
ไลฟ์สด "แซม ยุรนันท์" ย้ำชัด นั่ง ผ.อ. แต่ไม่ได้บริหาร The iCon Group
ประเด็นเดือดขึ้นติดเทรนด์ #บริษัทขายตรงที่เป็นข่าว หลังจากมีเพจดังออกมาแฉว่า มีดาราดังหลายคนมีตำแหน่งสำคัญ เป็นแม่ขาย พ่อข่าย หลอกคนให้ลงทุน จนหลายคนโยงไปที่เหล่าคนดังอย่าง "แซม ยุรนันท์ , มีน พีชญา, กันต์ กันตถาวร"
จากเรื่องราวร้อนแรงที่เกิดขึ้น ล่าสุด "แซม ยุรนันท์" พระเอกดังได้ออกมาเปิดใจกับ คมชัดลึกบันเทิง เป็นที่แรก โดยกล่าวว่า "มีโอกาสได้รู้จักกับ คุณพอล (เจ้าของ The iCon Group) เรามีธุรกิจอยู่แล้ว และเขาก็สนใจในธุรกิจของเรา มีการพูดคุยกันสักระยะหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเชิญมาเป็นพรีเซนเตอร์ ส่วนตัวเราไม่เคยเป็นลูกน้องใครนะ เขาก็บอกว่า ให้เกียรติ และเชิญมาดูแลในส่วนของผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ ตำแหน่งตามที่ปรากฏในข่าว "ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและวิจัยผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ดิ ไอคอน จำกัด"
หน้าที่แท้จริงในบริษัท? :
"ขอบเขตหน้าที่ของตำแหน่งนี้ คือ ช่วยคิดค้น ตามหานวัตกรรมใหม่ๆ เทรนด์ของโลกไปทางไหน นำความโดดเด่นมาใช้ เอาจริงๆ เป็นแค่ที่ปรึกษานะ เพราะให้แค่หน้าที่ ไม่ให้อำนาจในการตัดสินใจ มีแค่ให้ข้อเสนอแนะเฉยๆ พี่ก็ค่อยๆเรียนรู้การทำงานไปเรื่อยๆ หน้าที่ของพี่อีกอย่าง ทุกวันอาทิตย์มีคลาส 1 ชั่วโมง เป็นคลาสแล้วแต่ความสนใจของแต่ละคน อย่างคราสของพี่ คือ เกี่ยวกับสินค้า เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และข้อมูลเชิงลึก"
มีแพลนไม่ต่อสัญญา? :
"เมื่อคืนที่แล้ว ยังบอกว่า พี่อาจจะไม่ต่อ เพราะการทำงานอาจจะไม่ใช่แนวพี่ เพราะพี่พูดก่อนเมื่อเกือบเดือนที่แล้ว กำลังจะใกล้หมดสัญญาพอดี เพราะบางอย่าพี่เสนอไป แล้วเขาก็ปฏิเสธ ทำให้พี่รู้สึกเสียเซลฟ์บ้าง จนต้องไปฟ้องเมีย เพราะเจ้าของเขาไม่เอา ทำยังไงได้ แต่พอมาถึงเหตุการณ์แบบนี้ พี่ก็บอกว่า พอลออกมาพูดให้สังคมเขารู้นะ เพราะพี่เป็นคนของประชาชนมาตั้งแต่เด็ก"
ความรู้สึกหลังทราบข่าว? :
"เห็นข่าวแล้วตกใจมาก บางคนล้มละลาย ไม่มีจะกิน มันเกิดจากอะไร เพราะเราได้รับข้อมูลจากเขา ที่ทำให้เห็นว่า เป็นธุรกิจที่หลายคนได้ผลประโยชน์ แต่พอรู้ว่า มีคนที่ขายไม่ได้ มันเกิดจากอะไร แล้วทำไมเขาขายไม่ได้ ทำไมถึงซื้อไปเยอะขนาดนั้น คุณไปหลอกเขาหรือเปล่า และหลอกวิธีไหน แต่ตอนนี้เรื่องความเดือดร้อน ต้องไปช่วยเขาละ ใครขายเก่งๆ ต้องมาช่วยเขาแล้ว"
เรื่องดราม่า หลอกให้ลงทุน? :
"เช่นเดียวกับคนที่บอกว่า ขายได้เยอะ ไม่มีใครมาเล่า แต่ตอนนี้มีมุมเดียว คนที่ขายไม่ได้ มันเกิดจากอะไร หรือ มันเกิดจากสภาพเศรษฐกิจ เพราะหลายคนได้รับผลกระทบเยอะมาก กำลังซื้อมันถดถอยอยู่แล้ว ตอนนี้พี่ไม่ได้มองเรื่องผิดถูก แต่พี่มองว่า เราจะช่วยเหลือกันอย่างไรต่อ"
ได้พูดคุยกับ คุณพอล วรัตน์พล หรือไม่? :
"พอล เขาก็เห็นด้วยกับวิธีที่พี่เสนอไป ถ้าบริษัทผิดจริงๆ พี่ไม่ได้เข้าข้างนะ พี่ต้องเข้าข้างคนเดือดร้อนก่อน ว่าตอนนี้ แชร์ลูกโซ่ ผิดกฏหมาย พี่ดูมาหมดแล้ว มันไม่มีข้อนั้น แต่ระหว่างทางนั้น เราไม่รู้"
การมาทำงานในตำแหน่งที่ว่า? :
"กับบริษัทนี้ พี่เพิ่งเข้ามาอยู่ล่าสุด แต่ก่อนที่พี่จะไปทำอะไร พี่คิดเยอะมาก เพราะภาพลักษณ์ของพี่สำคัญมาก ความร่ำรวยไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพี่ พี่อยากมีความสุขที่สุดมากกว่า เอาจริงๆ การที่พี่มาอยู่ที่ดิไอคอน พี่เสียรายได้เยอะกว่าเดิมอีก แต่พี่ได้ความรู้เพิ่มเติม"
จากข่าวนี้ กลายเป็นว่า ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย? :
"เหตุผลที่พี่ต้องถ่ายละครไป แล้วก็วิ่งมาหาเธอ พี่ก็พยายามหาเวลามาตอบ เพราะพี่เข้าใจ อันนั้นพี่ตอบได้ตอบ ใครที่ตัดสินพี่ พี่เข้าใจว่าเขายังไม่รู้จัก แต่ถ้าพี่อธิบายไปแล้ว และเขาไม่เข้าใจ ค่อยมาตัดสิน เพราะในฐานะศิลปินคนมีชื่อเสียง การที่เราขาย หรือเป็นพรีเซนเตอร์ คือ เราน่าเชื่อถือ คนเลยมาซื้อ ก่อนจะเป็นพรีเซนเตอร์อะไร เราต้องรู้ก่อนว่า เหมาะกับสินค้านั้นไหม ลองใช้ และตรวจสอบว่า ผ่าน อย. หรือเปล่า"
ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหาร? :
"พี่ไม่ได้ยุ่งในส่วนของการบริหาร เรื่องตำแหน่งที่ได้รับคือ การให้เกียรติ แต่ถ้าถามว่า พี่เข้าไปยุ่งหรือไม่ พี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาร เพราะมันไม่ได้อยู่ในสัญญาของพี่ แต่เรื่องจะมีใครเปิดยอดใคร คนที่เข้ามาใหม่ จะไปยุ่งยังไง เพราะเขาบริหารกันมานานแล้ว เพราะตอนที่พี่มาอยู่ คือช่วงที่ลง เขาเลยมาหาทางว่า จะทำยังไงให้สินค้าเขาไปได้ไกลกว่าเดิม เป็นตำแหน่งที่ให้เกียรติพี่มากกว่า (กันต์ - มิน พีรญา?) แล้วแต่สัญญาครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน"
รายได้ส่วนต่างจากบริษัท มีคนบอกว่า เรารวยจากตรงนี้? :
"เขาจะส่งสินค้ามาให้พี่ทุกเดือน เช่น เดือนนี้ขายได้เท่าไหร่ เราก็จะได้จากส่วนนั้น เหตุผลที่ไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเขาใจดีให้ส่วนต่างเพิ่ม หากสินค้าขายได้ แต่ถ้าขายไม่ได้ ก็ต้องยอมรับ ซึ่งสิ่งที่เราได้ พี่ไม่รู้ว่าระบบตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ที่เราทราบคือ ระบบพรีเซนเตอร์ บางยี่ห้อจะได้คอมมิชชั่น เพื่อจูงใจให้คนขายอย่างที่ทราบ อาทิ ถ้าเราโพสต์ลงไอจี หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พี่ไม่ได้ร่ำรวยจากตรงนี้ พี่มีทุกอย่างมาก่อนหรือเปล่า บ้านรถ หรืออะไร แต่เรื่องความโกรธแค้น ที่กระหน่ำเข้ามา ทำให้เกิดความไขว้เขว พี่อยากให้แยกให้ออก เพราะถ้ามองแต่ตรงนั้น มันจะแก้ปัญหาไม่ได้ พี่เชื่อว่า พอลจะช่วยเยียวยา คนที่ไปไม่รอด มันคือเรื่องของมนุษยธรรม เขายินดีรับข้อเสนอ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตอนไหน ส่วนเรื่องผิดถูกคืออีกเรื่อง "
ความคิดเห็นในการทำธุรกิจ? :
"คนที่จะเริ่มต้นจากการทำธุรกิจนี้ ควรเริ่มจากการลองใช้ อันไหนดี ทำแล้วดีค่อยต่อยอด อย่าถาโถมไปแบบนั้น ถ้าบอกว่าโดนหลอก แล้วบริษัทพี่ไม่เข้าข้าง แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่อ้างว่า เป็นตัวแทน ก็ต้องชัดเจนตรงนี้"
ดราม่า เรื่องซื้อคอร์สเรียน? :
"คอร์สเรียนของพี่ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะ แต่ที่มีข่าวว่า ไปขายคอร์ส สมมติในมุมของคนไม่รู้อะไรแล้วไปเสียเงินเรียน แต่เรื่องที่ต้องซื้อหรือไม่ พี่มองว่า ไม่ต้องซื้อนะ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคร แต่ถ้าพุดว่า มีกระบวนการต้มตุ๋น อันนี้เป็นข้อกล่าวหา และอาจจะมีจริงก็ได้ ถ้ามีจริง ควรจะออกมาเปิดเผย เพราะกำลังทำให้คนลำบาก
สภาพจิตใจ ณ ตอนนี้? :
"แฮปปี้ที่จะได้สื่อสารนะ ถ้าใครเดือดร้อน ขายไม่ได้ ต้องทำยังไงก็ได้ให้ขายให้ได้ อยู่ที่ว่า บริษัทจะเลือกวิธีไหนแล้วแหละ เรื่องที่โกรธ ตอนนี้ต้องหาวิธีแก้ปัญหา เรื่องคืนสินค้า ถามพี่ก็อยากให้คืน แต่มันเป็นบริษัทนิ พี่ไม่ทราบว่า จะยังไง แต่คิดว่า ไม่น่าจะคืนได้ ตามหลักของกฏหมาย ตอนนี้พี่ขอมองเรื่องความเดือดร้อน ให้จบสวยที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า"
เตือนภัย ระวังถูกหลอกซ้ำ? :
"ระวังเจอหลอกซ้ำซาก เห็นว่า มีทนายออกมาบอกจะทำยังไงก้ได้ให้บริษัทคืนทุกอย่าง แต่ต้องจ่ายค่าทนายความคนละหมื่น ระวังนะครับ เพราะตอนนี้ดิไอคอนเขาก็บอกว่า ให้เปิดเข้าไปคุยนิ แต่ถ้าเขาไม่รับ มาเลยบอกสื่อ พี่พร้อมที่จะช่วยหาทางออกร่วมกัน"
หากหมดสัญญา เรื่องภาพพรีเซนเตอร์ที่มีการสั่งให้ปลดออกหรือไม่? :
"ใกล้จะหมดสัญญา จะเอาลงเมื่อไหร่ ต้องมีการพูดคุย ถ้าพี่ไม่ได้ช่วยเรื่องสินค้า จะให้พี่เป็นพรีเซนเตอร์ หรือ เรื่องรูปที่ขอใช้ ยังไม่ได้มีการคุยรายละเอียด เพราะส่วนหนึ่งเราก็รู้จักกัน และพี่ก็เข้าใจพอลด้วย เพราะเขาบอกว่า โลกเขาโรยด้วยกลีบกุหลาบ ตอนนี้เขาก็เครียดนะ เพราะเริ่มต้นการเปิดบริษัท ถ้าพี่รู้ว่าจะมาทำให้คนตายแบบนี้ พี่คงไม่เข้า เพราะสิ่งที่เราเห็นคือ เขาประสบความสำเร็จ และให้โอกาสกับคนอื่น"
สิ่งที่อยากจะบอกกับประชาชน? :
"เป็นสองส่วนนะครับ คนที่ผิดพลาด ล้มเหลว อยากให้ทุกคนมาพุดคุยกันโดยดี ให้บริษัทมาช่วยในทิศทางที่ถูกต้อง และอยากจะพูดกับคนที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ถ้าเรามีเงินทุนก้อนนึง การลุงทุนมันคุ้มหรือเปล่า เพราะพี่เช็กแล้ว มันก็ไม่ได้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แต่มันเป็นการซื้อขายของ และหาคนมาซื้อขายของต่อ มันไม่ได้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ สิ่งที่มีการกล่าวหาว่า ต้องหาคนมาเติมให้ได้ พี่ยังไม่เคยเห็น แต่ถ้ามีจริงๆ ต้องผิด"