ลิลลี่ ภัณฑิลา แจง! เหตุร้องไห้หนักเพราะแพนิค ปัด!ทำคอนเทนต์ | คมชัดลึก

 

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนในโซเชียล เมื่อ ลิลลี่ ภัณฑิลา อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์สาวชื่อดัง ออกมาโพสต์ชี้แจงหลังถูกคอมเมนต์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากคอนเทนต์เล่าประสบการณ์บนเครื่องบินที่เกิดเหตุการณ์ “ตกหลุมอากาศ” จนเจ้าตัวเกิดอาการตกใจและกลัวอย่างรุนแรงแม้คลิปดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมจำนวนมาก แต่กลับมีบางคอมเมนต์ที่บอกว่าเธอ “โอเวอร์” และ “เรียกร้องความสนใจ” 

 

ลิลลี่ ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “ลี่ขอบคุณทุกคนมากนะคะ สำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งเข้ามา ลี่ได้อ่านทุกข้อความ รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ ค่ะ”

• ลี่ขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงสำหรับบางความคิดเห็นที่มองว่าเป็นการทำคอนเทนต์หรือเปล่า ถ่ายคลิปทำไม ทำไมต้องร้องไห้ขนาดนั้น กลัวมากเกินไปไหม ลี่อยากชี้แจงว่าลี่อยู่ในสภาวะที่กลัวมากและไม่รู้เลยว่าผู้ช่วยได้บันทึกคลิปไว้ จนกระทั่งออกจากเครื่องแล้วถึงได้เห็น ลี่อยากพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ภาวะแพนิคเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ มันไม่ใช่ความกลัวธรรมดาแต่เป็นอาการทางจิตใจที่ร่างกายตอบสนองอย่างรุนแรง ต่อสถานการณ์ที่รู้สึกว่า “ไม่ปลอดภัย” ซึ่งคนที่ไม่เคยเผชิญด้วยตัวเอง อาจจะไม่สามารถเข้าใจได้ ยิ่งคนที่เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน มันผวามาก

 

 

 

• ปกติลี่เป็นคนมีสติและควบคุมตัวเองได้ดี แต่ลี่ไม่เคยมีประสบการณ์บนเครื่องบินที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ปกติลี่เดินทางบ่อยและค่อนข้างสบายใจกับการขึ้นเครื่องบิน ไม่เคยมีปัญหากับการเดินทางทางอากาศเลยแต่ครั้งนี้มันรุนแรงและยาวนานเกินกว่าที่ลี่เคยเจอมาเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลี่รู้สึกเหมือน “ไม่รู้จะทำยังไง” กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันเข้ามาในหัวเยอะมาก

 

• ลี่เข้าใจนะคะว่าคนทุกคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน และความกลัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ลี่ไม่เคยมีปัญหากับการแสดงความคิดเห็นและไม่เคยตอบโต้ใดๆ แต่ครั้งนี้บางคอมเมนต์มันแรงเกินไปจริง ๆ

 

• ลี่อยากให้ทุกคนช่วยใช้ความเข้าใจและพิจารณาให้รอบด้านก่อนพิมพ์ บางคำพูดอาจส่งผลมากกว่าที่คิด เพราะในโลกความเป็นจริง เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนคนนั้นต้องเผชิญกับอะไรอยู่บ้างในขณะนั้น ลี่แค่อยากแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อเตือนใจหรือเป็นอุทาหรณ์กับใครก็ตามที่อาจเจอสถานการณ์คล้ายกัน ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจ..

 

 

หลังจากชี้แจง ความเห็นจากแฟนคลับและคนในวงการต่างออกมาให้กำลังใจ พร้อมย้ำว่า “ความรู้สึกกลัวไม่ควรถูกตัดสิน” และการแชร์ประสบการณ์จริงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยให้คนตระหนักและเตรียมตัวเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน