"มาร์กี้" เคลียร์ชัด โดน "ป๊อก ภัสสรกรณ์" บังคับสักจริงหรือเปล่า? | คมชัดลึก

 

นางเอกตัวท็อป มาร์กี้ ราศรี มาเปิดใจที่แรก หลังหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิมนานกว่า 2 ปีแล้ว และอัปเดตลูกแฝด น้องมีก้า - น้องมีญ่า วัย 6 ขวบ ที่ทั้งแสบ และซน อีกทั้งยังเคลียร์ข่าวโดนสามี ป๊อก ภัสสรกรณ์ บังคับให้สัก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

 

ตอนนี้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง?

มาร์กี้ : เรื่อยๆ นะคะ มันจะมีวันที่ยุ่งวุ่นวายบ้าง วันที่ไม่มีอะไรทำเลยทั้งวันก็มี แต่ถ้าเราว่างนานๆ เราก็จะเริ่มหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย

 

ล่าสุดน้องสาวถูกคุกเข่าขอแต่งงาน?

มาร์กี้ : ใช่ จำไม่ได้ว่าเค้าคบกัน 6-7 ปี สุดท้ายขอแต่งงานแล้วเรียบร้อย

 

โมเมนต์วันนั้นเป็นยังไงบ้างในฐานะที่เราเป็นพี่สาว?

มาร์กี้ : เราก็ดีใจ อยากให้ทั้งคู่ก้าวไปอีกขั้น การเป็นแฟนกับการเป็นสามี-ภรรยา มันไม่ได้เหมือนกัน อาจจะคล้าย แต่ว่ามันไม่เหมือนกัน 100%

 

หลายคนคิดถึง ไม่เห็นผลงานมานานมาก จริงๆ หมดสัญญากับที่เดิมมา 2 ปีแล้ว มีแพลนยังไงบ้างกับชีวิต?

มาร์กี้ : จริงๆ กี้ไม่ได้แพลนอะไรที่เป็นกิจลักษณะขนาดนั้น แต่ถามว่ายังอยากเล่นละคร เล่นซีรีส์ หรืออยากเล่นหนังอยู่ไหม ไม่ได้ปิดกั้นนะ สามารถเล่นได้ ขออย่างเดียวคืออย่าใช้คิวเยอะ แต่โชคดีเดี๋ยวนี้การถ่ายซีรีส์มันเริ่มน้อยลงแล้ว มี 7-8-9-10 ตอน จะอยู่แค่นี้ แต่ก่อนเราถ่ายละคร 80 คิว 120 คิวก็เคยเจอมาแล้ว เราถ่ายตั้งแต่เช้า เสร็จ 4 ทุ่ม นี่ไม่เกินคิวนะ ถ้าเกิน 5 ทุ่มบ้าง เที่ยงคืนบ้าง ชีวิตเราหายไปกับตรงนั้น อาทิตย์ละ 4 วันเลยไม่ได้เจอหน้าลูกเลย มีช่วงนึงกี้ถ่ายละครตอนเค้าประมาณ 2 ขวบ ไม่ได้เจอหน้าเค้าเลย 3 วัน พอเรามาถึงเค้าหลับแล้ว เราออกเค้ายังไม่ตื่น แต่เราสามารถรับได้สักแบบ 20 - 30 คิวให้มันเสร็จไปเลย คือถ้าเราหายไปจากเค้า แบบไปทำงานเมืองนอกสักอาทิตย์นึงกลับมาเค้าจะไม่ติดเราเหมือนกับที่เราอยู่ด้วย เลยไม่อยากห่างเขานานๆ 

เราคัดในเรื่องการทำงานมากขึ้น เกี่ยวไหมที่ทำให้เราไม่ต่อสัญญา?

มาร์กี้ : จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวนะตะ ทำงานที่ไหนก็ได้ แต่เราไม่ได้ทเว้นตี้โฟร์เซเว่นให้เข้าได้ขนาดนั้น ตอนที่เรามีสัญญา เราไม่ปฏิเสธอะไรเลย ถ้าเรายังมีสัญญาอยู่ เราก็ยิ่งไม่กล้าปฏิเสธ แต่ต่อให้ไม่มีสัญญา แต่ถ้ามีอะไรเราก็เหมือนเดิม แต่ถ้าที่อื่นติดต่อมาเราก็ดูตามบท กี้ไม่ค่อยยึดติด ว่าเราต้องเล่นเป็นนางเอกอย่างเดียว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ตัวละครไม่ได้มีแค่นางเอก พระเอก ต้องได้กันตอนจบเสมอไป มันมีอะไรอีกหลายอย่างที่มันสนุกได้มากกว่านั้น

 

กี้ไม่ได้เล่นละครนานแค่ไหนแล้ว  หลายคนเค้าลืมไปแล้วคิดว่ากี้ออกจากวงการ แล้วไปเป็นคุณแม่?

มาร์กี้ : ไม่สามารถเลี้ยงลูกอย่างเดียวได้จริงๆ แต่ก่อนเราเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เราไม่สามารถทำอะไรอย่างเดียวได้ เหมือนคนบ้าชอบทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน

 

กี้แต่งงานกับคุณป๊อก คุณก็เข้าใจว่านี่เป็นภาพพจน์คุณนาย ฉันจะสวยๆ ไม่ทำงานแล้ว?

มาร์กี้ : จะคิดว่าไม่กล้าจ้าง ค่าตัวแพงขึ้นหรือเปล่า จะทำไหม จริงๆ กี้ไม่ได้วัดจากตัวเงิน ถ้าเราแฮปปี้ สนุก ก็โอเคเลย ไม่ได้เกี่ยงเรื่องตัวเงิน

 

ตอนนี้ลูกอายุเท่าไหร่ ?

มาร์กี้ : เพิ่ง 6 ขวบไปไม่นานนี้ 

 

รีวิวลูกทั้งสองคนหน่อย ?

มาร์กี้ : พลังเยอะมาก เค้าเพิ่งปิดเทอมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่งปิดไปได้แค่ 3 วันเอง บอกว่าเบื่อมาก อยู่บ้านมันไม่มีอะไรทำเลย จะทำอะไรดี แล้วก็นอน คือต่อเลโก้ก็แล้ว ดูทีวีก็แล้ว ออกไปปั่นจักรยานหนึ่งรอบ แล้วกลับไปดูทีวีต่อ ขึ้นไปหาพ่อที่ฟิตเนส กลับมาต่อเลโก้ ทั้งหมดนี้ชั่วโมงเดียว

 

ช่วงมีก้าเป็นยังไง เหมือนพ่อมาก?

มาร์กี้ : ลูกชายเค้าค่อนข้าง เหมือนชอบบงการชีวิตคนอื่น เจ้ากี้เจ้าการ เดี๋ยวสอนให้หม่ามี้ อันนี้ต้องทำแบบนี้นะ เค้าจะชอบยุ่งเรื่องคนอื่น อธิบายไม่ถูก เวลาไปงานโรงเรียนบ่อยมากที่เราต้องทำงานของตัวเอง ให้พ่อ แม่ มานั่งทำกิจกรรมด้วยกัน ทำอะไรซักอย่างร่วมกันอันนึง แป๊บนึงวิ่งไปหาคนอื่นแล้ว ต้องเอากลับมา แล้วบอกไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านลูก เค้าจะทำยังไงก็เรื่องของเค้า ประจำเลย ส่วนมีญ่า เค้าค่อนข้างมีสมาธิ เรียบร้อย ไม่ดูว่าคนอื่นอะไรยังไง เค้าจะอยู่ของเค้า

ทะเลาะกันบ้างไหม ?

มาร์กี้ : ทะเลาะกันทุกวัน เถียงกัน ฉันขอดูอันนี้ อยากดูทีวี แล้วก็จะให้เค้าเจรจากันเองว่าวันนี้ใครจะเป็นคนถือรีโมท ก็จะเจรจากันได้บ้าง ไม่ได้บ้าง 

 

เวลาทะเลาะกันขึ้นมาจริงๆ  จัดการยังไง?

มาร์กี้ : แล้วแต่สถานการณ์ จะให้เป่ายิงฉุบบ้างว่าใครได้เริ่มก่อน การมีลูกแฝดมันยากตรงที่ว่า ทำไมถึงเข้าข้างคนนั้น ทำไมถึงให้คนนี้ก่อน เอาอะไรมาวัด คือบางทีทุกสถานการณ์มันไม่สามารถมีเหตุผลได้เสมอไป แล้วบนโลกใบนี้มันไม่มีอะไรเท่าเทียม ใจนึงเราก็อยากให้เขาได้เท่าเทียมนะ แต่เรารู้ว่าโตขึ้นมามันไม่ได้มีอะไรเท่าเทียม แขนซ้าย แขนขวาเรายังไม่เท่ากันเลย เลยไม่อยากปลูกฝังถึงความเท่าเทียมเป๊ะๆ  ยังไงมันก็ต้องมีอะไรที่อีกฝั่งหนึ่งได้เยอะกว่า ก็พยายามให้เค้าเข้าใจ บางอย่างมันไม่สามารถใช้เหตุผลมาวัดได้ อาจจะใช้เรื่องดวง แบบเป่ายิ้งฉุบ จับฉลาก

มีเพจนึงจัดอันดับ คุณมาร์กี้ ติดอันดับ top3 ของคนในวงการบันเทิงที่รวยที่สุด?

มาร์กี้ : ไม่น่าจะใช่กี้มั้ง น่าจะคุณป๊อกมากกว่า

 

เขาเลยบอกว่าอยากมีอาชีพเป็นมาร์กี้?

มาร์กี้ : กี้ได้เห็น และคนที่เอามาให้ดูคือพี่ป๊อก ตอนแรกเครียดมากเลยนะ คือมันเป็นส่วนของคุณพ่อให้ต่อมา เค้าเลยถือว่าอันนี้ยังไงก็เป็นส่วนของคุณพ่อ

 

กี้ปลอบใจเค้ายังไง?

มาร์กี้ : กี้บอกอย่าไปซีเรียส ข่าวมันจะยังไงก็ได้ เรารู้ตัวเรา แล้วคุณพ่อรู้ คนในครอบครัวรู้ก็โอเค

 

มันกดดันไหมที่คนจับจ้องว่าเรารวย แล้วเราก็แต่งงานกับคนรวยมากๆ?

มาร์กี้ : กี้เป็นคนไม่ค่อยซีเรียส แต่ก่อนรู้สึกไหม ก็จะรู้สึกนิดๆ ตอนแต่งงานใหม่ๆ ก็จะชอบโดนแซว เวลานั่งรถตู้ไปกอง คือแต่ก่อนกี้ไม่เคยนั่งรถตู้ไปกองเลย เพราะว่าไม่มีคนขับรถ เรารู้สึกว่าเป็นภาระของเราที่เราต้องไปดูแลคนขับรถ เค้าจะกินข้าวที่ไหนเวลาไปกอง กี้สะดวกขับรถไปเอง เค้าจะบอกว่าเอาคนขับรถไปก็ได้ แต่พอไปถึงก็จะโดนแซวว่าคุณนาย แอบรู้สึกหงุดหงิดนิดนึงว่าทำไมต้องมาแซวแบบนี้ หรือว่าบางวันขับรถพี่ป๊อกไป หรืออะไรหลายๆ อย่าง บางทีกี้ใส่กำไลไปแต่เราซื้อเอง คนก็คิดว่าสามีซื้อให้ แต่ตอนนี้กี้เฉยๆ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาเลย เรารู้ คนในครอบครัวรู้ ใครจะพูดอะไรเราเฉยๆ เลยไม่ได้สนใจเรื่องตรงนั้นเท่าไหร่

มีชาวเน็ตบอกว่ากี้โดนบังคับให้สัก?

มาร์กี้ : เขาไปต่อว่าพี่ป๊อกบอกว่าเนี่ยตัวเองสักก็เยอะแล้ว ทำไมต้องไปบังคับให้ภรรยาสัก พี่ป๊อกก็บอกคนนี้บังคับได้ซะที่ไหน กี้เชื่อว่าของแบบนี้ 90% น่าจะตัดสินใจเอง มันคือศิลปะอย่างนึง แล้งแต่คนชอบ ของกี้ไม่ได้ทำงานลำบากด้วย เพราะแทบจะไม่เห็น

 

มีอยากจะสักอะไรเพิ่มอีกไหม?

มาร์กี้ : รอยสักแรกที่อยากสักเลย แต่ว่ายังหาช่างสักที่ถูกใจไม่ได้ คืออยากสักชื่อคุณพ่อไว้ คุณพ่อเสียไป 15 ปีได้แล้ว แต่ว่าชื่อแกค่อนข้างยาว เราเลยหาช่างสักที่ไม่บางจนเกินไป ไม่หนาเกินไป เลยยังไม่มีโอกาสได้สักอันนั้น

 

หลายคนรอติดตามผลงาน อยากบอกอะไรกับแฟนคลับ?

มาร์กี้ : ส่วนมากผลงานกี้จะอยู่ทางออนไลน์ จะมีอินสตาแกรม มียูทูบ ติ๊กต๊อก 3 ช่องทางนี้หลักๆ แล้วจะมีเฟซบุ๊กอีกอัน ส่วนซีรีส์ หนัง ตอนนี้ยังไม่มี ก็รอดูอนาคตจะเป็นยังไง