บันเทิง

"เป้ย ปานวาด" ร้องไห้ เจอศัลยกรรมทำพิษ ยกเลิกงาน 3 เดือน

"เป้ย ปานวาด" ร้องไห้ เจอศัลยกรรมทำพิษ ยกเลิกงาน 3 เดือน

19 มิ.ย. 2568

คือแย่มาก! "เป้ย ปานวาด" เล่าประสบการณ์ศัลยกรรมทำพิษ ฉีดใต้ตาเจอปัญหาหนัก จนร้องไห้ ไม่กล้าไปไหน ยกเลิกงาน 3 เดือน

 

ยอมรับว่าเคยเสียน้ำตาเพราะพิษศัลยกรรม จนต้องยกเลิกงานไปนานถึง 3 เดือน สำหรับคุณแม่สุดแซ่บ "เป้ย ปานวาด เหมมณี" โดยเธอเล่าประสบการณ์ศัลยกรรม ในฐานะพรีเซนเตอร์ AM International Hospital ถึงขั้นเสียความมั่นใจจนไม่กล้าออกจากบ้าน 

 

ตอนนั้นเป็นยังไงบ้างกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ?
แย่มาก คือแย่มาก (โดนยังไงมา ?) มันผิดพลาดตรงที่ว่า เราก็หวังใจว่าตอนทำมันก็คงดี พูดแต่ในมุมดีดีแง่ดีดี ไม่ได้พูดถึงไซด์เอฟเฟคอะไรเลยซักอย่าง หรือว่ามันจะเกิด หนึ่ง สอง สาม หรือถ้าเกิดแบบนี้เราจะ ให้คุณ คือไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างมีแต่ข้อดีหมด เราก็คือมนุษย์คนนึงที่เราอยากสวย

 

แล้วพอเขาพูดมาปุ๊บ เราก็มีวาดฝัน วาดฝันว่ามันจะต้องดีอย่างที่บอก แต่ผลสุดท้ายคือมันแย่มาก ทุกคนอาจจะไม่เคยรู้เพราะว่าไม่เคยออกมาบอก แล้วเราก็มองว่าเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ที่เวลาเราเลือกที่จะทำอะไร ที่ไหน เราต้องศึกษาดีดี ก็ยังอย่างที่บอกพอเกิดเหตุอย่างนี้แล้วก็เสียใจมากๆ ไม่รู้จะหาใคร ก็เลยมาปรึกษาหมอเมฆ

 

 

 

ตอนนั้นเป็นที่ส่วนไหน ที่มันเป็นปัญหา ?
ใต้ตาค่ะ ใต้ตาเลย (เป็นการฉีดหรือว่ายังไง ?) คือทำใต้ตาแล้วแย่มากๆ แล้วก็ไม่รับผิดชอบอะไรด้วย คืออย่างน้อยเราก็อยากได้คำพูดดีดี เหมือนกับว่ากลับมานู่นนี่นั่นอะไรอย่างนี้ไหม แต่คือไม่มีอะไรเลย

 

ไซด์เอฟเฟคมันทำให้เรากระทบกับงานหรือออกไปไหนไม่ได้อะไรอย่างนี้ไหม ?
ใช่ เป้ยหยุดรับงานไป คือขั้นตอนการทำก็ต้องรักษาตัวไปประมาณเดือนนึงอยู่แล้ว แล้วคือมันทำออกมาไม่ดี กลายเป็นว่าเราต้องยืดเวลาไปถึงเกือบสามเดือน ช่วงนั้นคือเป็นช่วงที่เพิ่งจบละคร แล้วมีงานเข้ามาเยอะมาก กลายเป็นว่าเราต้องแคนเซิลทุกอย่าง

 

\"เป้ย ปานวาด\" ร้องไห้ เจอศัลยกรรมทำพิษ ยกเลิกงาน 3 เดือน

 

คำตอบที่เขาให้มาคืออะไร ?
เหมือนแบบก็มันเป็นเพราะอย่างนี้ๆ มันก็เลยเกิดอย่างนี้ๆ อ้าวแล้วทำไมตอนแรกมันไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย (แสดงว่าเขาโทษเราหมดเลย ?) คือ อาจจะเป็นเพราะร่างกายของคุณ คือเข้าใจได้ว่าทุกอย่างมันอาจจะเป็นไปอย่างที่คิด แต่ว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ใช่อะไรที่มันเป็นคำพูดที่มันทำให้เรายิ่งบั่นทอนหรืออะไรอย่างนี้

 

คือเขาไม่ได้พูดในแง่ของการแก้ไข ?
เขาไม่พูดเลย อ๋อ เขาพูดการแก้ไข อย่างนี้ก็ต้องกลับไปทำแบบเดิม ซึ่งเอ๊า ก็ไม่ได้อยากได้แบบเดิม แต่ทั้งหมดทั้งมวลเข้าใจได้ ตรงนี้ที่ออกมาพูดไม่ได้ว่าว่าใคร อันนี้คือเป็นการเรียนรู้ของเรา ประสบการณ์ตรงของเรา ก็แค่จะบอกว่า คือเรามารู้จักกับหมอ แล้วก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์ทุกวันนี้เพราะว่าเหตุนี้

\"เป้ย ปานวาด\" ร้องไห้ เจอศัลยกรรมทำพิษ ยกเลิกงาน 3 เดือน

แล้วตอนนั้นไม่นอยด์เหรอ เพราะต้องใช้หน้าตา ?
นอยด์ นอยด์ นอยด์ ก็เป้ยก็หยุดรับงานไปเลย เวลาลงรูปไอจีที่เป็นงาน ก็กลายเป็นว่าเป้ยก็ต้องเข้าแอพหนักเหมือนกัน

 

เป้ยคิดว่าเราจะกลับมาสวยเหมือนเดิมได้ไหม ณ วันนั้น ?
ไม่คิดเลย ไม่คิดเลย แล้วก็ถึงทุกวันนี้ก็ยังบอกทุกๆคน ว่าต้องศึกษาดีๆนะอะไรอย่างนี้ แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็จะแนะนำหมอตลอด

 

ตอนนั้นเราฮีลตัวเองยังไงบ้าง เพราะเราจิตตก งานมันกำลังมา ?
จิตตกเลย โห ตอนนั้นคือแย่เหมือนกันอ่ะ แล้วก็คือก็ร้องไห้ มันคือใต้ตาของเราอ่ะ คือหลายๆ คนก็ชอบดวงตาเราใช่ไหม แล้วพอจุดนี้มันไม่โอเค มันก็สูญเสียความมั่นใจ

 

หมอเขามีกระบวนการวิธีการแก้ไขยังไง ให้มันกลับมา ?
เขาเติมฟิลเลอร์ให้เรา เพราะตอนนั้นมันโบ๋มาก โบ๋เลย แล้วก็ห้อยเป็นคนแก่ไปเลย

 

ย้อนกลับไปเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นนานหรือยัง ?
สักพักใหญ่แล้วอ่ะ เป็นปีแล้วค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงละครสงครามสมรสเพิ่งจบเลย แล้วมันเป็นช่วงที่เราต้องออกมาโปรโมทละคร เป็นช่วงที่งานเข้ามา รายการเข้ามาเยอะมาก กลายเป็นว่าเป้ยต้องบอกทางช่องขอโทษจริงๆ แล้วก็เอารูปให้เขาดูเลยว่ามันเป็นอย่างนี้ เกิดขึ้นอย่างนี้กับเป้ย ทางช่องก็เลยเข้าใจ

 

ถ้าต่อไปจะต้องทำศัลยกรรมอีก ต้องเติมอย่างนี้อีก มันมีความกลัวในใจอะไรไหมว่าจะเกิดอะไรอีก ?
คืออย่างที่บอก อันนี้ไม่ได้ขาย แต่ว่าเราเจอคุณหมอที่เหมือนคุยกันถูกจริต แล้วเขารู้อยู่แล้วว่าเราต้องการแค่ไหน เราต้องการเท่าไหร่ เราไม่ได้ต้องการที่มันแบบ เหมือนเราอยากเป็นเราที่เหมือนเดิม ไม่ได้อยากเปลี่ยน ฉะนั้นก็คุยกันได้ แล้วหมอเมฆก็โอเคกับตรงนี้ เวลาเขาเติมให้เป้ย เขาก็จะเติมทีละนิด อย่างเมื่อก่อนทุกคนจะเห็นเป้ยเป็นหน้ากลมๆ หัวเถิกๆ ไม่มีคาง คุณหมอเมฆก็เติมคางให้เป้ย ก็เลยเป็นสัดส่วนที่มันโอเคขึ้น

 

เวลาที่เป้ยจะทำตอนนี้ ก็คือต้องเป็นคนที่เราไว้ใจเท่านั้นแล้ว ?
ก็เรารู้สึกว่าเราไว้ใจหมอเมฆ ก็ทำกับเมฆค่ะ อันนี้ไม่เคยบอกใครเลยอ่ะ เป็นที่แรกเลย เรามีความรู้สึกว่าคือเราอยากบอกแล้วว่าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้มา แล้วก็อยากให้เป้ยเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนในการเป็นกรณีศึกษาเวลาที่เราจะไปทำคลินิกที่ไหนก็ตาม ศึกษาดีๆ สอบถามดีๆ

 

แล้วตอนนั้นไม่ได้คิดอยากจะฟ้องร้องหรืออะไรเลยเหรอ ?
ไม่ได้คิดเพราะว่า คือเราไม่อยากไปโทษคนอื่น ถ้าสุดท้ายอย่างที่บอกมาการเรียนรู้

\"เป้ย ปานวาด\" ร้องไห้ เจอศัลยกรรมทำพิษ ยกเลิกงาน 3 เดือน