'ตู่' กับเส้นทางดนตรี ที่ขอขีดเส้นเอง | คมชัดลึก

  "เตรียมทำอัลบั้มที่สองแล้ว และคิดว่าอัลบั้มที่สอง ก็คงทำตามใจตัวเองเหมือนเดิม แนวเพลงก็คงเป็นแนวเพลงเดิม คือเป็นแบบอาร์แอนด์บี ผสมโซลเข้าไป อัลบั้มใหม่นี้พยายามคิดให้น้อยที่สุด ว่าเราควรจะทำอะไรเพื่อตามใจคนฟัง ถึงในอัลบั้มแรก จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีก็ตาม เพราะว่าจริงๆ แล้ว มันควรจะเริ่มจากข้างในเราว่าเราแฮปปี้ ที่จะทำอะไรมากกว่า ตู่ว่าคนฟังเขารู้สึกได้ ถึงความตั้งใจทำของเรา ถ้าเรารักสิ่งที่เราทำออกมา เราเชื่อว่าเราต้องหาคนฟังได้ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะตู่เองก็เป็นคนฟังเพลงเหมือนกัน" นักร้องหนุ่มชี้แจง ก่อนจะพูดถึงอัลบั้มดีเกินคาดจนทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น

 "ฟีดแบ็กอัลบั้มดีมาก อัลบั้มแรก ก็เหมือนเป็นการลองของด้วย โปรดิวเซอร์ที่ไม่เคยทำงานด้วยกันมาก่อนอย่างโค โค บอย และด้วยสไตล์เพลงตู่ก็ไม่แน่ใจ ว่าคนจะตอบรับยังไง ก็ลองดู พอคนชอบเพลง ปล่อยไป 2 ซิงเกิ้ลอย่างเพลงคิดอะไร คนยังเฉยๆ เหมือนคนจะชอบฟังเพลงช้าเพลงเศร้าจากตู่มากกว่า เพลงที่สอง ก็คือโปรดอย่ามาสงสาร มีติดชาร์ตบ้างอะไรบ้าง ก็รู้สึกอาจจะคิดถูกแล้ว ที่มาทางนี้ ปีที่แล้วเหมือนเป็นการแจ้งเกิดตู่เต็มตัว ก่อนหน้านี้มีร่วมร้องเพลงในอัลบั้มของพี่บอย (บอย โกสิยพงษ์) เพลงโน้นเพลงนี้ ยังไม่มีของตัวเองมาชัดเจน อัลบั้มเดี่ยวออกมาก็เหมือนเป็นการแจ้งเกิด ทั้งที่ทำมาหลายปีแล้ว (หัวเราะ) เมื่อก่อนผมทำเพลงชื่อสักเท่าไหร่ อยู่ในอัลบั้มเดอะเรนเจอร์ ซึ่งตอนนั้นคนอาจไม่รู้จัก ตอนนี้ก็มีคนเข้าไปดูในยูทูบเพิ่มขึ้นจากเดิมเยอะเลย" ศิลปินคนเก่งเผยความรู้สึก

 พอถามถึงว่าตอนทำอัลบั้มแรกคาดหวังไหม ว่าจะเปรี้ยงปร้างเป็นที่รู้จักไหม นักร้องหนุ่มรีบออกตัวว่าไม่เคยคิดว่าอัลบั้มแรกจะเป็นที่รู้จัก เพราะตอนทำคิดแต่ทำเพราะใจรักเท่านั้น

 "อัลบั้มแรกมีความคาดหวังน้อยมาก บอกตรงๆ เพราะว่าเราชอบของเราเอง ในความคิดเราคิดว่ามันไม่น่าจะโดนคนอื่นเท่าไหร่ อัลบั้มที่แล้วตั้งใจทำให้ตัวเอง ทำตามใจตัวเอง เราทำตรงนี้ เพราะเรามีความสุขที่เราได้ทำดนตรี ถ้าเราอยู่ในห้องอัดแล้วเราฝืนที่จะทำ เราก็คงไม่ทำออกมา" ตู่ ยังเผยถึงการที่อัลบั้มแรกได้รับการตอบรับดี จนทำให้เกิดความกดดันในการทำอัลบั้มที่สอง

 "อัลบั้มที่สองมีความกดดันบ้าง มีคิดบ้าง ว่าจะทำออกมาได้ดีอย่างนั้นหรือเปล่า ในความคิดของผมก็คือเราควรทำตามใจตัวเอง และนึกไปถึงจุดนั้นที่เราทำอัลบั้มแรก แล้วเราก็แฮปปี้ คิดว่าควรจะใช้ความคิดเหมือนเดิม เพื่อให้เราได้งานที่ออกมาจากห้องอัดแบบแฮปปี้ มิฉะนั้นมันจะกดดันตัวเอง อย่างมินิอัลบั้มแรก ตู่ทำทุกเพลงออกมา มีเหลือเพลงที่เก็บไว้แค่ 2 เพลงเอง บางคนทำเป็นสิบเพลงยี่สิบเพลง แต่เลือกมาแค่ไม่กี่เพลง แต่ตู่ใช้เพลงทุกเพลงที่เราทำ เพราะเราใช้ความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก"

 ศิลปินลูกหม้อ เลิฟอีส เล่าถึงการเริ่มทำอัลบั้มใหม่ว่าตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเขียนเพลงเท่านั้น แต่คาดว่าจะเสร็จเป็นอัลบั้มประมาณปลายปีนี้

 "กำลังเขียนเพลงใหม่ ตอนนี้เขียนเพิ่มมาอีก 2 เพลง และที่เหลืออีก 2 เพลง เพราะอัลบั้มใหม่ ก็คงเป็นมินิอัลบั้ม 6 เพลงเหมือนอัลบั้มแรก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าห้องอัด ยังมีงานโชว์ตัวอยู่ตลอด ก็เลยยังไม่ได้โฟกัสอัลบั้มใหม่อย่างจริงจัง แต่คุยกันไว้ว่ามินิอัลบั้มใหม่ น่าจะออกไม่เกินปลายปีนี้ จริงๆ ตอนที่คุยกันเราอยากให้มินิอัลบั้มแรกกับอัลบั้มที่สองออกมาใกล้ๆ กันกว่านี้ แต่เพราะอัลบั้มแรกเพลงของเราก็ยังมีปล่อยอยู่" ลูกหม้อเลิฟอีสกล่าวก่อนจะออกโรงโต้ข่าวที่คนมองว่าเป็นเงาของ บอย โกสิยพงษ์ ว่าโปรดิวเซอร์คนเก่งเป็นผู้ปลุกปั้นและสร้างเขาขึ้น 

 "ตู่ได้โอกาสจากพี่บอย พี่บอยหยิบยื่นโอกาสให้ตู่ พี่เขาสอนอะไรให้เราหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการเขียนเพลง ตู่ให้ความเคารพนับถือพี่บอยมาก และไม่เคยคิดว่าเป็นเงาของพี่เขาเลย" "ตู่" ภพธร กล่าวปิดท้าย