"ต้อม รัชนีกร" ศาลรับฟ้อง ปม!พิษศัลยกรรม แต่เจอฟ้องกลับ 100 ล้าน | คมชัดลึก

สร้างความฮือฮาไม่น้อยในวงการบันเทิง เมื่อ “ต้อม รัชนีกร” นักแสดงหญิงมากฝีมือ ตัดสินใจกลับมารับงานละครอีกครั้ง หลังห่างหายจากหน้าจอไปนานถึง 2 ปีเต็ม โดยเจ้าตัวเผยสาเหตุที่ต้องเว้นวรรคจากวงการ เพราะประสบปัญหาจากการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาด จนสูญเสียความมั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่จะออกจากบ้านหรือพบเจอผู้คน

 

 

เห็นว่าวางแผนเรื่องการกลับมารับละครหลังทิ้งช่วงไป ?

ต้อม รัชนีกร : ทิ้งช่วงไปประมาณ 2 ปีกว่า เกือบ 3 ปี ตอนนี้กลับมาแล้ว คิดถึงเหมือนกันตอนนี้ก็เป็นไปตามยุคสมัย แต่ละครแนวตั้ง ซีรี่ส์วายยูริ จากที่ก่อนหน้านี้ตัดสินใจไม่รับละครมาปีกว่า ตอนนี้ก็รับเรียบร้อยแล้ว 

 

อึดอัดไหม 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เล่นละคร?

ต้อม รัชนีกร : อึดอัดมาก บางทีเห็นคนอื่นเล่นละครก็อยากเล่นเนอะ แต่เรายังไม่มีความรู้ว่าเล่นได้หรอ คือหน้าตาเราก็ไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจว่าตัวเองแอ็คติ้งออกไปจะเป็นยังไง เอาง่ายๆ ทุกอย่างมันอยู่ในแววตา จะเศร้าจะเสียใจ แต่อันนี้มันสายตาเดียวเลย แล้วก็เอ๊ะจะเล่นละครได้มั้ย คือที่ไม่กล้ารับเพราะนัยตามันแอ็คติ้งไม่ได้ ดีใจเสียใจตาเดียวกันหมด เวลาพูดมันก็จะเหมือนว่าเราติดอ่าง เพราะมันสั่งการให้พูด มันจะเกิดการงับคำบางเวลาพี่ทำไม่ได้ มันต้องมีการประดิษฐ์คำ ประมวลไม่ให้ปากห้อย เพราะขากรรไกรข้างล่างยังชาอยู่ 

 

ถ้าเทียบกับแต่ก่อนตอนนี้ดีขึ้นกี่เปอร์เซ็น?

ต้อม รัชนีกร : ตอนนี้ก็ยังชาอยู่ แต่ก็ดีกว่าช่วงนั้น 

 

 

วิถีชีวิตในการรับประทานอาหารเปลี่ยนไปเลย ?

ต้อม รัชนีกร : เปลี่ยนไปเลย อย่างที่เรากินข้าวเหนียวได้ซักประมาณ4-5 คำก็ไปไม่รอดแล้วเพราะมันปวด เคี้ยวแล้วปวด แม้แต่แคบหมูแล้วเคี้ยวลำบาก ถามว่ากินได้ไหมกินได้แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการสั่งการ อะไรที่มันเหนียวนิดนึงมันจะกัดไม่ขาดเพราะยังมีความชาอยู่นิดนึง

 

 

เคยไปปรึกษาคุณหมอไหมว่าปัญหาทางช่องปากเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ต้อม รัชนีกร : ก็ปรึกษามาตลอด เอาแค่ปัญหาอุดฟันเราใช้เวลาสองปีกว่าถึงอุดเสร็จ เพราะว่ามันอ้าปากไม่ได้นาน เพราะเวลาอุดฟันมันต้องใส่ยา ก็ต้องค่อยๆ ทำ เพราะคุณหมอกลัวอันตราย โดยใช้เครื่องช่วยถ่างทำฟัน พอตอนทำก็ต้องหลอกหมอว่าฟันเราสมบูรณ์แล้วซึ่งจริงๆแล้วมันเจ็บแต่เราไม่อยากทำแล้ว เจ็บไปถึงเบ้าตา เราเลยลองกลับบ้านแล้วลองเชียวเคี้ยวดู ปรากฏว่าอยู่ได้แค่อาทิตย์เดียวก็ไม่ไหวแล้วแต่ก็ไม่ได้กลับไปโรงพยาบาลหาคุณหมอท่านเดิมนะ กลับคลินิกข้างบ้านให้เค้าช่วยกรอให้ ก็ไปเจออีกว่ามีฟันผุอยู่หลังซีกท้าย คุณหมอก็อยากทำฟันกรามให้แต่หมอไม่มั่นใจว่าทำได้หรือเปล่า หมอเลยอยากให้ติดต่อหมอเฉพาะทางดีกว่า

 

 

พูดถึงใบหน้าตอนนี้อยากแก้ตรงไหนหรือทำอะไรเพิ่มเติมมั้ย ?

ต้อม รัชนีกร : คือแก้มต้องแก้อยู่แล้ว มันตึงแบบนี้ไม่ได้เลย มีอยู่วันนึงเราขยับคิ้วมันจี๊ดไปถึงข้างบนสมอง ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ คือมีคุณหมอหลายท่านติดต่อมาหมอที่เกาหลีก็ติดต่อมา อยากแก้ให้ ถามว่าใจอยากแก้ไหมอยากแก้มาก เอาว่าส่องกระจกทุกวันก็ยังรับตัวเองไม่ได้อยู่ดี เราคิดว่าเราจะแอ็คติ้งแต่ก็ไม่ได้อยู่ดี หน้าธรรมดาอาจจะคิดว่าสวยแต่มันยิ้มไม่ได้ ตอนนี้แฟนคลับมาขอถ่ายรูป ก็จะยิ้มแบบไหนที่ไม่ให้ตาเป็นอวกาศ มันพล่าไปหมดเราก็ใช้คำพูดไม่ถูก พอไปหาคุณหมอก็เจอคนที่ใส่ชุดผ่าตัด เราก็รู้สึกใจสั่นตัวสั่นจะแก้ได้ไหม ตอนนี้ก็รู้สึกว่ามีวิธีไหนบ้างที่เราไม่ต้องดมยา สลบ คือมันกลัวตรงนี้ไปแล้ว

 

 

ใช้เวลาดมยาไปเท่าไหร่ ที่นอนไปไม่รู้ตัว ?

ต้อม รัชนีกร : รอบแรกที่ตัดกราม 11 ชม. รอบสองที่ไปดึงหน้าใช้เวลา 21 - 22 ชั่วโมง 

 

 

พอไปทำกับอีกโรงพยาบาลก็เลย มีเรื่องฟ้องร้องอย่างที่เป็นข่าว ล่าสุดศาลรับฟ้องแล้ว?

ต้อม รัชนีกร : ใช่ค่ะ ทั้งแพ่งและอาญา ก็ประทับรับฟ้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพ่งอย่างที่ทราบกว่าจะดำเนินการนานหน่อย แต่ก็ต้องมาสู้กัน เพราะเราฟ้องทั้งเจ้าของโรงพยาบาลแล้วก็คุณหมอที่ทำ

 

 

 

เห็นว่าทางทนายฝั่งนั้นส่งจดหมายข้อความหาด้วย ?

ต้อม รัชนีกร : เค้าบอกว่าเราทำโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย ถ้าไม่หยุด ณ.ตรงนี้ จะฟ้องกลับ 100 ล้าน อันนี้คือส่งจดหมายมาว่าตั้งแต่กลางปีที่แล้ว หลังจากหลังจากที่เราฟ้องแพ่งไปเค้าก็ส่งจดหมายมา 

 

 

ไม่กลัวหรอตั้ง 100 ล้าน?

ต้อม รัชนีกร : ไม่รู้สิ.. แต่ว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพ่งที่มันยืดเยื้ออยู่แล้ว เรื่องสัญญาต้องเอาหลักฐานมาโชว์ มั่นใจว่าหลักฐานก็ช่วยได้

 

 

กลัวไหมเพราะมาออกรายการและการฟ้องร้องเขาจะยิ่งเรียกเยอะขึ้น?

ต้อม รัชนีกร : เราออกมาพูด ณ.  ตอนนี้ว่าเราทำอะไรอยู่ เค้าสัมภาษณ์มา แล้วตอบกลับไป อาญากับประทับรับฟ้องแล้วนะ เราก็ทำตามขั้นตอนต่อไป เอาทุกอย่างมาคุยกันบนชั้นศาล