
หลักฐานอยู่กับทนายแล้ว! "พิง ลำพระเพลิง" ชี้แจงดราม่าหนัง "บุปผา"
"พิง ลำพระเพลิง" ชี้แจง หลังเจอดราม่าภาพยนตร์ "บุปผา" เผยเป็นคนไปขอทำสัญญา - จ่ายเงินให้หลักล้าน ตอนนี้หลักฐานทั้งหมดอยู่กับทนายแล้ว
ออกมาชี้แจงอีกครั้ง สำหรับ "พิง ลำพระเพลิง" หลังเจอดราม่าภาพยนตร์ "บุปผา" โดยล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า.. "แถลงการณ์จาก พิง ลำพระเพลิง ก่อนอื่นผมขอโทษ "ใครก็ตามที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา" 🙏 ที่ผมกล่าวขอให้แสดงตัวออกมา ไปสาบานที่วัดพระแก้วยืนยันความจริงกัน โดยนำบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้องด้วย ผมทำไปโดยขาดความยั้งคิดที่ถูกใส่ร้ายโดย "ใครก็ตามที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา" ผมจึงขอโทษในเรื่องนี้ ต่อใครก็ตามที่สร้างแอคหลุมนี้ขึ้นมา
จากนี้ไป เป็นความจริงล้วนๆ หลักฐานทั้งหมดอยู่กับทนายแล้ว ฟังนะ ทู๊กกกโค้นนนน เอางี้ดีกว่า ผมขอเล่าเรื่องทั้งหมดเลยละกันนะ จะได้ไม่ต้องเดากันไปมาว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไง
เรื่องนี้ตอนแรกสุด ผมนี่แหละเป็นคนไปขอทำสัญญาเอาชื่อกับเค้าโครงเรื่องมาเองจริงๆ ซึ่งผมจ่ายเงินให้กับเค้าไปเป็นจำนวน ⭕️,⭕️00,000.00บาท เพื่อแลกกับการใช้ชื่อเดิม
(มีเอกสารหลักฐาน) ครบถ้วน แต่พอทำไปทำมา ทุนในการทำหนังที่ผมหาได้ครั้งแรกมันไม่พอ หนังเกือบจะไม่ได้ไปต่อแล้ว
โชคดีที่ได้น้องๆ ทีมบีออนคลาวด์เขาเข้ามาช่วยไว้ทัน 🙏☁️เราก็เลยมีการแก้สัญญาใหม่กัน เพิ่มชื่อบีออนคลาวด์เข้ามา และตรงนี้แหละที่ตกลงกันว่าผู้กำกับจะเป็นใคร ในเอกสารก็เขียนไว้ชัดนะ "โดยมี พิง ลำพระเพลิง หรือ นายภูพิงค์ พังสอาด และ นายกฤษดา วิทยาขจรเดช เป็นผู้กำกับภาพยนตร์" ซึ่งตอนแถลงข่าวต้นปี ทุกอย่างก็ยังเป็นไปตามนี้ และมีสัญญาฉบับใหม่ส่งไปให้เจ้าเรื่องเดิม โดยที่ทางนั้นเซนต์ตอบรับกลับมาทุกหน้า และทางผมได้ปั๊มท์ยกเลิก สัญญาฉบับแรกไปแล้ว โดยที่ส่งกลับให้ทางเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม
แต่พอมาถึงช่วงทำงานจริงๆ พอได้ทีมใหม่ ได้นักแสดงใหม่ พอลองมาลุยงานด้วยกัน... เฮ้ย ไอเดียมันเปลี่ยนว่ะ มันกลายเป็นหนังเรื่องใหม่ที่ใหญ่และเจ๋งกว่าเดิมไปเลย เราเลยตัดสินใจรื้อบท รื้อโครงเรื่องกันใหม่หมด ชื่อเรื่องก็เปลี่ยนด้วย จนเป็นอย่างที่ออกมาให้ทุกคนเห็นกันในทีเซอร์นี่แหละ โดยไม่มีเค้าโครงเรื่องเดิมแม้แต่น้อย
ส่วนเรื่องที่หายไปจากกองถ่ายพักหนึ่ง คนที่ไม่รู้ก็ไม่รู้ เดากันไปสารพัด แต่มันคือช่วงที่หนังมีปัญหาจริงๆ พอหนังมันสเกลใหญ่ขึ้นแบบนี้ งบมันก็ต้องเพิ่มตามเป็นเท่าตัว ผมเองนี่แหละที่ขอพักไปเคลียร์ปัญหาหลังบ้านก่อนเรื่องงบที่เกินมา ซึ่งก็บอกกับน้องๆ ในทีมทุกคนแล้ว ทุกคนก็เข้าใจดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่ตอนที่ไม่ได้เข้ากองก็ยังคอยดูงานอยู่ตลอด ไม่ได้ทิ้งไปไหน ก่อนจะแถลงรอบใหม่ก็คุยกันแล้วว่าจะออกมายังไง ผมเห็นว่ามันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรมาก ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เรารู้กันอยู่ข้างใน
ขอยืนยันเลยว่า ผมเริ่มต้นโครงการนี้มาด้วยการเป็นผู้กำกับ 🎬และยังทำหน้าที่ในฐานะผู้กำกับมาตลอด ผมและปอนด์เราทำงานกันเป็นทีม หนังเรื่องนี้ถ่ายทำทั้งหมด 22 คิว มี "พิง ลำพระเพลิง" เข้ากองกำกับไปแล้ว 12 คิว เมื่อวานก็อยู่กอง วันนี้ถ่ายวันสุดท้าย ผมก็ยังทำหน้าที่ "ผู้กำกับ" อยู่จนวินาทีสุดท้ายที่ปิดกล้อง
นี่คือความจริงทั้งหมดจากมุมของคนทำงาน ส่วนเรื่องราวจากมุมของคนอื่น ผมคงไม่ขอไปตัดสินอะไร เพราะคนที่รู้ดีที่สุดก็คือคนที่อยู่ในกองถ่ายด้วยกันกับเราทุกวัน เบื้องหลังกองถ่ายมันมีเรื่องราวและความทุ่มเทมากกว่าที่คนนอกเห็นเยอะ
สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าผลงานจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทุกอย่างด้วยตัวมันเอง เราตั้งใจกันมาก และอยากให้ผู้ชมรอติดตามหนังไทยเรื่องนี้ ลองมาดูเองกับตาแล้วจะได้รู้ไปเลยว่าที่บอกว่าไม่สนเค้าโครงเรื่องเดิมน่ะ มันเป็นยังไง 🤟🏻😄❤️🙏
ปล. เป็นห่วงคนคอมเม้นท์นะครับ อย่าเม้นท์ด้วยอารมณ์กัน เดี๋ยวกลัวทุกคนจะเกิดปัญหา 🙏🙏🙏 จากใจคนรักหนังคนหนึ่ง พิง ลำพระเพลิง"



