้งนี้ จึงสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะแฟน ๆ ส่วนหนึ่งมองว่า “เด็กอาจยังไม่ทันได้ระวังตัว” และบางครั้งก็ไม่ควรถูกตัดสินจากเพียงไม่กี่วินาทีบนหน้าจอ เรียกได้ว่าดราม่าครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนแรงกดดันของสังคมออนไลน์ที่พร้อมวิจารณ์ได้ทุกมุม แต่ยังเป็นอีกบททดสอบของบ้านฉัตรบริรักษ์ ที่ต้องรับมือกับกระแสในฐานะครอบครัวคนดังที่ถูกจับตามองอยู่เสมอ