บันเทิง

"เม พรีมายา" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

"เม พรีมายา" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

02 ต.ค. 2568

"เม พรีมายา" ร้องไห้หนัก! ถูกหุ้นส่วนหักหลัง ฮุบคลินิกเสริมความงาม พร้อมเล่าอดีตถูกดำเนินคดี จนชีวิตพังทลาย

 

ออกมาชี้แจงแล้ว สำหรับ "เม พรีมายา" และสามี กรณีการลงทุนทำธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ที่อ้างว่าถูกหุ้นส่วนฮุบกิจการไป ในรายการโหนกระแส โดยเธอเริ่มต้นเล่าว่า ได้รู้จักกับอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่งซึ่งอยู่ในวงการนี้อยู่แล้ว อินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าวได้แนะนำให้รู้จักกับแพทย์อีก 2 คน จนนำไปสู่การตกลงร่วมกันเปิดบริษัทเพื่อทำคลินิก โดยใช้ชื่อว่า "Primya Prime Medical Center"

 

ซึ่งเป็นการนำชื่อแบรนด์พรีมายาของตนเองมาใช้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำการตลาด ในการก่อตั้งบริษัท มีการตกลงสัดส่วนการถือหุ้นกัน โดยฝ่ายของเมและสามีถือหุ้นในสัดส่วน 40% อินฟลูเอนเซอร์คนดังกล่าวถือหุ้น 30% และแพทย์อีก 2 คนถือหุ้นรวมกัน 30% 

 

 

ต่อมาธุรกิจเติบโตขึ้น จึงปรับโครงสร้างใหม่ แบ่งหุ้นเท่ากันคนละ 25% จากเดิมเปิดเพียง 1 สาขา ก็ขยายเพิ่มเป็น 3 สาขา ก่อนจะเหลือเพียง 2 สาขา เนื่องจากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า แต่ก็ยังถือว่ามีกำไรตั้งแต่วันแรกที่เปิดกิจการ

 

ช่วงที่เมมีดราม่าคดีความ หุ้นส่วนมองว่าส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคลินิก หุ้นส่วนจึงยื่นหนังสือขอให้ถอดถอนชื่อเธอออกจากบริษัท เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ช่วงเวลานั้นชีวิตเธอเหมือนพังทลาย ธุรกิจหลายแห่งที่เธอมีส่วนร่วมต้องถอยตัวออกมาเช่นกัน เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อได้

 

\"เม พรีมายา\" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

 

 

เล่าย้อนช่วงปี 2566 ถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้นเหตุมาจากคอนเทนต์ที่เคยทำไว้ในอดีตสมัยที่ยังอายุน้อย ไม่เคยคาดคิดว่าการทำคอนเทนต์ในครั้งนั้นจะส่งผลให้สังคมมองว่าเธอเป็นคนไม่ดีและไม่สุจริต ทั้งที่ยืนยันว่าตนไม่เคยนำตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ดีเลย และไม่คิดว่าสิ่งที่เคยโพสต์ไปในอดีตจะย้อนกลับมาทำลายชีวิต

 

เมจำใจต้องถอดถอนหุ้นออก และนำหุ้นที่ถืออยู่ฝากแบ่งเท่าๆ กันให้กับหุ้นส่วนทั้ง 3 คน กระทั่งเมื่อคดีความสิ้นสุด เธอจึงกลับไปขอถือหุ้นคืนเหมือนเดิม แต่ทางหุ้นส่วนกลับยื่นเงื่อนไขมา 2 ทางเลือก คือ รับหุ้นคืน 25% เท่าเดิม แต่ต้องทำงานโดยห้ามออกหน้า หรือ รับหุ้น 12.5% เพื่อรับเพียงเงินปันผลอย่างเดียว จึงตัดสินใจเลือกข้อแรก เพื่อรักษาสัดส่วน 25% และกลับเข้ามาทำงานตามเงื่อนไข แต่ไม่นานก็มีเงื่อนไขใหม่เพิ่มขึ้นว่า หากเปิดสาขาใหม่ เมและสามีจะไม่มีสิทธิ์มีส่วนร่วมในสาขาเหล่านั้น

 

\"เม พรีมายา\" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

 

ชี้แจงประเด็นแผนเปิด 3 สาขาใหม่ เป็นแผนการเติบโตที่วางไว้ตั้งแต่ต้น และในช่วงที่เมฝากหุ้นไว้ เธอยังคงช่วยงานอยู่ตลอด ทั้งออกค่าอุปกรณ์การแพทย์ ดูแลค่าใช้จ่าย รวมถึงพนักงาน ทำให้เธอตัดสินใจใช้ชื่อน้องสาวในการถือหุ้น เพราะทางหุ้นส่วนไม่ไว้ใจที่จะใช้ชื่อของเมอีกต่อไป ประกอบกับหุ้นส่วนทั้ง 3 เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น และไม่ต้องการให้ชื่อของเมเข้ามามีบทบาทเหมือนเดิมอีกแล้ว

 

กระทั่งวันที่ทราบเรื่องสาขาใหม่ รู้สึกไม่ยุติธรรมเพราะสาขาเหล่านั้นใช้ทีมพนักงานชุดเดียวกันกับบริษัทเดิม แต่กลับไปตั้งบริษัทใหม่โดยที่เมจะไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆ จึงตัดสินใจนัดหุ้นส่วนเข้าประชุม เพื่อเคลียร์กันอย่างตรงไปตรงมาว่าจะแบ่งการจ่ายเงินอย่างไร เนื่องจากทั้งสองบริษัทใช้พนักงานและทรัพยากรร่วมกัน แต่กลับถูกแยกเป็นสองนิติบุคคล โดยการพูดคุยวันนั้นไม่สามารถหาข้อสรุปได้ 

 

จากนั้นเมได้รับหลักฐานจากลูกค้าที่มาใช้บริการ พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชี บริษัทนึง แต่เมื่อถึงวันที่เข้ารับบริการจริง กลับมีการโอนยอดใหญ่เข้าบัญชี บริษัทนึงแทน ทั้งที่ค่าใช้จ่ายด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นฝ่ายบริษัทนึงที่ลงทุนทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง

 

แถมยังถูกจำกัดสิทธิ์ ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของบริษัทได้ และถูกตัดออกจากกลุ่มสื่อสารภายในทุกช่องทาง จึงส่งเรื่องขอตรวจสอบบัญชีตามกำหนดนัดหมาย แต่กลับไม่ได้รับอนุญาต ทั้งยังถูกแจ้งความ จนตำรวจบุกมาจับในข้อหาบุกรุก ทั้งที่เป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบธรรมและมีสิทธิ์เข้าบริษัทได้ จึงนำเอกสารยืนยันให้ตำรวจดู จนเจ้าหน้าที่ต้องปล่อยกลับไป แต่ในวันเดียวกันกลับถูกแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท

 

\"เม พรีมายา\" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

 

ช่วงนึงของรายการ "หนุ่ม กรรชัย" ได้อ่านข้อความ คลินิก Dermatige Aesthetics ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ระบุว่า ข้อมูลที่ เม พรีมายา นำเสนอผ่านโซเชียลมีเดียนั้นบิดเบือนจากความจริง และทำให้แบรนด์ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางบริษัทได้ดำเนินการฟ้องร้องในคดีอื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้วก่อนหน้านี้ ทางคลินิกระบุว่าในช่วงปี 2566 ที่คุณเมประสบปัญหาส่วนตัว ได้สร้างผลกระทบและความเสียหายให้กับแบรนด์เป็นอย่างมาก

 

ประกอบกับผลประกอบการในช่วงนั้นไม่ดีนัก จึงได้มีการยุติกิจการของแบรนด์พรีมายาคลินิกเดิมอย่างถูกต้อง ทางคลินิกยืนยันว่าคุณเมได้ขายหุ้นออกไปแล้ว ไม่ใช่การฝากหุ้นอย่างที่กล่าวอ้าง และการกระทำของคุณเมทำให้แบรนด์ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางบริษัทได้ดำเนินการฟ้องร้องคุณเมในคดีอาญาแล้ว และศาลได้รับฟ้องไว้แล้วหนึ่งคดี แต่คุณเมได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าข่าวของเธอทำให้ธุรกิจตกต่ำจนต้องปิดสาขานั้นไม่เป็นความจริง เพราะการปิดสาขาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะมีปัญหาคดีความเสียอีก

 

\"เม พรีมายา\" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที

 

ก่อนที่เมเผยต่ออีกว่า เธอได้ให้คนกลางมาประเมินมูลค่าหุ้นของเธอที่ 600 ล้านบาท แต่ก็ไม่ได้ต้องการขายในราคานั้น และพยายามเสนอขายในราคาที่ลดลงมามาก เช่น 30 ล้าน 50 ล้าน หรือ 100 ล้านบาท เพื่อให้เรื่องจบ แต่คู่กรณีก็ไม่ยอมจ่าย และพยายามจะกดราคาจนไม่เป็นธรรม

 

สิ่งที่อยากจะถามก็คือ ในวันที่ร่วมกันสร้างธุรกิจมา เมคือคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาหุ้นส่วนทั้ง 4 คน และธุรกิจเติบโตมาได้ก็ด้วยชื่อเสียงของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยมีปัญหาที่จะแบ่งกำไรเท่ากันตามสัดส่วนหุ้น จนวันนี้ที่หุ้นส่วนทั้ง 3 คนมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว จึงอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า พวกเขาอาจไม่ต้องการแบ่งผลประโยชน์ให้เธออีกต่อไป จึงทำทุกวิถีทางเพื่อตัดเธอออกไป แต่กลับไม่ยอมซื้อหุ้นคืนในราคาที่เป็นธรรม การกระทำเช่นนี้เป็นธรรมกับเธอแล้วหรือยัง

 

\"เม พรีมายา\" ร้องไห้! ถูกหุ้นส่วนฮุบคลินิก อีกฝ่ายแถลงโต้ทันที