แจงดราม่า "เสี่ยโบ๊ท" ตบหน้านักมวย โซเชียลถกเดือดเหมาะสมหรือไม่? | คมชัดลึก

 

โลกออนไลน์ได้ระเบิดประเด็นร้อนแรงในวงการมวยไทย เมื่อคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นนาทีที่ "เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์" โปรโมเตอร์มวยไทยชื่อดังแห่งค่ายเพชรยินดี ซึ่งเป็นสามีของดาราสาว พราวฟ้า การัญชิดา ได้ทำการ ตบหน้า นักมวยในสังกัดของตนเองอย่างแรง ระหว่างช่วงพักยกของการแข่งขัน

 

 

 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและชัดเจนในคลิป ทำให้เกิดคำถามและข้อถกเถียงตามมาทันทีในหมู่แฟนหมัดมวยและชาวเน็ตทั่วไป เสียงวิพากษ์วิจารณ์หลั่งไหลเข้ามาอย่างหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การกระทำของเสี่ยโบ๊ทนั้น "ไม่เหมาะสม" และ "รุนแรงเกินไป" ไม่ว่าจะเป็นในฐานะโปรโมเตอร์หรือผู้ฝึกสอน ที่ควรให้กำลังใจและคำแนะนำนักมวยด้วยวิธีการที่เหมาะสมกว่านี้

 

 

ล่าสุดวันนี้ (22 กรกฎาคม 2568) เสี่ยโบ๊ท ไม่ปล่อยให้ประเด็นบานปลาย ได้ออกอัดคลิปชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมควงคู่มากับ "ปลาคราฟ" หรือ แพรวพราว เพชรยินดีอะคาเดมี่ นักมวยผู้เป็นศูนย์กลางของคลิปดราม่า เพื่อชี้แจงทุกข้อสงสัยและยุติกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

ทั้งเสี่ยโบ๊ทและปลาคราฟได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เสี่ยโบ๊ท ได้เริ่มต้นอธิบายถึงเจตนาเบื้องหลังการกระทำในวันนั้นว่า เป็นเพียง "การกระตุ้น" และ "เรียกสติ" ของนักมวยในสถานการณ์ที่ตึงเครียดของการแข่งขัน

 

"ผมเข้าใจดีว่าภาพที่ออกมาอาจดูรุนแรง และผมต้องขอโทษทุกคนที่เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจครับ" เสี่ยโบ๊ทกล่าว "แต่ในจังหวะนั้น นักมวยอาจจะหลุดโฟกัสไปบ้าง ผมในฐานะโปรโมเตอร์และผู้ดูแล ก็ต้องหาวิธีที่เร็วที่สุดในการดึงเขากลับมา ซึ่งการตบเบาๆ ที่หน้าแบบนั้น เป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้กันในวงการมวย เพื่อให้เขากลับมามีสมาธิและทำหน้าที่บนเวทีได้อย่างเต็มที่ครับ"

 

ด้าน "ปลาคราฟ เพชรยินดีอะคาเดมี่" นักมวยที่ถูกตบหน้าในคลิป ก็ได้ออกมายืนยันด้วยตนเองว่า ไม่ได้รู้สึกว่าถูกทำร้ายหรือถูกดูหมิ่นแต่อย่างใด

 

 

 

ทั้งนี้ในคลิปดังกล่าว เสี่ยโบ๊ทจะกล่าวขอโทษ ที่เกิดความไม่สบายใจหลังเห็นคลิป โดยระบุว่า “ขอโทษแล้วกันสำหรับคนที่ไม่สบายใจ แต่ว่าการเป็นอยู่ของนักมวยมันเป็นกันแบบนี้จริง ๆ เพราะมันเป็นการต่อสู้ มันเป็นกีฬาที่ต้องใช้จิตใจเพื่อที่จะขึ้นไปต่อสู้กับคู่ต่อสู้บนเวที แต่ก็แน่นอนว่าคนที่เห็นภาพเขาก็เป็นห่วงอ แต่อยากให้เชื่อเถอะว่า เราอยู่กันมาแบบนี้ เลี้ยงดูกันมาแบบนี้ ไม่เกี่ยวกับผลแพ้ชนะ ไม่เกี่ยวกับที่ว่าเล่นปลาคราฟแล้วเสียตังค์ เพราะผมไม่ได้เล่นอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับอะไรเลย แค่เหตุผลเดียว คือ ไม่อยากให้เขาเจ็บ ไม่อยากให้เขาออกไปแล้วต้องเห็นเขาโดนยำ ถ้าเห็นภาพนั้นจะเป็นภาพที่สะเทือนใจยิ่งกว่าที่ผมตบเขา 2 ครั้งแน่นอน”