"อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" ขอไม่วิจารณ์การเมือง ลั่น! ผู้นำไม่ต้องเก่งแต่ต้องซื่อสัตย์
"อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" ถอนหายใจเฮือกใหญ่! ขอไม่วิจารณ์การเมือง แต่ฝากรัฐบาลชุดใหม่! ต้องซื่อสัตย์ จริยธรรมต้องมี
ท่ามกลางมรสุมการเมืองที่ถาโถมเข้าใส่รัฐบาล 'เพื่อไทย' จนทำให้เก้าอี้ผู้นำประเทศของ 'แพทองธาร ชินวัตร' สั่นคลอนและต้องสิ้นสุดลงอย่างเจ็บปวด จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้ว่ามีพฤติกรรม "ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง" สะท้อนถึงรอยร้าวที่ยากจะประสานของอำนาจทางการเมืองไทยที่ยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง
ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นไปทั่วทุกสารทิศล่าสุดในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ทางด้าน พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปศาสตร คณะนิเทศศาสตร์ โดยผู้กำกับและนักแสดงชั้นครูที่กุมหัวใจคนไทยด้วยผลงานคุณภาพมาอย่างยาวนาน ได้เปิดใจถึงสถานการณ์ดังกล่าวว่า "เฮ้อ… ชั่วโมงนี้ เวลานี้ เฮ้อ… มีความหวังไหม" ซึ่งสะท้อนถึงความเหนื่อยหน่ายใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงเนื่องจากกลัวถูกตีความว่าเป็น "การเมืองสีนั้นสีนี้" แต่เขาก็ยืนยันว่า "ในฐานะคนไทยต้องทำตามกฎหมาย" และยอมรับสิทธิของพรรคที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม "พงษ์พัฒน์" ได้ฝากแง่คิดที่เฉียบคมในฐานะผู้กำกับมืออาชีพ โดยเปรียบเทียบการทำงานของตนเองกับหลักการบริหารประเทศว่า "ผมไม่ใช่คนเก่ง แต่ผมเลือกคนเก่งมาทำงาน" เขายกตัวอย่างการทำงานที่ต้องอาศัยผู้ช่วยหรือนักแสดงที่เก่งจริง ๆ มาช่วยขับเคลื่อนงานให้ประสบความสำเร็จ และเชื่อว่าหลักการนี้สามารถนำไปใช้ได้กับรัฐบาล "ท่านไม่ต้องเก่ง ไม่ต้องรู้ทุกเรื่อง" เพียงแค่ต้อง "เอาคนเก่งมา แต่ขอให้เก่งจริง" และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้นำคือ "ความซื่อสัตย์ จริยธรรมต้องมีครับ"
แต่ประเด็นที่ "พงษ์พัฒน์" เน้นย้ำเป็นพิเศษคือ "ปัญหาปากท้องของผู้ไม่มีอันจะกิน" ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ "ไม่เคยได้รับการแก้หรือเหลียวแลเลย" เขาโจมตีการแก้ปัญหาด้วย "ประชานิยม" อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการ "แจกเงินแจกอะไรกัน" ซึ่งมองว่าเป็นการ "แก้ที่ปลายเหตุ"
"อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" ได้ใช้คำเปรียบเทียบที่เห็นภาพชัดเจนว่า "แทนที่คุณจะแจกเบ็ดไปแจกปลาเลย เอาไปกินมื้อเดียวก็หมดเลย แต่ถ้าคุณแจกเบ็ดสอนวิธีหาเหยื่อ สอนตกเบ็ด มันกินได้ตลอดชีวิตนะ" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว พร้อมทิ้งท้ายด้วยการหยอดมุกขำ ๆ ว่า "โอ้พูดมากไปแล้ว เดี๋ยวเขายึดปริญญาคืน (ยิ้ม)"
