บันเทิง

เปิดใจ "ซุง ตาวิน" สาเหตุให้ "ดิว อริสรา" ยืม 20 ล้าน บทเรียนราคาแพง

เปิดใจ "ซุง ตาวิน" สาเหตุให้ "ดิว อริสรา" ยืม 20 ล้าน บทเรียนราคาแพง

20 มี.ค. 2568

"ซุง ตาวิน" เล่าสาเหตุให้ "ดิว อริสรา" ยืม 20 ล้าน เห็นเป็นดารา ใช้ชีวิต Luxury ที่สำคัญสงสารเพราะท้องอยู่ อนาคตเจอยกมือไหว้ได้

"ซุง ตาวิน" นาคทองเพชร ยูทูบเบอร์หนุ่ม คนที่ให้ "ดิว อริสรา" ยืมเงิน 20 ล้านบาท ก่อนที่ดาราสาวจะยืมทรัพย์สินของ "เมย์ วาสนา" โดยอ้างว่า ต้องหาเงินมาคืนซุงให้ได้ตามกำหนด ไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อน 


ซุง เล่าว่า จริงๆปัญหาตนและคุณดิวจบไปตั้งแต่ ส.ค. ปีที่แล้ว ที่คืนเงิน 12 ล้าน 5 แสนบาท จนกระทั่งล่าสุดทีมของคุณเมย์วาสนาติดต่อมา ยอมรับว่า ผิดที่ตนเองที่เชื่อใจ เพราะติดตามคุณดิวตั้งแต่เด็กๆ ตามคอนเท้นต์ ตามอินสตราแกรมและเห็นไลฟ์สไลต์ค่อนข้างLuxury (ฟุ่มเฟือย) การใช้ชีวิต ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาการเงิน ที่ผ่านมาตนไม่รู้จักคุณดิวเป็นการส่วนตัว แต่รู้จักกันผ่านรุ่นพี่คนนึง ชื่อ แทม ซึ่งรุ่นพี่คนนี้คอยให้การช่วยเหลือกันมาตลอด  ถ้าไม่มีรุ่นพี่คนนี้คงไม่มีความรู้ธุรกิจได้มากเท่าไร 
 

ในตอนแรกที่ให้ยืม ไม่ทราบว่า คือ ดิว อริสรา แต่เพราะเชื่อใจรุ่นพี่ และมารู้ทีหลังว่าคือคุณดิว ก็ไม่คิดอะไร เพราะเห็นเป็นดาราและท้องอยู่ ซึ่งตอนที่ตัดสินใจให้ยืมเงิน เป็นเหตุผลให้ตนเองใจอ่อน เพราะตอนนั้นรุ่นพี่เล่าให้ฟังว่าเขาร้องไห้และพี่แทมกับตนเองก็เป็นคนขี้สงสารเหมือนกัน เมื่อเขาเดือดร้อน เขาบอกถ้าไม่ได้เงิน ของที่สต็อกอยู่จะถูกยึด ตนเองเลยมองว่า ลูกที่อยู่ในท้องก็ไม่รู้เรื่อง หากต้องเกิดมาเจอเหตุการณ์นี้ การให้ยืมในตอนนั้นอาจจะช่วยปลดล็อกปัญหา และตนมองว่า คุณดิวเขาคงจะช็อตจริงๆ เนื่องจากตนเองก็ขายสินค้า เข้าใจสภาพคล่องทางการเงิน ถ้าหมุนไม่ทัน ในการเข้าโมเด้นเทรดต่างๆ เลยค่อนข้างเข้าใจ ตอนนั้นเลยมานั่งดูเงินในบัญชีตัวเองแล้วคิดว่า ชีวิตเราไม่ได้เดือดร้อน คิดว่าน่าจะพอช่วยรุ่นพี่เขาได้และถือเป็นการตอบแทนในการช่วยเหลือรุ่นพี่ตนเองด้วย

 

เปิดใจ \"ซุง ตาวิน\" สาเหตุให้ \"ดิว อริสรา\" ยืม 20 ล้าน บทเรียนราคาแพง


ซุง ยอมรับว่า ตอนแรกไม่ได้เผื่อใจอะไร เพราะเชื่อใจว่าทั้งหมดจะได้คืน แต่พอถึงกำหนดวันแรกนัดคืนเงิน แล้วขอเลื่อนก็ใจแป้ว แล้วพอเขาขอเลื่อน ก็รู้สึกว่า โห! มันเป็นเงินที่ตนเองทำงานเก็บเงินมา ซึ่งตนเองอาจจะทำกิริยาไม่เหมาะสมในการทวงเงิน จึงอยากขอโทษพี่ๆด้วย แต่เจตนาของตนเองในตอนนั้นคือ อยากได้เงิน 12.5 ล้านบาท 

โดยยืนยันว่า ไม่ได้อยากได้ดอกเบี้ย และหากไปดูแชทข้อความที่คุยกัน จะเห็นว่า ตนเองกับรุ่นพี่ไม่ได้สนใจเรื่องดอกเบี้ย เพราะการคิดที่จะช่วย คือ ไม่หวังผลตอบแทน ถ้าหวังผลคือไม่ใช่การช่วย ซึ่งเจตนาของตนเองคือ การช่วยรุ่นพี่และช่วยพี่คนหนึ่งที่ท้องอยู่เพื่อไม่ให้บริษัทเขาล้ม โดยไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร แต่ทางคุณดิวเสนอมาว่าจะยืม 20 ล้านบาท แล้วบวกให้อีก 2 ล้านบาท และเช็คที่สั่งจ่ายชื่อตนเองคือ 12.5 ล้านบาท เพราะตนเองไม่ได้ต้องการดอกเบี้ยใดๆ โดยคุณดิวคืนเงินช้าจากกำหนดเวลาไปทั้งหมด 14 วัน และหลังจากตนได้เงินคืนครบ ก็ไม่เคยได้คุยกันอีก ได้เงินคืนก็จบ 


ส่วนแชตที่ตนเองไปถามเรื่องดอกเบี้ย เพราะเงินของพี่แทม ยังได้ไม่ครบ และในแชตตนเองเลิกยุ่งไปเป็นเดือนแล้ว แต่พี่แทมยังได้เงินไม่ครบเลยฝากให้ตนเองช่วยเช็กหน่อย  ซึ่งถ้าจะเช็กจะต้องพิมพ์ถามเรื่องดอกเบี้ยฝั่งตนเอง ซึ่งหากเขาคืนมา ก็จะโอนเงินให้พี่แทม แต่ตนเองไม่ทราบว่า เขายังค้างเงินพี่แทมเท่าไร รู้แค่ว่ายังคืนไม่ครบและเท่าที่ตนเองทราบและได้คุยกับพี่แทม คือ เขาจะเคลียร์กันเองเรื่องเงิน เพราะเขาเป็นเพื่อนกัน ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่ทราบ

   
ส่วนที่มองว่า ตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดคดีความ ซุง กล่าวว่า ถ้าคุณดิวหรือใครต่างๆคิดว่าตนเป็นต้นเหตุ ตนขอโทษด้วย ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นจริงๆ มีเจตนาแค่อยากช่วยคน

   
แต่เมื่อเรื่องราวเป็นคดีความแล้วนั้น ตนเองยินดีที่จะให้ความร่วมมือหากเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะต้องไปให้การอย่างไร แต่การที่ออกมาพูดในวันนี้ อย่างน้อยตนเองขอออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดตามหลักฐานโดยไม่ปิดบังอะไรเลย รวมถึงเรื่องสร้อยของคุณเมย์ ที่ตนเองได้ดูรูป ซึ่งของไม่ได้อยู่กับตนเอง แต่แชตข้อความที่คุณดิวบอกเป็นสร้อยของคุณดิว แต่ตนเองคิดว่าอาจจะเป็นของคุณเมย์หรือไม่ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเจตนาหนึ่งที่อยากจะออกมาพูด เพื่อให้ทุกฝ่ายทำงานกันได้ง่ายขึ้นด้วย และหลังจากนี้ถ้าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ยินดีเข้าร่วมตามกฎหมาย หากจะทำให้พี่ๆทุกคนทำงานกันง่ายขึ้น

   
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มองคุณดิวเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น ซุง ตอบว่า หลังจากที่เขาคืนเงินมา ก็ไม่ได้มองอะไร เพราะตนเองก็ทำธุรกิจ ไม่ได้คิดถึงฝั่งคุณดิวเลย คืนเงินก็จบ และตนเองก็แฮปปี้กับการทำธุรกิจ เลยไม่ได้ต้องมองว่าอย่างไร และตนเองก็ขออย่าไปด่าครอบครัวพี่เขา และหลังจากนี้ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย อยากให้คุณดิวเข้มแข็ง เข้าใจว่าเรื่องมันหนัก และขอให้ผ่านไปได้ ซึ่งโอกาสมีให้สำหรับทุกคน และใครจะให้โอกาสใครหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละละคน 

 

เมื่อถามว่า อนาคตจะร่วมงานกันได้หรือไม่ ซุง กล่าวว่า ด้วยงานและชีวิตของตนเองคงไม่ได้เจอพี่ดิว เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้รู้จักส่วนตัว แต่ถ้าเจอก็ยกมือไหว้ได้ปกติ ไม่ได้โกรธ เพราะเขาคืนเงินผมครบแล้ว แต่อาจจะช้าหน่อย

 

ซุง กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกินคำว่าช็อก เพราะตนเองอาจจะไม่รอบคอบ และรอบคอบไม่พอเอง การจะให้ใครยืมเงินแล้วไม่ดูข้อกฎหมาย และให้ยืมโดยที่ไม่มีอะไรเลย โดยเขียนสั่งจ่ายเช็คไปเลย ไม่มีสัญญาใดๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้ตนเองโตขึ้น แค่อยากช่วยจริงๆ ส่วนถ้ามีคนจะมายืมเงินอีก ก็คงต้องดูละเอียดมากขึ้น หรือถ้าอยากจะช่วยอาจจะเปลี่ยนเป็นให้เลยน่าจะโอเคกว่า 


"ก็อาจจะเป็นหนึ่งบทเรียนที่ทำให้ผมโตขึ้น และทำให้ผมรอบคอบขึ้นในการเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีในชีวิต แต่เป็นเรื่องที่เรียนรู้และแก้ปัญหา ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน" ซุงกล่าว