
ช็อก! "เบสท์ ชนิดภา" เจอหลอกโอนเงิน 1.2 ล้าน ช้ำใจ โดนด่าสวยแต่โง่
นักแสดงสาว "เบสท์ ชนิดภา" เปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพ ปั่นหัวหลอกโอนเงินกว่า 1.2 ล้าน! ช้ำถูกบูลลี่ สมน้ำหน้า สวยแต่ไม่ฉลาด
“เบสท์ ชนิดาภา” นักแสดงสาวสุดโชคร้าย ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินมากกว่า 1.2 ล้าน เผยกลวิธีแยบยลของมิจฉาชีพที่ทำงานกันเป็นทีม ปั่นหัวให้ต้องสูญเงิน พร้อมเปิดใจชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์สมน้ำหน้า สวย รวย แต่ไม่ฉลาด ถูกบูลลี่เรื่องการศึกษา เบสท์เครียดถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ วันนี้ขอเปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพแบบหมดเปลือก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
โดนมิจฉาชีพหลอกเกี่ยวกับเรื่องรีวิว มันเป็นยังไง?
“จุดเริ่มต้นมันเริ่มจากการที่เราเล่นเฟซบุ๊กอยู่ เราเจอเพจนึงยิงแอดเข้ามารับสมัครอินฟลูเอนเซอร์รีวิวโรงแรม เราก็คิดว่าน่าสนใจ เราเลยลองทักอินบ็อกซ์เข้าไปสอบถามรายละเอียดว่าเดือนนึงรีวิวกี่โรงแรม รีวิวลงแพลตฟอร์มไหนบ้าง ทางแอดมินก็ตอบกลับมาว่าเราต้องกรอกสมัครชื่อนามสกุลเบอร์โทรปกติ เขาพยายามบอกเราว่าเราต้องโหลดแอปฯ นึงชื่อเทเลแกรม เขาให้รหัสการสมัครมา ให้เราโหลดเสร็จแล้วต้องแคปให้ดูด้วยนะว่าเราโหลดแล้วจริงๆ แล้วให้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธุรการในนั้นเกี่ยวกับการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พออยู่ในแอปฯ เทเลแกรม ก็เป็นการคุยหนึ่งต่อหนึ่ง ทุกคนต้องระวังไว้นะคะ มิจฉาชีพนิยมใช้แอปฯ นี้ในการให้เหยื่อโหลด เพราะมันทำลายหลักฐานง่ายค่ะ ไม่สามารถดึงอะไรได้เลย”
เบสท์โหลดแล้วเข้าไปเช็กด้วยว่าเป็นของจริงหรือของปลอม?
“ใช่ค่ะ แล้วเพจที่เด้งโฆษณามากับการรีวิว เราเอาชื่อเพจไปเสิร์จก็ไม่ได้มีข่าวว่าเป็นมิจฉาชีพอะไร แล้วมีชื่อบริษัทด้วยค่ะ ก็มีการจดทะเบียนจริงๆ ค่ะ มิจฉาชีพเอามาจากบริษัทจริง แล้วเอามาหลอกลวงอีกที ขั้นตอนต่อไปก็พูดคุยกันว่าถ้าจะสมัครทดสอบทักษะในการเขียนรีวิวโรงแรม เขาก็ให้เราทดลองเขียนดู 120 ตัวอักษร พอส่งกลับไป เขาก็บอกว่านี่คือเป็นการประเมินมีค่าเสียเวลาให้เรา ในการที่เราเขียน ขอเลขที่บัญชีเรา และโอนเงินมาให้เราจริงๆ เงินก้อนแรก 20 บาท คราวนี้ทุกครั้งที่เขียนรีวิวจะมีการสะสมเป็นคะแนนถ้าสะสมครบ 100 เราจะได้ทำงานนี้ทันที”
บางคนอาจงงทำไมเริ่มจากหลักสิบ จริงๆ เป็นแค่จุดเริ่มต้น ดูทักษะของเรา เราคิดว่าได้ค่าตอบแทนเรื่อยๆ แต่จากหลักสิบก็ค่อยๆ ไล่มาเรื่อยๆ เหมือนสะสมรีวิว?
“ใช่ค่ะ จนสะสมเต็มร้อย คราวนี้เราถามว่ามีอะไรให้รีวิวอีกมั้ยซึ่งพวกนี้เป็นเงินได้เปล่า เราไม่ได้เสียอะไรเลย เขาก็บอกว่าให้เราเข้าทำแคมเปญนึงซึ่งจริงๆ เป็นการแอบอ้าง คืออโกด้าไทยแลนด์ เขาบอกว่าถ้าเราสมัครสมาชิกทำแคมเปญนี้ เราจะได้เงินค่าสมัครด้วย มูลค่าคือ 35 บาท ไม่ได้เยอะมากค่ะ เวลานั้นเราคิดว่าเราไม่ได้เสียอะไรเลย มีแต่เขาโอนมาให้เรา พอเริ่มเข้าไปทำแคมเปญ เขาบอกว่าเราต้องมีทุนสำรองก่อน 400 บาทเป็นค่าเข้าร่วมทำแคปเปญ พอเราโอน 400 ให้เขา ก็จะมีค่าคอมมิชชั่นให้ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ก่อนมีค่าคอมมิชชั่น เราต้องทำการแชร์ลิงก์เป็นโรงแรมไปในแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งเขามีให้เลือก จะแชร์ในเฟซบุ๊ก ไอจี ไลน์ หรือทวิตเตอร์ก็ได้ เบสท์เลือกแชร์ในเฟซบุ๊ก พอแชร์เสร็จเราก็ต้องแคปหลักฐานว่าเราทำการแชร์แล้วนะ โปรโมตให้แล้วก็ส่งกลับไปในแชต เขาเห็นเสร็จเราทำถูกต้อง เขาก็โอนเงินคืน 400 บวกกับ 10 เปอร์เซ็นต์ของ 400 เป็น 440 คืนให้เราทั้งก้อนค่ะ นี่คือขั้นตอนแรกที่เริ่มทำ”
ครั้งที่สองเท่าไหร่?
“1,400 ค่ะ จะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาชักชวนให้เราทำต่อ ตอนนี้คะแนนไป 60 แล้วนะ ขาดอีก 4 ครั้งก็สามารถได้รับการบรรจุเป็นอินฟลูเอนเซอร์เลย มันเป็นการต้อนของเขา ครั้งที่สอง 1,400 สิบเปอร์เซ็นต์ก็บวกมา ได้เงินคืนทุกครั้งนะคะ ครั้งแรกได้คืน 400 ครั้งที่สอง 1,400 ต่อมาเป็น 5 พันกว่า ตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราได้คืนถึงก้อนที่ 4 แต่พอก้อนที่ห้า 10,800 บาท เราก็ทำทุกอย่างเรียบร้อยนะ แชร์เรียบร้อย ส่ง อยู่ดีๆ เขาก็ดีดเราจากที่คุยกันตัวต่อตัว ดีดไปอยู่ในกรุ๊ปวีไอพี ซึ่งเหมือนเราโดนมัดมือชก เราไม่รู้ว่าเราต้องเข้ากลุ่มนี้ เราก็คิดว่าเราจะได้เงินคืนแล้ว แต่อันนี้เป็นแคมเปญกลุ่ม ในนั้นมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน แอดมิน 2 คน มีคนเหมือนร่วมกิจกรรม 5 คน ตอนนี้เงิน 10,800 บาท ที่ยังไม่ได้คืน”
แล้วเกิดอะไรขึ้น?
“ณ ตอนนั้นเราไม่ทราบว่า 4 คนที่มาร่วมทำกิจกรรมกับเรา เขาจะเป็นทีมเดียวกัน ตอนหลังมารู้ว่าเป็นหน้าม้า เราเป็นเหยื่ออยู่คนเดียว ที่เหลือเป็นทีมงานหมดเลย ตอนนั้นเขาบอกว่ากิจกรรมกลุ่มต้องเริ่มจากการโอนเงินไปเพิ่มแล้วทำแชร์เหมือนเดิม ก้อนแรกอยู่ที่ 39,000 บาท”
ตอนนั้นถอดใจมั้ย มันชักเยอะ หมื่นนึงยังค้างอยู่เลย?
“ณ ตอนนั้นเราแค่รู้สึกว่าถ้าเราทำแคมเปญสำเร็จเราถึงจะได้เงินคืน ด้วยความที่เขาหลอกเราตั้งแต่แรกว่าได้เงินคืน เขามีการกดดันหมู่ว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งไม่ทำแคมเปญนี้ อีก 4 คนสูญเงิน ก็คือจะโดนยึดหมดเลย ถ้าเบสท์ไม่ทำ จะมีคนเดือดร้อนเพราะเรา เหมือนกดดันให้เรารู้สึกว่าเราทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราต้องรับผิดชอบแคมเปญนี้ เราก็เลยทำแคมเปญ แคมเปญอันแรกก้อนเกือบ 4 หมื่น ก็ทำเสร็จเรียบร้อย แคมเปญที่สองยอดอยู่ที่ 110,000 บาท อันนี้ก็สำเร็จเรียบร้อย แต่พอเป็นก้อนที่สาม มีแอดมินแจ้งว่ามีคนนึงทำผิดพลาด มันเป็นกลลวงค่ะ อันแรกบอกว่าแชร์หนึ่งแพลตฟอร์ม อันที่สองบอกแชร์หนึ่งแพลตฟอร์ม แต่พออันที่สาม แอบเขียนว่าแชร์สองแพลตฟอร์มโดยที่เราไม่ทันสังเกต คราวนี้กลายเป็นว่าเราเป็นคนที่ทำพลาดคนเดียวในกลุ่ม แล้ว 4 คนก็มารุมตำหนิเรา ว่าเพราะน้องคนเดียว ยิ่งทำให้กดดัน เราก็บอกว่าขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ฉะนั้นเงินทุกก้อน ถูกยึดหมด เพราะเราคนเดียว ณ เวลานั้นเราก็ถูกยึดไปเลย 4 คนก็จะถูกยึด
คราวนี้แอดมินเสนอวิธีแก้ไขแคมเปญนี้ บอกว่าต้องโอนเงินไปเพิ่ม ซึ่งเป็นเงินที่สูงขึ้น 490,000 ณ เวลานั้นเรารู้สึกว่ามันเยอะ แต่ช่วง 3 แคมเปญแรกเขาให้เวลา 15 นาทีนะคะ ในการโอน แต่อันนี้ด้วยความที่เงินก้อนใหญ่ เขาให้เวลาในการโอน 1 ชั่วโมง เราก็เป็นคนที่รู้สึกว่ามันเยอะ ตัวละครตัวนึงก็จะบอกว่าโอนแล้ว เร็ว เสร็จแล้ว อีกคนบอกว่าขอไปหาเงินก่อน อีกคนก็บอกว่าทำยังไงดี มีทักมาหาเราส่วนตัว อ้างว่าเป็นแฟนคลับเราด้วย บอกว่าพี่ไม่มีเงินแล้ว จะทำยังไงดี ถ้าพี่ไม่ทำพลาด เราคงไม่ต้องมาเสียเงินเยอะขนาดนี้ มันพูดกดดันเรา ทักส่วนตัวด้วยค่ะ พอใกล้ถึงเวลา เขาก็กดดันว่าเหลือเราคนเดียวที่ยังไม่โอน ส่วนใหญ่เขาจะให้บ่ายสองครึ่ง เราก็ตัดสินใจ 14.20 น. มีการโอนไปแล้ว เขาเหมือนดึงเวลา กว่าจะตรวจสอบเสร็จ กว่าจะให้เราทำแคมเปญแชร์ ก็ช้า ทุกอย่างช้า ดึงเวลาให้เกิน 1 เวลาที่เขาจำกัด เพื่อให้เราทำไม่สำเร็จ
พอเราทำสำเร็จเรียบร้อย เขาบอกว่าไม่ผ่าน มิจชั่นเฟล เราก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าคุณทำเกินเวลา ทั้งหมด 3 นาที ซึ่งทำให้เราไม่ได้เงินทั้งหมด ตั้งแต่ก้อนแรกถึง 490,000 ทุกคนก็รุมเรา บอกว่าเราทำพลาดรอบที่สองแล้วนะ ทีนี้ก็หนักค่ะ เขาให้แก้ไขอีกเป็นรอบสุดท้าย จำนวนเงินที่โอนคือ 6 แสนบาท เยอะมาก ต้องบอกตามตรงว่า ณ เวลานั้นเงินสดในบัญชีเรามีไม่ถึงแล้ว คราวนี้ด้วยความที่หน้าม้าเขาเห็นว่าเราช้า เขาส่งมาส่วนตัวว่าน้อง เหลือน้องคนเดียวแล้วนะ ทำไมน้องยังไม่โอน เราบอกว่าเราเงินไม่พอ เขาก็ยื่นข้อเสนอให้ยืมด้วยนะ บอกว่าเอางี้มั้ย ให้ยืม น้องขาดเท่าไหร่ เราบอกว่าเราขาด 3 แสนเขาบอกว่าเขาจะให้เรายืม 3 แสน แต่เขาจะไม่โอนตรงให้กับเรา ขอเลขที่บัญชีของแอดมินมาให้เขา เดี๋ยวเขาโอน 3 แสนไป แล้วเราโอน 3 แสนไป”
ก้อนสุดท้ายต้องโอนภายในเวลาเท่าไหร่?
“1 ชม.เหมือนกันค่ะ แต่ไม่จบแค่นั้น เงินเราต้องใช้สองบัญชีในการโอน คราวนี้ก้อน 3 แสนที่เขาให้ยืม เขาส่งสลิปไปตรวจสอบเรียบร้อย แล้วของเรารวมกันเป็น 6 แสน แต่ความที่เรากลัวไม่ทันเวลา เราก็รีบโอน 1.5 แสนก่อน แล้วโอนต่ออีก 1.5 แสน แต่เขาเล่นวิธีตุกติกเราว่าสลิปอันที่สามเราโอนก่อนเขาส่งเลขที่บัญชีใหม่มา เราทำพลาด อันนี้ไม่นับ เราถามว่าแล้วจะแก้ไขยังไง เขาบอกว่าต้องโอนเงินมาอีก 1.5 แสน เราเลยบอกว่างั้นโอนเงิน 1.5 แสนกลับมาสิ เดี๋ยวเราโอนกลับไปใหม่ เขาบอกไม่ได้ มันถอนออกมาไม่ได้ต้องโอนเพิ่ม กลายเป็นว่าเบสท์เสียทั้งหมด 4.5 แสน”
โอนเพิ่มเพราะเขาเปลี่ยนบัญชี?
“ใช่ค่ะ คล้ายๆ บัญชีม้า มันเปลี่ยนเร็วมาก ชื่อนามสกุล แม้กระทั่งธนาคาร ก็เปลี่ยนไปตลอด ไม่ใช่บัญชีเดิม เวลาเขาส่งบัญชีมา ก็จะทำลายหลักฐานภายใน 5 นาที เขาจะลบออก พอเราโอนช้าไป 5 นาที เขาก็ให้เลขใหม่ หลังเราโอนครบเรียบร้อย สำเร็จแล้ว เราก็รอดูแอปฯ ธนาคาร ว่าเงินจะเข้าเมื่อไหร่ ช่วงแรกประมาณ 2 นาทีเงินก็เข้าเราแล้ว แต่รอบนี้เรารอไป 10 นาที ทำไมยังไม่เข้า จนหน้าม้าคนนึงบอกว่าพี่ทำไมช้าจังเลย เกิดอะไรขึ้น ทำไมยังไม่โอน สักพักส่งมาบอกว่าถอนเงินไม่ได้ เพราะวงเงินเกิน 2 ล้าน มีทริกตุกติกอีกแล้ว เหมือนทำแคมเปญจะมีค่าคอมมิชชั่นที่บวกเพิ่มไป ถึงแม้เงินเราจริงๆ จะ 1.2 ล้าน แต่เขาจะบอกว่ามีคอมมิชชั่นที่ให้เพิ่ม ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้สนใจเรื่องคอมมิชชั่นอะไรแล้ว เราสนใจแค่อยากได้เงินเราคืน แต่คราวนี้เขาใช้วิธีว่าโบนัสคุณเยอะเกิน 2 ล้าน การอยู่ห้องวีไอพีหนึ่งไม่สามารถถอนเงินเกิน 2 ล้านได้ ต้องอัปเกรดวีไอพีสอง โดยการปลดล็อกบัญชีให้ถอนเงินออกมาได้ โดยการใช้เงินอีก 5 แสนบาท”
ตอนนั้นเริ่มเอ๊ะใจหรือยัง?
“ณ ตอนนั้นเหมือนเราติดกับดักเขาค่ะ ตอนนั้นเราใจจดใจจ่ออยู่กับมือถือ พยายามหาทางออกว่าจะเอาเงินออกมาให้เร็วที่สุดได้ยังไง จะเอาเงินคืนได้ยังไง คุณพ่อคุณแม่พยายามมาคุยด้วย เราปิดประตูล็อกห้องเราก็ไม่เปิด มีหลายคนพยายามติดต่อเรา เราก็ไม่ได้รับสาย กระทั่งส่งข้อความมาว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เงียบทั้งวัน คนเห็นความผิดปกติของเราแล้วค่ะ”
เขาต้องการให้โอน 5 แสน เบสท์ทำยังไงต่อ?
“ต้องบอกว่า ณ เวลานั้น เงินในบัญชีเรามีไม่พอ ตัวละครนึงที่อ้างว่าเป็นแฟนคลับเรา ก็ทักมาส่วนตัวว่าพี่ไม่อยากได้เงินคืนเหรอ เดี๋ยวหนูให้ยืมก่อนก็ได้ พี่มีเท่าไหร่ ทำเป็นแพทเทิร์นเดิมกับคนก่อนหน้าที่ให้ยืม เราก็เริ่มเอะใจว่าคนเราไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพิ่งมาเจอกัน ทำไมถึงใจดีให้ยืม มันเริ่มแปลก แล้วแพทเทิร์นมันเหมือนเดิม แล้วคนแรกที่ให้ยืมไป เขาก็ดูไม่มีทีท่าที่จะทวงเรา ก็เลยเริ่มเอะใจว่ามันไม่น่าใช่แล้ว บวกกับคนรอบตัวเตือนว่ามันไม่น่าใช่แล้วนะ ให้หยุดทุกอย่าง ก็เลยหยุด พอหยุดเขาก็ทักมาหาเราตลอดว่าเวลาจะหมดแล้วนะ ภายใน 1 ชม. ถ้าไม่โอนจะถูกยึดเงิน
เราตัดสินใจโทรไปอายัดบัญชี 2 บัญชีที่เราโอนออก และโทรไป 1441 แจ้งความ จากนั้นพอเราแจ้งทุกอย่าง ได้เคสไอดี ได้ตัวเลขจากธนาคารทั้งสองธนาคาร จากเจ้าหน้าที่ตร.ก็ไปแจ้งความที่สน.ทองหล่อตอนนั้นเลย ตอนเที่ยงคืน เวลาที่มันเริ่มต้นหลอกลวงคือ 11 โมง เราโอนก้อนสุดท้ายประมาณ 3 ทุ่ม แต่โปรเซสที่เราหยุดแชต หยุดคุยกับเขา ประมาณเที่ยงคืน ประมาณ 13 ชม. ไม่กินข้าว ไม่ดื่มน้ำ ไม่ทำอะไรเลย เหมือนเราขังตัวเองอยู่ในห้อง
มันเหมือนเราถูกสะกดจิตจริงๆ นะ เหมือนเราตกอยู่ในภวังค์ เราไม่เข้าใจว่าทำไมเราเอาตัวเองออกมาไม่ได้ เราจมอยู่ในนั้น มีคนพยายามเตือนเรา แต่เราไม่ฟัง เหมือนคนหูหนวกตาบอดและหูดับ มีคนพยายามบอกว่าไม่น่าใช่แล้วนะ ให้ระวังนะ มีเคสแบบนี้เยอะนะ ขนาดมีคนส่งลิงก์ข่าวแบบนี้ เรายังไม่เปิดดูเลย เราโฟกัสอยู่อย่างเดียว เหมือนใช้จิตวิทยา กดดันหมู่ แล้วมีเรื่องเวลาที่มาบีบคั้นเรา เหมือนต้องภายใน 15 นาที เงินก้อนใหญ่ภายใน 1 ชม. เราก็ไม่รู้ทำไง เราอยากได้เงินเราคืน เราไม่ได้สนใจค่าคอมมิชชั่นหรือโบนัสแล้ว เราอยากได้เงินตัวเองคืนเท่านั้น เราโฟกัสแค่นี้เลย”
วินาทีที่รู้ว่าเราโดนมิจฉาชีพ เรารีบบอกครอบครัวเลยมั้ย?
“ตอนแรกไม่กล้าบอกใคร คุณพ่อคุณแม่พี่สาวไม่กล้าบอกเลย หนูยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าถูกหลอก ตอนนั้นเราตัวสั่น รู้สึกว่าเฮ้ย มันเกิดกับเราจริงๆ เหรอ เรายังไม่เชื่อว่าเราโดนหลอก จนกระทั่งไปแจ้งความถึงรู้ว่าเราโดนหลอกจริงๆ เงินในบัญชีเราหาย ทำให้เรารู้ตัวว่าโดนแล้วจริงๆ ณ เวลานี้ก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เราเจอเป็นเรื่องจริง”
ตายังช็อกอยู่เลย ว่าโดนเหรอ ใช่เหรอ เรื่องจริงเหรอ สายตาเป็นแบบนั้นเลย?
“ที่เราโอนต่อ โอนเพิ่ม เพราะเรามีความหวังว่าจะได้เงินคืนจริงๆ ณ เวลานั้นไม่คิดเลยว่าเราจะถูกหลอก มันเหมือนแบบอีกนิดเดียว แล้วเวลาคนคุยกับเรา ก็บอกว่าเดี๋ยวก่อน ขอเคลียร์ธุระให้เสร็จก่อน เรายังมั่นใจอยู่เลยว่าอีกแป๊บนึงเราจะได้เงินคืนแล้ว แล้วเราจะไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าเราทำอะไรมา แต่พอแบบนี้เราไม่มีโอกาส เหมือนเราพลาดไปแล้ว มันเฟลไปแล้ว”
ทั้งหมดตั้งแต่ก้อนแรกถึงก้อนสุดท้าย โดนไปเท่าไหร่?
“1.2 ล้าน มีเศษอยู่พันกว่าบาทค่ะ”
มีหน้าม้าโกหกว่าจะเอาเงินไปรักษาลูก?
“ใช่ค่ะ พวกนี้เขาทำงานเป็นทีม จะมีตัวละครนึงที่บอกว่าเขาหาเงินไม่ได้ เขาต้องเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง อีกคนบอกว่าลูกสาวป่วย ส่งรูปอยู่บนเตียงมาว่าอยากได้เงินคืนจะเอาไปรักษาลูกสาว แล้วก็มีบอกว่ากำลังขับรถไปหาเงิน มีทักมาส่วนตัว อันนี้เขาส่งในกลุ่มให้เห็นว่าเขาเดือดร้อนมากนะกับสิ่งที่เราทำพลาด ทุกคนต้องการเงินคืน ให้เราเห็นใจด้วยค่ะ”
ให้แบกความรู้สึกผิด ทำให้ยิ่งรู้สึกว่าต้องทำสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ ณ โมเมนต์นั้น ผ่านเหตุการณ์มา ตั้งสติได้แล้ว ไปแจ้งความ เห็นว่าทุกอย่างสายไปหมดแล้ว?
“พวกนี้พอเราโอนไปแล้ว เขาโอนออกไวมากอยู่แล้ว ไม่เกิน 1-10 นาที เขาโอนออกหมดแล้ว เราอายัดบัญชีตอนประมาณ 4 ทุ่ม มันน่าจะไม่ทัน ตร.แจ้งว่าถึงแม้อายัดภายใน 5 นาทีแรกก็ยังไม่ทัน พวกนี้เขาโอนไปเร็วมาก ณ เวลานี้ยังไม่ทราบว่าบัญชีปลายทางที่เรียกว่าบัญชีม้าจะเหลือเงินเท่าไหร่ค่ะ”
ผ่านมากี่วันแล้ว?
“เหตุการณ์เกิดวันที่ 9 ค่ะ ขั้นต้นหลังเราแจ้งความแล้ว ทางตร.ก็อายัดบัญชีถาวรของบัญชีม้าทั้งหมดที่เราโอนไป เขาอยู่ในขั้นดำเนินการตรวจสอบ ทีนี้ต้องรอสเตทเมนต์ทางธนาคารปลายทาง ซึ่งแจ้งว่าตั้งแต่เขาฟรีซบัญชีไปแล้ว เขามีโอนออกเท่าไหร่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตร.ดำเนินการเช็กว่าบัญชีเหลือเท่าไหร่ ซึ่งตร.แจ้งว่าพวกนี้เขาจะแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลเร็วมาก แล้วมันจะตามยาก”
เบสท์ทำใจแล้วว่าไม่น่าได้คืน?
“ทำใจว่าโอกาสได้คืนน่าจะยาก เพราะเงินออกไปแล้ว และเร็วมาก แต่ไม่หมดหวังนะคะ เบสท์เชื่อมั่นตร.ไทยค่ะ ตร.ไทยเก่ง น่าจะจับตัวคนร้ายมาได้ แต่การจับคนร้ายได้ เราอาจไม่ได้เงินคืนหรือเปล่า บัญชีม้าอาจไม่มีเงินชดใช้ บัญชีม้าบางทีเป็นตาสีตาสาเป็นเด็ก เขาไม่มีเงินชดใช้เรา”
ความหวังริบหรี่มากที่จะได้เงินคืน ครอบครัวเป็นไงบ้าง?
“ตอนแรกที่เขารู้เรื่อง เขาก็บอกว่าทำไมถึงโง่โอนให้เขาแบบนี้ เราก็พยายามอธิบายว่าพอคนไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น จะไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงโอนออก ซึ่งโดยส่วนตัวเบสท์ใช้เงินคิดแล้วคิดอีก เป็นคนรู้ค่าของเงิน ค่อนข้างประหยัดค่ะ การที่ใช้ที โอนออกที ค่อนข้างยากสำหรับเรา พ่อแม่คนรอบตัวไม่มีใครเชื่อเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดกับเรา ไม่มีทางเลย แต่ตอนหลังพอหายจากตกใจ พ่อแม่ก็ให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร เงินที่เสียไปแล้วก็ไม่เป็นไร จริงๆ แล้วในมุมเบสท์ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เราสามารถทำงานได้อยู่ เราสามารถมีรายได้ ทำงานมีเงินเข้ามาได้ เงินก้อนนี้ไม่ใช่ก้อนสุดท้ายในชีวิตของเรา หลายๆ คนที่ติดต่อเข้ามาเขาเป็นผู้เสียหาย มาร้องทุกข์กับเรา ว่าเงินก้อนนี้เป็นก้อนสุดท้ายในชีวิตของเขา เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เขาเครียด เบสท์ก็พยายามให้กำลังใจผู้เสียหายทุกคนว่าจริงๆ แล้วเรายังทำงานต่อได้นะ ให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ ตอนนี้ทุกคนเครียดหมด”
ตอนที่ไปแจ้งความ มีเคสที่โดนรีวิวแบบนี้กี่เคส?
“ที่รวบรวมมาได้ เป็นเพจเดียวกัน รีวิวเหมือนกัน ประมาณ 10 คนได้ค่ะ มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ณ ตอนนี้ แต่จะมีคนอื่นๆ ที่เป็นเคสอื่น รีวิวเสื้อผ้า แพ็กของ ผู้เสียหายทุกคน เขาอยากทำงาน อยากหารายได้เสริม คนขยันที่โดน พวกนี้เขายิงแอดเป็นทาเก็ตด้วย เป็นกลุ่มคนที่เป็นวัยทำงาน มีรายได้ เป็นกลุ่มคนเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายไปสมัครเขาไม่รับนะคะ เขาบอกว่าผู้หญิงเป็นเพศเซนเซิทีป ขี้สงสาร และใจไม่แข็งเท่าผู้ชาย ผู้ชายเขาไม่รับเลย เหยื่อมีแต่ผู้หญิงทั้งหมดค่ะ”
ไม่โดนก็ไม่รู้ เวลาโดนแล้วออกมาเป็นกระบอกเสียง แทนที่จะชื่นชม กลายเป็นว่ารุมด่า รุมสาป คอมเมนต์อ่านแล้วจะไปว่าเขาทำไม เช่น สวยแต่โง่ หรือลามไปเรื่องการศึกษา เรียนก็สูงแต่ทำไมไม่ฉลาด เบสท์รู้อยู่แล้วว่าลงแล้วจะเป็นยังไง คำไหนที่คิดว่าแรงมาก?
“ที่โดนก็แรงทุกคำค่ะ จะมีสวยแต่โง่ การศึกษาสูงซะเปล่า โลภ น่าจะโดนเยอะกว่านี้เนอะ มีหลายรูปแบบมาก เอาจริงๆ เบสท์ตั้งรับไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเราออกมาให้ข่าว หรือแชร์ประสบการณ์ ต้องมีคนรุมต่อว่ารุมด่าเรา บางคนสมน้ำหน้า มีหลายรูปแบบมาก พอเราเห็น เราก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วสังคมไทยเดี๋ยวนี้ชอบเบลมเหยื่อ ทำให้เหยื่อไม่กล้าออกมาแชร์ หลายๆ คนที่ติดต่อเบสท์มาบอกว่าพอหนูโพสต์ไปคนก็รุมด่าหนูว่าโง่ หรือบางคนโดนแล้วไม่บอกคุณพ่อคุณแม่เพราะกลัวโดนว่า หรือโดนแล้วหมดเป็นแสนเป็นล้านแต่ไม่กล้าออกมาแชร์เพราะกลัวว่าสังคมจะรุมด่า
ซึ่งโดนด่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ เราทำใจไว้อยู่แล้ว เราตั้งรับไว้อยู่แล้วว่าต้องโดน ก็รู้สึกแย่เหมือนกันค่ะ เบสท์ออกมาไม่ได้ต้องการให้คนสงสาร หรือเห็นใจเรา เราอยากออกมาเตือนภัย ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ การที่เราโดนมันเป็นยังไง อย่างข่าวเบสท์ที่ออกไป เราได้ช่วยเหลือหลายๆ คนนะคะ มีคนส่งข้อความมาบอกว่าต้องขอบคุณเบสท์มากๆ พอกำลังตกหลุมพราง กำลังคลิก พอเห็นข่าวเราในทีวี เห็นข่าวในอินเตอร์เน็ต เขาหยุดทัน หรือบางคนที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว กำลังจะโอนต่อก็หยุดโอนเพราะเห็นจากข่าวเรา ซึ่งคนจะบอกว่าไม่อ่านข่าวบ้างเหรอ ไม่ตามข่าวบ้างเหรอ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย
แต่เบสท์เจอมิจฉาชีพหลอกอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว โทรมาเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือแม้กระทั่งส่งอีเมล์มาติดต่อให้เรารีวิวสินค้าแบรนด์เนม แต่ต้องให้เราโอนค่าชิปปิ้งฟรีไปก่อน อันนี้เราไม่พลาด ไม่หลงกล เพราะทุกอย่างมีเวลาคิดค่ะ มีเวลาไตร่ตรอง แต่เคสนี้ทุกอย่างบีบด้วยเวลา ทำให้เราไม่มีเวลาฉุกคิด ระมัดระวังตัว เอ๊ะหนึ่งเอ๊ะสองมันเลยไม่มี เพราะเราอยากได้เงินคืน ฉะนั้นหลายคนอาจต่อว่าเบสท์ว่าทำไมไม่อ่าน หนูก็ไม่ได้ตอบโต้ แต่ใช้วิธีการชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าสาเหตุอะไรเราถึงตกหลุมพรางเขา เพื่อเป็นการเตือนภัยเขาว่าจริงๆ ถึงเราเป็นคนระมัดระวังตัว แต่จริงๆ บางทีมันก็ไม่พอค่ะ”
อยากบอกอะไรคนที่บอกว่าสวยแต่โง่?
“อยากบอกว่าเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่เจอกับตัวไม่มีวันเข้าใจ ไม่มีวันรู้ แม้กระทั่งเบสท์โดนคนพูดว่าคนโดนมาแล้ว แต่ฉันรอดมาได้ เพราะเธอโง่เอง เธอไม่ฉลาดเอง ก็โดนทุกคำ ไม่ว่าคำไหนที่เราออกมาพูด ก็จะโดนแซะกลับมาเสมอ ก็จะบอกว่าคนเป็นเหยื่อเหมือนกัน ทุกคนพูดว่าเขาเข้าใจเบสท์ เพราะเขาก็เป็นเหมือนกัน”
เครียดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แฟนให้กำลังใจยังไง?
“อย่างแรกเขาไม่ซ้ำเติม เขาไม่ได้ต่อว่าเรา ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาให้กำลังใจ เขาแค่งงว่ามันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง เพราะเขาชอบแซวว่าปกติเงินกระเด็นออกจากบัญชีได้สักบาทมันยากมากคนรอบตัวจะรู้ พอเกิดเหตุการณ์นี้ทุกคนก็บอกว่าไม่น่าเชื่อนะว่าเกิดขึ้นกับเรา”