หลักฐานพร้อม! "เจได" สามี "นิ้ง โศภิดา" จ่อฟ้อง คนแช่งลูกเมีย เซ่นดราม่า | คมชัดลึก

 

ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง สำหรับ "เจได ไตรนุภาพ" สามี "นิ้ง โศภิดา" หลังเจอดราม่า "ถ้าลูกกับสามีจมน้ำพร้อมกัน แล้วคุณช่วยได้ 1 คน คุณจะเลือกใคร"

 

แม้ว่า "นิ้ง โศภิดา" จะออกมาชี้แจงแล้วว่า เป็นการทำ counseling ก่อนแต่งงาน และวางแผนการใช้ชีวิตคู่ และในรายการของ "วู้ดดี้" ได้มีการยกตัวอย่างคำถาม ซึ่งเป็นเรื่องของ priority การจัดลำดับความสำคัญของชีวิตคู่ 

 

เนื่องจากทั้งคู่เป็นคริสเตียน การสร้างชีวิตคู่สำคัญมาก ไม่ควรที่จะจบด้วยการหย่าร้าง เมื่อตัดสินใจที่จะแต่งงานกันแล้ว สามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกัน 

 

 

 

ทำไมนิ้งเลือกสามี เป็นคำถามเชิงจิตวิทยา ที่ตอนนั้น นิ้งคิดถึงความสำคัญของชีวิตคู่ ถ้าเราให้ฐานะพ่อแม่ ดูแลซึ่งกันและกัน แสดงความรักที่มีต่อหน้าลูก ใส่ใจสามีในวันที่สุขและทุกข์ และเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น จะสร้าง foundation (รากฐาน) ที่มั่นคงให้กับลูกในด้านอารมณ์ ความรัก และ self esteem   

 

และที่บอกว่าเพราะสามีจะอยู่ด้วยกันยามแก่ ในความคิดของนิ้งเมื่อลูกโตไปเขาต้องมีชีวิต และสร้างครอบครัว เราเลือกสามีคนนี้คือคู่ชีวิต ไม่ว่าวันเวลาอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่สัญญาที่ให้ไว้ในวันแต่งงาน คือจะรักจนกว่าพระเยซูจะรับเราไป 

 

 

 

แต่กระแสดราม่าก็ยังคงโจมตีไม่จบ ร้อนจน "เจได ไตรนุภาพ" สามี "นิ้ง โศภิดา" ออกมาปกป้องครอบครัว ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Trinupab Jediah Jiratritarn ระบุว่า..

 

"ตอนแรกนึกว่าจะจบนะครับ และคนส่วนมากคือไม่ได้ฟังข้อความเต็มๆเลย แล้วมาลามปามถึงลูกของผม เหตุการณ์คำถามที่เกิดขึ้นคือ "ก่อนที่เราจะแต่งงาน" เพื่อดู mindset ของพวกเราสองคน ว่าจะอยู่ร่วมกันได้หรือไม่ และไม่ให้ครอบครัวพัง

 

P'Woody ถามพวกเราว่าตอน ก่อนแต่ง (เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว) เขาทำอะไรบ้าง เราจึงเล่าให้พี่ Woody ฟังทั้งหมด

 

แต่ในฐานะเราที่เป็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว การที่คุณมาแช่งลูกผมให้หรือภรรยาผมให้ตาย หรือให้พวกเราเลิกกัน....โห พวกคุณเกินไปแล้วนะครับ ผมมี cap หน้าจอไว้หมดแล้ว และจะดำเนินคดีกับทุกๆคนที่ไม่หยุด และ ไม่ขอโทษนะครับ

 

ตอนแรกจะไม่ฟ้องนะครับ แต่ตอนนี้มันเลยเถิดมามากแล้ว และการเอาภาพของลูกผมไปใช้โดยที่ไม่บอกซักคำผมเข้าใจว่าคุณมีอิสระภาพให้ทำ แต่คุณควรจะแยกแยะ และ ขอกันซักนิด ขอเตือนอีกครั้ง ไม่หยุด ผมกับครอบครัวดำเนินคดีครับ ในมุมสื่อผมเข้าใจนะครับ อยากได้ views อยากได้ยอด มันคือธุรกิจ แต่ควรแยกแยะให้ออกนะครับ"

 

พร้อมคอมเมนต์ใต้โพสต์ของตัวเองเพิ่มเติมว่า..

• ผมเสียใจกับสังคมไทยมากๆ ไม่กล้าดูหมด เพราะเสียใจหากใครมีหลักฐานเพิ่มเติมฝากส่งมาให้ทาง inbox นะครับ
• ไปออก ไปแชร์เพื่อจะได้ให้ครอบครัว แตกแยก น้อยลง ถ้าฟังพวกเราให้จบ.... กลับกลายเป็นแบบนี้...เสียใจครับ