
คมจบให้สรุปดราม่า "เหยียดเพศ" ปะทะเดือด พระมหาอุเทน vs อ.เบียร์-แพรรี่
ผิดเพศมืดคือมืดบอดในธรรม? พระมหาอุเทน ฟาดแรง! ตุ๊ดแต๋ว-เกย์ บวช-สอนธรรม สุมไฟสงครามน้ำลาย อ.เบียร์-แพรรี่ แท็กทีมสวนกลับ ย้ำ! เปรียญ 9 ไม่ได้โง่กว่าใคร ลั่น! ฟ้องได้ระวังผ้าเหลืองปลิว
สรุปดราม่า "สงครามธรรมะ" ปะทะเดือด พระมหาอุเทน vs อ.เบียร์-แพรรี่
ประเด็นนี้เริ่มต้นจาก พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ พระนักเทศน์และนักปฏิบัติธรรมชื่อดัง ได้ออกมาแสดงทัศนะและตำหนิ อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม (ฆราวาสผู้เผยแผ่ธรรมะ) และ แพรรี่ ไพรวัลย์ (อดีตพระมหาไพรวัลย์) ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและมีการ เหยียดเพศสภาพ อย่างชัดเจน ซึ่งจุดปะทุให้เกิดการตอบโต้กลับอย่างดุเดือด
1. จุดเริ่มต้นจากฝั่งสงฆ์: คำตำหนิของ "พระมหาอุเทน"
พระมหาอุเทนได้ใช้คำเรียกที่รุนแรงในการกล่าวถึงทั้งสองคน โดยเฉพาะกับแพรรี่ โดยระบุว่า:
- เหยียดเพศสภาพและสถานะ: เรียกแพรรี่ว่าเป็น "กระเทย บันเดาะ ตุ๊ดแต๋ว" ที่แอบมาบวชในพระพุทธศาสนาถึง 18 ปี และกล่าวว่า "บาปของเอ็งจะมากสักเพียงใด"
- ตำหนิความกล้า: ตั้งคำถามว่าแพรรี่เป็นใครถึงกล้ามาตำหนิพระสงฆ์ พร้อมบอกว่าตนเอง "ไม่ได้อยู่ในฐานะบุคคลที่ควรแก่การติ"
- ดูถูกสติปัญญาทางธรรม: กล่าวหาทั้งอาจารย์เบียร์และแพรรี่ว่าเป็น "คนมืดบอดในธรรม อัธยาศัยพวกมันเหมือนกันเลย" และใช้คำว่า "ไอ้อีอัคคีจักษร" ซึ่งเป็นคำตำหนิในพระไตรปิฎกที่มีความหมายรุนแรง
2. ฆราวาสตอบโต้กลับ: "พ่นขี้" vs "ปกป้องอัตตา"
อาจารย์เบียร์ ฅนตื่นธรรม ออกมาตอบโต้ด้วยความโกรธว่า
- ตำหนิภาษาพระสงฆ์: ระบุว่าภาษาที่พระมหาอุเทนใช้แต่ละคำนั้น "เหมือนพ่นขี้" และเป็นการย้อนใส่หน้าตัวเอง
- ชื่นชมแพรรี่: ปกป้องแพรรี่ว่าตลอด 18 ปีที่บวชมา ท่านไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย และเป็นถึง เปรียญ 9 ที่สร้างความภูมิใจให้ศาสนา พร้อมย้อนถามว่า "ใครกันแน่ที่มืดบอดในธรรม"
แพรรี่ ไพรวัลย์ (อดีตพระมหาไพรวัลย์) ตอบโต้ด้วยความคมคายและหนักแน่นยิ่งกว่า
- ตำหนิการเหยียดเพศ: ชี้ว่าคำพูดของพระมหาอุเทนเป็นการ เหยียดเพศ ซึ่งขัดกับหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน พร้อมย้อนถามว่า "เป็นตุ๊ด เป็นแต๋วแล้วฟังธรรมไม่ได้ บวชไม่ได้หรอ?"
- ท้าทายความรู้ทางธรรม: ยืนยันว่าตนเองก็เป็น เปรียญ 9 เหมือนกัน และไม่ได้โง่ไปกว่าท่าน พร้อมถามว่าที่พูดออกมานั้น "ท่านปกป้องธรรมหรือท่านปกป้องอัตตาตัวเอง"
- เตือนภัยทางกฎหมาย: แพรรี่ออกโรงเตือนอย่างชัดเจนว่าการด่าคนอื่นว่าเป็น "อัคคีจักษร" หรือการใส่ร้ายนั้น "มันฟ้องได้นะ เดี๋ยวก็ได้นุ่งชุดขาวหรอก" พร้อมเหน็บแนมว่าพระที่รู้ธรรมก็ควรจะรู้กฎหมายไว้บ้าง
- ตำหนิพฤติกรรมส่วนตัว: ชี้ว่าพระสงฆ์ไม่ควรเอาเวลาไป "เสือกเรื่องเพศสภาพคนอื่น" และการเหยียดเพศเช่นนี้ไม่ใช่การติเตียนโดยธรรม
การปะทะครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึง วุฒิภาวะและมารยาท ของพระสงฆ์ผู้เผยแผ่ธรรม โดยเฉพาะประเด็นการใช้ภาษาที่รุนแรงและก้าวร้าว รวมถึงการ เหยียดเพศสภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นจากผู้ที่ครองผ้าเหลือง การตอบโต้จากทั้งอาจารย์เบียร์และแพรรี่ทำให้สังคมตั้งคำถามอย่างกว้างขวางว่า แก่นแท้ของธรรมะ ที่แท้จริงคือการปกป้องธรรม หรือการปกป้อง อัตตา ของตนเองกันแน่