หลักฐานพร้อม! "ณวัฒน์" มั่นใจ "ต๋อย ไตรภพ" เป็นคนธรรมะ ไม่โกงใคร | คมชัดลึก

ซึ่งประเด็นนี้ "ณวัฒน์" ได้ออกมาพูดในฐานะคนสนิทของ "ต๋อย ไตรภพ" ว่า ผมได้คุยกับพี่ต๋อย ผมทำรายการกับแกมานานมากเป็น 10 กว่าปี เรื่องความตั้งใจ ถ้าเขารู้เขาไม่ทำอยู่แล้ว แต่เอาตรงๆ นะพอมันมาในรูปแบบนี้มันเลยไปกันใหญ่ เขาไม่รู้หรอก เขาจะโกงใครเขาก็ไม่โกงหรอก แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้วตอนนี้ พี่เขาก็พร้อมเสมอ ใครเรียกเขาก็จะไปเลย เตรียมเอกสารไว้ให้ครบแล้ว เพียงแต่เขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าเขาไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้น หรือใครจะเรียกเขาไปตรงไหน พี่เขาก็ยินดีให้ความร่วมมือ

ส่วนหลักฐานบิลที่จ่ายกับรายการอันนั้นจริง ช่วงยุคทีวีตกต่ำมันก็จะมีพวกไทอินตัวเอง ก็ต้องยอมรับว่าทุกสถานีมีหมด ตรงนี้มันสะท้อนว่าใครทำรายการโทรทัศน์อยู่ จะต้องดูให้ดีมากขึ้น วงการโทรทัศน์มันเป็นซันเซ็ตแล้ว คงจะต้องมีแพลตฟอร์มคู่ขนาน เดี๋ยวทีวีมันก็จะจบสิ้นไปแล้ว เราจะไปง้ออำนาจเงินแบบนี้เพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ได้ มันอาจจะอันตรายอย่างที่เราเห็น ในวันนึงที่มันกลายเป็นเรื่องอื่นไป

ผมก็บอกแกว่าผมรู้จักพี่นะ ผมการันตีพี่ได้ว่าพี่ไม่เคยคิดจะโกงใคร พี่เป็นคนธรรมะ พี่ไม่คบคน พี่ไม่ไปงานใคร พี่ไม่เคยปรากฎตัวที่อื่นนอกจากในสตูดิโอ นี่คือข้อดีอย่างหนึ่ง ถ้าพี่ต๋อยไปงานดิไอคอนสักงานหนึ่ง หรือไปธุระ หรือไปหาที่ออฟฟิศ มันก็อาจจะรู้สึกว่ามันมีอะไร แต่โชคดีที่เขาเชิญนับครั้งไม่ถ้วนแต่พี่ต๋อยไม่เคยไปเลย

มันก็เลยกลายเป็น เขามาหาที่สตูดิโอแล้วนำเรื่องมาเสนอ แล้วพี่ต๋อยก็ทำหน้าที่พิธีกรไป ส่วนเงินที่ได้มาก็ต้องยอมรับว่าได้มาจริงๆ เป็นเงินมาร์เก็ตติ้ง ผมพูดตามความจริงทั้งหมด ถ้าเจ้าหน้าที่จะเรียกผมว่าเรียกได้เลย ผมว่าแกพร้อม

ผมว่ามันเป็นบทเรียนของทุกคน ถ้าผมยังทำรายการเพชรรามาอยู่ ผมก็ต้องมีพวกเขาล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะมันจะมาในรูปแบบการซื้อสื่อ เป็นการโฆษณาในรูปแบบของความน่าเชื่อถือ ซึ่งมันยากมากกับธุรกิจทีวีในยุคนี้ 

ถามว่ามันมีส่วนกับผู้คนไหม มันมีส่วน เพราะเนื้อทอล์กจะมีอยู่ 3 นาที ซึ่งตรงกฎ กสทช. ที่ 3 นาทีสุดท้ายสามารถขายของได้ ผมว่าจากนี้เป็นต้นไป กสทช. ต้องชัดเจนด้วยว่าจากนี้จะต้องใช้เวลาตรวจเทปกันยังไง หรือจะต้องส่งเอกสารอะไรมากขึ้นกว่านี้ไหม หรือระงับไม่ให้ทำเลย ก็สามารถบอกเป็นนโยบายมา เพราะตอนนี้วงการทีวีมันเหมือนดิ้นรนเอาตัวรอดไปวันๆนึง